กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
กระทรวงไอซีที ผนึกกำลังหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ให้บริการข้อมูลข่าวสารแบบ One Stop Service อำนวยความสะดวก แก่ประชาชนในช่วงสงกรานต์ โดยประสานความร่วมมือกับ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย กรมการขนส่ง ทางบก และกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข กองบังคับการตำรวจทางหลวง และกองบังคับการตำรวจจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถาบันการเงิน และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รวมทั้งหน่วยงานในสังกัด ได้แก่ กรมอุตุนิยมวิทยา สำนักงานสถิติแห่งชาติ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ บมจ.ทีโอที บมจ.กสท โทรคมนาคม บจ.ไปรษณีย์ไทย สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ฯ เพื่อบูรณาการข้อมูลข่าวสารด้านต่างๆ และให้บริการแก่ประชาชน
นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยในการแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “กระทรวง ICT ห่วงใยเที่ยวสงกรานต์กลับบ้านปลอดภัย” ว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปีจะมีประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาด้านการจราจรและอุบัติเหตุ อันนำมาซึ่งความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน นายกรัฐมนตรี จึงได้มีนโยบายในการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนด้วยการบริการแบบจุดเดียว (One Stop Service) ผ่านช่องทางระบบออนไลน์และระบบ Call Center โดยการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารการบริการภาครัฐเพื่อให้เกิดบริการแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพในช่วงสงกรานต์ และได้มอบหมายให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศ ดำเนินการวางระบบการสื่อสารสารสนเทศเพื่อบริการประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์
กระทรวงไอซีที จึงได้จัดทำโครงการ “กระทรวง ICT ห่วงใยเที่ยวสงกรานต์กลับบ้านปลอดภัย” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการข้อมูลในด้านต่างๆ แก่ประชาชนสำหรับใช้ประโยชน์ในการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ อาทิ ข้อมูลแผนที่ เส้นทางการจราจร สถานีตำรวจ โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน/แก๊ส ตู้เอทีเอ็ม เป็นต้น รวมทั้งเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และเพื่อให้ประชาชนเกิดการรับรู้ เข้าถึง และใช้ประโยชน์จากข้อมูลบริการต่างๆ ของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องในช่วงเทศกาลสงกรานต์
ในการดำเนินโครงการดังกล่าว กระทรวงไอซีที ได้พัฒนาระบบและเว็บไซต์ www.ictcare.or.th สำหรับบริการประชาชนขึ้น โดยมีรูปแบบเป็นการบูรณาการข้อมูลการจราจรจากระบบต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงมีการสร้างช่องทางใหม่เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการรายงานอุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งผู้พบเห็นเหตุการณ์สามารถรายงานข้อมูลข่าวสาร โดยการถ่ายภาพจากเหตุการณ์จริงด้วยโทรศัพท์มือถือแล้วส่งเข้าสู่ระบบและรายงาน ควบคู่ไปกับข้อมูลด้านการจราจรที่เกิดขึ้นในขณะใดขณะหนึ่ง อันเป็นการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ทันเหตุการณ์และถูกต้อง แม่นยำมากขึ้น นอกจากนี้ ระบบดังกล่าวยังมีการบูรณาการกับระบบของหน่วยงานภาครัฐ องค์กร และมูลนิธิต่างๆ เพื่อแจ้งปัญหา ขอความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหา และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในช่วงสงกรานต์ปีนี้ ซึ่งระบบดังกล่าวจะทำงานภายใต้ระบบ Government Cloud Service ของสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) ซึ่งมีความพร้อมในการรองรับการใช้งานจำนวนมากในคราวเดียวกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“สำหรับเข้าถึงระบบบริการข้อมูลของกระทรวงไอซีทีนั้น ประชาชนสามารถเข้าถึงได้จากหลายช่องทางไม่ว่าจะผ่านทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ระบบโทรศัพท์สมาร์ทโฟน และพอร์ทัลเว็บ ซึ่งกระทรวงฯ ได้มีการพัฒนา Application “ICT Care” ที่รองรับระบบ iOS ตั้งแต่เวอร์ชั่น 5.0 ขึ้นไป โดยสามารถเชื่อมต่อข้อมูลต่างๆ เช่น ข้อมูลเส้นทางการจราจรแบบ Realtime iOS ข้อมูลกล้องวงจรปิดเพื่อแสดงผลในโทรศัพท์มือถือระบบ iOS การสร้างระบบรายงานอุบัติเหตุจากภาคประชาชนเพื่อส่งภาพเข้าสู่ศูนย์กลางรับเรื่องแล้วส่งต่อไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ และมีการร่วมมือในการแจ้งข่าวสารผ่านสถานีโทรทัศน์ การจัดทำเมนูเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน คัดกรองข้อมูลก่อนแสดงผล เป็นต้น พร้อมกันนี้ ประชาชนยังสามารถเข้าถึงข้อมูลทางระบบ Call Center ผ่านหมายเลข 1111 และ 192 เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการจราจร ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่จัดกิจกรรมในช่วงสงกรานต์ สถานที่พัก สถานีตำรวจ รวมถึงแจ้งเหตุฉุกเฉินต่างๆ โดยหากเป็นเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์สามารถแจ้งเหตุได้ที่หมายเลข 1669
นอกจากนั้น กระทรวงฯ ยังได้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการรองรับเหตุฉุกเฉินของกระทรวงไอซีทีขึ้น เพื่อประสานงานกับหน่วยงาน ในสังกัด ได้แก่ กรมอุตุนิยมวิทยา สำนักงานสถิติแห่งชาติ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ บมจ.ทีโอที บมจ.กสท โทรคมนาคม บจ.ไปรษณีย์ไทย สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากทุกกระทรวง อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น ตลอดจนเครือข่ายวิทยุชุมชนภาคประชาชน ในการบูรณาการรวบรวมข้อมูลข่าวสารด้านต่างๆ และบริหารจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลจากระบบบริการข้อมูลได้ครบเพียงแหล่งเดียว หรือ One Stop Service ตามนโยบายที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายไว้” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว