กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
ฟิทช์ ได้ปรับแนวโน้มเครดิตของธนาคารเอเชียเป็นมีเสถียรภาพจากเดิมที่แนวโน้มเครดิตเป็นลบ ฟิทช์ยังได้ประกาศคงอันดับเครดิตระดับสากลของธนาคารระยะยาวไว้ที่ 'BBB' ระยะสั้นที่ 'F3' ความแข็งแกร่งทางการเงินที่ 'D' และอันดับเครดิตสนับสนุนที่ระดับ 2 ในขณะเดียวกัน ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ก็ได้ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตในประเทศ (National Rating) ของธนาคารเอเชียเป็นมีเสถียรภาพจากเดิมที่แนวโน้มเครดิตเป็นลบและคงอันดับเครดิตในประเทศของธนาคารระยะยาวไว้ที่ 'AA+(tha)' ระยะสั้นที่ 'F1+(tha)' และอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่ 'AA(tha)'
การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นผลมาจากที่ธนาคาร ABN AMRO ได้เซ็นสัญญาซื้อขายกับธนาคารUnited Overseas Bank ("UOB") ของสิงค์โปร์ เพื่อที่จะขายหุ้น 81% ในธนาคารเอเชียที่ถือโดยธนาคาร ABN AMRO ภายใต้ข้อตกลงตามสัญญา ราคาซื้อขายหุ้นของธนาคารเอเชียอยู่ที่ 5.35 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 22 พันล้านบาท การซื้อขายครั้งนี้คาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2547 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการบรรลุเงื่อนไขบางประการซึ่งรวมไปถึงการได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจากธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลัง ซึ่งน่าจะได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี
ธนาคารเอเชีย เป็นธนาคารขนาดใหญ่เป็นอันดับ 9 ในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 3%ของสินเชื่อและเงินฝากและมีสาขาทั้งหมด 128 สาขา อันดับเครดิตของธนาคาร UOB อยู่ในระดับเดียวกับธนาคาร ABN AMRO ที่ 'AA-' (AA minus) ตามการจัดอันดับเครดิตสากล
ในปัจจุบัน ธนาคาร UOB ถือหุ้นจำนวน 79% ในธนาคารยูโอบีรัตนสิน ซึ่งมีสัดส่วนทางการตลาดประมาณ 1% และมีสาขาทั้งหมด 36 สาขา อันดับเครดิตสนับสนุนของธนาคารยูโอบีรัตนสินอยู่ที่ระดับ 2 ตามนโยบาย "One Presence" ภายใต้แผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ธนาคาร UOB สามารถมีสถาบันการเงินที่รับเงินฝากจากประชาชนเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ดังนั้น อาจมีความเป็นไปได้ที่ธนาคารยูโอบีรัตนสินและธนาคารเอเชียจะถูกควบรวมกันหลังจากการดำเนินการซื้อขายหุ้นนี้เสร็จสิ้นลง ธนาคาร UOB ได้ชี้แจงว่า ในฐานะที่ธนาคารเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ทางธนาคาร UOB จะสนับสนุนทางด้านเงินกองทุน สภาพคล่อง และการดำเนินงานของธนาคารที่ถูกควบรวม และขึ้นอยู่กับว่าโครงสร้างของการควบรวมจะเกิดขึ้นในรูปแบบใด อันดับเครดิตของธนาคารเอเชียหรือของธนาคารยูโอบีรัตนสินจะถูกถอนหลังจากการควบรวมกิจการ
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่า 'AAA' ในระดับการจัดอันดับเครดิตแบบสากล (International Ratings) อันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถเปรียบเทียบกับอันดับเครดิตแบบสากล เนื่องจากอันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ "AAA" และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น "AAA(tha)" ในกรณีของประเทศไทย
ติดต่อ
ชัยพัฒน์ ไพฑูรย์, Vincent Milton, กรุงเทพฯ +662 655 4762/4759
David Marshall, ฮ่องกง +852 2263 9963--จบ--
-นท-