สงกรานต์ ‘ บานตะไท ’

ข่าวทั่วไป Thursday April 12, 2012 11:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 เม.ย.--TK park สงกรานต์ เป็นประเพณีเก่าแก่ของไทยสืบทอดมาแต่โบราณคู่มากับประเพณีตรุษ จึงมีการเรียกรวมกันว่า ประเพณีตรุษสงกรานต์ หมายถึงประเพณีส่งท้ายปีเก่า และต้อนรับปีใหม่ ซึ่งเทศกาลสงกรานต์นั้น ไม่ได้มีเพียงแต่บ้านเราเท่านั้น ประเทศเพื่อนบ้านทั้ง กัมพูชา พม่า และลาว ก็มีเทศกาลสงกรานต์เป็นวันเฉลิมฉลองขึ้นปีใหม่ด้วยเช่นกัน ซึ่งแต่ละประเทศมีแบบฉบับที่เหมือนและแตกต่างจากไทย ราชอาณาจักรกัมพูชา เทศกาลสงกรานต์ของราชอาณาจักรกัมพูชาถือได้ว่าชาวกัมพูชายังรักษาประเพณีดั้งเดิมได้เป็นอย่างดี มีการทำบุญในช่วงเช้าและช่วงบ่ายจึงออกมาเล่นสาดน้ำกัน ในวันที่สองของเทศกาล ลูกหลานที่แยกตัวออกไปทำงานหรือมีครอบครัวข้างนอกก็กลับมารวมตัวกันที่บ้านเพื่อทำบุญไหว้บรรพบุรุษ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในเทศกาลนี้เลยทีเดียว นอกจากนั้นตามจังหวัดติดชายแดนอย่างจังหวัดตราด ก็มีชาวกัมพูชาข้ามมาร่วมเล่นสาดน้ำกับคนไทยอย่างสนุกสนานทุกๆ ปีอีกด้วย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประเทศบ้านพี่เมืองน้องอย่างลาวมีรูปแบบเทศกาลสงกรานต์ไม่ต่างจากบ้านเราเท่าไร มีการทำบุญ สรงน้ำพระพุทธรูป และเล่นน้ำเหมือนกัน สร้างบรรยากาศการเล่นสงกรานต์แบบย้อนยุค ในหลายจังหวัดที่มีชายแดนติดกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวก็มีการจัดเทศกาลสงกรานต์ร่วมกันอีกด้วย อย่าง สงกรานต์ผูกสายสิญจน์เชื่อมโยงพระธาตุสองแผ่นดิน จ.นครพนม ถือเป็นการสานสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศที่น่าชื่นใจ สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า บรรยากาศเทศกาลสงกรานต์ในสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่ามีความคล้ายคลึงกับบ้านเรา ทั้งประเพณีทางศาสนาที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา รวมไปถึงการเล่นน้ำที่สนุกสนาน แต่ก็ยังอยู่ในขอบเขตที่ทางรัฐบาลได้กำหนดไว้ โดยเฉพาะในเมืองย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ และเนปีดอ ในภาษาพม่านั้นไม่ได้เรียกว่า สงกรานต์ แต่มีชื่อเรียกได้หลายคำอย่าง “ตะจังเหย่ตะเบงบะแวด่อ” หรือ “เหย่บะแวด่อ” คำว่า เหย่ แปลว่า พิธีน้ำ ส่วน บะแวด่อ แปลว่า เทศกาล แต่ปัจจุบันวันสงกรานต์ในความหมายสากล ได้มีความหมายบิดเบือนไปจากอดีตมาก จนเกิดการประชาสัมพันธ์ในเชิงการท่องเที่ยวว่าเป็น “ Water Festival” ซึ่งมีความหมายเพียงการเล่นสาดน้ำ แต่แท้ที่จริงแล้ววันสงกรานต์ไม่ได้มีกิจกรรมเพียงแค่การสาดน้ำเท่านั้น กิจกรรมบันเทิงเริงรมย์ที่นิยมในเทศกาลสงกรานต์ของไทย นอกจากการทำบุญตักบาตร , การสรงน้ำพระ , การรดน้ำผู้ใหญ่ , การปล่อยนกปล่อยปลา และการขนทรายเข้าวัดเพื่อเป็นนิมิตโชคลาภ ให้มีความสุขความเจริญแล้ว ยังมีการละเล่นแบบไทยๆ รวมทั้งอาหารและขนมไทย อาทิ ข้าวแช่ กะละแม ขนมจ๊อก ลูกชุบ เป็นต้น หรือการประดิษฐ์น้ำอบน้ำปรุง และดินสอพอง ซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันในเทศกาลสงกรานต์ ทั้งนี้ การประดิษฐ์น้ำอบน้ำปรุง และดินสอพองนั้นถือเป็นภูมิปัญญาไทย โดยนำเอาวัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่นที่มีสรรพคุณในการคลายร้อนมาประกอบในการทำ อาทิ “น้ำอบ” เป็นคำที่เรียกใช้เครื่องหอมที่เป็นน้ำ ใช้เป็นเครื่องประทินผิว การทำน้ำอบจะใช้ดอกไม้สดที่มีกลิ่นหอม เช่น ดอกมะลิ ดอกแก้ว ดอกชมนาด ฯลฯ เนื้อไม้ ยางไม้ เช่น ผิวมะกรูด แก่นไม้จันทร์ เปลือกชะลูด โดยนำมาอบ ร่ำ ในน้ำให้มีกลิ่นหอมเย็นเป็นธรรมชาติ มักทำใช้กันในครัวเรือน และใช้กันวันต่อวัน เพราะถ้าทิ้งไว้นานกลิ่นของดอกไม้สดจะเปลี่ยน ส่วน “น้ำอบไทย” คือ น้ำที่อบด้วยควันกำยาน หรือเทียนอบ (ทำจากผิวมะกรูด กำยาน น้ำตาลแดง ขี้ผึ้ง และจันทน์เทศ) นำมาปรุงด้วยเครื่องหอมมีลักษณะเป็นน้ำใสสีเหลืองอ่อนๆ ซึ่งแตกต่างจากน้ำหอม หรือน้ำอบฝรั่ง ปัจจุบันจะนำไปใช้ในพิธีกรรมต่างๆ เช่น งานมงคลสมรส งานสงกรานต์ งานขึ้นปีใหม่ สรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และใช้ในงานศพ เป็นต้น สำหรับ การทำ “ดินสอพอง” หรือ มาร์ลสโตนนั้น จัดอยู่ในสมุนไพรจำพวกแร่ธาตุ หรือเรียกว่าเครื่องยาธาตุวัตถุ เป็นยาสมุนไพรเก่าแก่ปรากฏมีอยู่ใน “ตำราพระโอสถพระนารายณ์” คนโบราณมักใช้นำมาทำแป้งประร่างกายเพื่อให้เย็นสบาย เมื่อผสมน้ำหอมเข้าไปด้วยกลายเป็นแป้งกระแจะ มีสรรพคุณแก้ผิวหนังแพ้ ลมพิษ ผด ผื่น และคัน เป็นยาห้ามเหงื่อ ทำให้ร่างกายเย็นสบาย ไม่เหนียวเหนอะ สามารถป้องกันแดดและยังช่วยขจัดสิวเสี้ยน ความรู้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเหล่านี้ น้องๆ สามารถแวะเข้ามาสัมผัสและร่วมสืบสานประเพณีแบบไทยๆ นี้ได้ในงาน “เทศกาลสงกรานต์บานตะไทย 2555” ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 13 — อาทิตย์ที่ 22 เมษายน 2555 ตั้งแต่เวลา 11.00 — 17.00 น. ณ อุทยานการเรียนรู้ TK park ชั้น 8 Dazzle Zone ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ (ปิดทำการวันจันทร์) นอกจากจะได้สนุกสนานกับกิจกรรมบันเทิงรื่นเริงจากการละเล่นพื้นบ้านทั้ง 4 ภาค การลั่นกลองสะบัดชัย เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยในวันเถลิงศก จากภาคเหนือ , การขับขานเพลงทำนองชาวใต้กับคณะลิเกฮูลู , เถิดเทิงรำซิ่ง สนุกเซิ้งกับ โปงลาน เครื่องดนตรีแดนอีสาน และเพลินเพลง “อีแซว มหาสงกรานต์” จาก อ.ชำเลือง มณีวงศ์ ปราชญ์เพลงอีแซวดีเด่น 10 ปีซ้อน จังหวัดสุพรรณบุรี น้องๆ ยังจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการประดิษฐ์ “ดินสอพอง”แป้งหอมไทยจากหมู่บ้านดินสอพอง จังหวัดลพบุรี , การทำ “เครื่องหอม” จาก ผศ.ไศลเพชร ศรีสุวรรณ ผู้คิดค้นน้ำอบไทยสูตร 3 ฤดู และสูตรดอกบัว เจ้าของผลงานวิจัยดีเด่น Seoul International Invention Fair 2009 และ นักวิจัยดีเด่นประจำปี 2010 นอกจากนี้มาเรียนรู้การทำ “ลูกชุบ” ขนมไทยพื้นบ้านจาก อ.ธนวิทย์ ลายิ้ม หัวหน้าสาขาวิชาธุรกิจอาหาร คณะเทคโนโลยี คณหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล กรุงเทพฯ รวมถึงการประดิษฐ์ “ขลุ่ยนก” จากกลุ่มรุ่งอรุณของเล่นพื้นบ้าน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-2574300 หรือ www.tkpark.or.th ฝ่ายประสานงานประชาสัมพันธ์ TK park โทร.02-270-1350-4ต่อ 115

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ