กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--กทม.
เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.47) เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมปฏิบัติการกรุงเทพมหานคร (OR) นายมุดตาฝ้า หมันงะ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารศูนย์วิจัยและพัฒนากรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 4/2547 ในการประชุมได้มีการพิจารณาการดำเนินโครงการศึกษาวิจัย 3 โครงการ ได้แก่ โครงการจ้างที่ปรึกษาเพื่อปรับปรุงระบบควบคุมสัญญาณไฟจราจร เป็นพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานคร (เอทีซี) โครงการวิเคราะห์และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่วิกฤติ และโครงการศึกษา สำรวจ ออกแบบ และจัดทำแผนแม่บทระบบระบายน้ำ
นายชิตชนก เขมาวุฒานนท์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กล่าวว่า ระบบเอทีซีของกทม.นั้น ได้มีการจัดทำเป็น 2 ระยะ คือโครงการติดตั้งระบบควบคุมสัญญาณไฟจราจรเป็นพื้นที่ระยะที่ 1 เมื่อปี 2536 จำนวน 143 ทางแยก 3 ทางข้าม ครอบคลุมพื้นที่เขตชั้นใน พื้นที่ 31 ตารางกิโลเมตร และโครงการติดตั้งระบบควบคุมสัญญาณไฟจราจรเป็นพื้นที่ระยะที่ 2 เมื่อปี 2539 จำนวน 226 ทางแยก ครอบคลุมเขตชั้นกลาง พื้นที่ประมาณ 150 ตารางกิโลเมตร ทั้งนี้ในปัจจุบันระบบดังกล่าวขาดประสิทธิภาพในการควบคุมการจราจร เนื่องจากบริษัทผู้รับเหมาหยุดงานก่อนพัฒนาระบบให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ ทำให้ไม่สามารถปรับปรุงฐานข้อมูลให้สอดคล้องกับสภาพจราจรที่เปลี่ยนไป โครงการดังกล่าวจึงจำเป็นต้องมีการปรับปรุงให้เป็นระบบที่ทันสมัยและใช้การได้อย่างมี ประสิทธิภาพ จึงควรว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อปรับปรุงระบบดังกล่าว
ส่วนโครงการวิเคราะห์และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่วิกฤตนั้น มีความจำเป็นต้องเร่ง ดำเนินการ เนื่องจากกรุงเทพมหานครประสบปัญหาการจราจรติดขัด โดยเฉพาะมีพื้นที่จุดวิกฤตด้านการจราจรหลายจุด เช่น พื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พื้นที่ถนนพระรามที่ 4 พื้นที่ลาดพร้าว เป็นต้น การจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ ต้องทำการศึกษาและแก้ไขอย่างเป็นระบบ ประกอบกับสำนักการจราจรและขนส่งมีบุคลากรจำกัด ขาดผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในการสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้เทคโนโลยีโปรแกรมสำเร็จรูประบบคอมพิวเตอร์ เนื่องจากการศึกษาต้องใช้เทคนิคและเทคโนโลยีระดับสูงในการวิเคราะห์วิจัย
นายยลโชค สุขมาก ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กล่าวว่า สำหรับวัตถุประสงค์ของการดำเนินโครงการศึกษา สำรวจ ออกแบบ และจัดทำแผนแม่บทระบบระบายน้ำพื้นที่เขตบางกอกน้อย เขตบางกอกใหญ่ เขตราษฎร์บูรณะ เขตทุ่งครุ และ เขตบางขุนเทียนนั้น เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีปัญหาน้ำท่วม ทั้งจากน้ำหนุนและน้ำฝน ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนมา โดยตลอด จึงจำเป็นต้องมีแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่มีประสิทธิภาพ และโครงการดังกล่าว ต้องใช้หลักวิชาการที่ซับซ้อนหลายด้าน เช่น งานศึกษาด้านอุทกวิทยา งานศึกษาด้านคุณภาพน้ำ งานสำรวจภูมิประเทศ งานออกแบบวิศวกรรม งานติดตั้งอุปกรณ์เพื่อหาข้อมูลภาคสนาม งานจัดทำระบบและฐานข้อมูล จำเป็นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญหลายด้าน เช่น วิศวกรแหล่งน้ำ วิศวกร ชลศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญระบบฐานข้อมูล ผู้เชี่ยวชาญด้านองค์กร รวมทั้งโครงการนี้มีปริมาณงานมาก จึงเห็นควรจ้างผู้เชี่ยวชาญดำเนินการจัดทำแผนแม่บทระบบระบายน้ำในพื้นที่ดังกล่าวที่ประชุมเห็นชอบในหลักการให้ดำเนินการโครงการทั้ง 3 โครงการดังกล่าว โดยให้ทางสำนักการจราจรและขนส่งและสำนักการระบายน้ำ รับข้อเสนอแนะจากคณะกรรมการฯ ไปปฏิบัติ ส่วนงบประมาณในการดำเนินโครงการจะเสนอให้ทางสำนักงาน งบประมาณพิจารณาต่อไป--จบ--
-นห-