กรุงเทพฯ--12 เม.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,655 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,659 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.91 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,200 บาท กับ 24,300 บาท และกลับมาปิดที่ 24,150 บาท กับ 24,250 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 4,031 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 9,887 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 6 คู่สัญญา ปริมาณการซื้อขาย Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 7% แบบ 10 บาท ลดลง 3% Silver Futures เพิ่มขึ้น 0.7% GFJ12 ปิดที่ 24,410 บาท เและ GFM12 ปิดที่ 24,560 บาท และ GF10J12 ปิดที่ 24,420 บาท และ GF10M12 ปิดที่ 24,590 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 40 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 1,660 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 15.8 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 31.52 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำที่ 1,286.16 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 1.68 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 102.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 89.46 จุด ปิดที่ระดับ 12,805.39 จุด
Ratio Gold / Silver เท่ากับ 52 ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
- ราคาทองคำตลาด COMEX ปรับตัวลดลงเล็กน้อยหลังจากการรายงาน Fed’s Beige Book เรื่องเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาเติบโตในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์จนถึงสิ้นเดือนมีนาคม โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิถุนายนปิดตลาดที่ระดับ 1,658.4 เหรียญ/ออนซ์ในตลาดอิเล็กทรอนิกส์ หรือลดลงประมาณ 2% จากราคาปิดเวลาตีหนึ่งครึ่งในรายงาน Beige Book ระบุว่า เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกายังคงมีการขยายตัวในระดับปานกลาง โดยภาคการผลิตได้รับแรงสนับสนุนจากรถยนต์และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีระดับสูง ในขณะที่บริษัทส่วนใหญ่แสดงออกถึงความคิดเชิงบวกเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะอันใกล้นี้ อย่างไรก็ตามกลุ่มธุรกิจหลายแห่งยังมีความกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ การจ้างงานยังคงที่หรือเพิ่มขึ้นไม่มากนักในหลายๆ เขต การหาคนงานที่เหมาะสมยังคงเป็นอุปสรรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งที่ต้องมีความชำนาญสูง ซึ่งความกดดันที่เพิ่มขึ้นในเรื่องค่าแรงยังถูกจำกัดอยู่ และอัตราเงินเฟ้อโดยภาพรวมแล้วยังไม่มากนัก
- เมื่อวานนี้ราคาทองคำมีการแกว่งตัวในทิศทาง Sideway ซึ่งเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ยังคงไม่ทำอะไรเพื่อเป็นการรอผลการรายงาน Beige Book โดยในช่วงหลายๆ วัน ราคาทองคำได้รับอิทธิพลอย่างมากจากการรายงานของเฟดและจากความเห็นของเจ้าหน้าที่ต่างๆ ของเฟด โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำร่วงลงเกือบถึงระดับ 1,600 เหรียญหลังจากที่มีการรายงานผลการประชุมเดือนมีนาคมในการประชุม FOMC ที่เผยว่าอาจมีมาตรการ QE3 หากเศรษฐกิจสูญเสีย momentum หรือหากอัตราเงินเฟ้ออยู่ต่ำกว่าระดับ 2%
- US-base gold trader กล่าวว่า หลายคนที่คาดหวังว่าเฟดจะออกมาตรการ QE3 ในปีนี้ เพราะฉะนั้นทุกคำพูดที่กล่าวโดยธนาคารกลางจะถูกตีความหมายอย่างละเอียด โดยนโยบายผ่อนคลายการเงินจะส่งผลดีต่อทองคำ เนื่องจากการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบจะทำให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และส่งผลต่อความเสี่ยงในเรื่องเงินเฟ้อ นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสเปนอายุ 10 ปีลดลงตามความเห็นจากอีซีบีที่ว่า อีซีบีอาจมีแผนการเข้าซื้อพันธบัตรอีกครั้งเร็วๆ นี้
- ทางด้านตลาดโลก สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์มาอยู่ที่ระดับ 1.3102 ดอลลาร์/ยูโร ในขณะที่ดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 มีการรีบาวน์กลับ 0.81% และ 0.82% ตามลำดับ
- ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้านี้ตามการแข็งค่าของสกุลเงินยูโร จากการผ่อนคลายในเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ของสเปนหลังจากที่อีซีบีได้ส่งสัญญาณว่ามีความพร้อมในการเข้ามากั้นขวางตลาดหนี้
- ความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ของสเปนมีการผ่อนคลายลง เนื่องจากนาย Benoit Coeure บอร์ดบริหารของอีซีบีได้กล่าวว่า ความกดดันของสเปนจะได้รับการปฏิรูปโดยรัฐบาลและอีซีบียังคงมีแผนการเข้าซื้อพันธบัตรไว้เป็นทางเลือก แต่ความกังวลในยูโรโซนยังคงมีอยู่ โดยต้นทุนการกู้ยืมของอิตาลีอายุ 1 ปีเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนในการประมูลขายตั๋วเงินคลังระยะสั้นเมื่อวานนี้ และวันนี้อิตาลีจะมีการประมูลพันธบัตรอายุ 3 ปี
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้ จากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางการเงินของยุโรปและอุปทานในพันธบัตรที่มีอิทธิพลต่อตลาด
- ประธานที่ปรึกษากลุ่มโลหะ GFMS กล่าวเมื่อวานนี้ว่า ระดับราคาทองคำเหนือ 2,000 เหรียญในปีหน้าอาจเป็นจุดสูงสุดของภาวะกระทิงในระยะมากกว่า 10 ปีราคาทองคำ ตามที่นโยบายการเงินเริ่มกลับมาเป็นปกติ
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันพุธ
- Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 9.0M คาดการณ์ว่าจะลดลงอยู่ที่ระดับ 2.1M ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นที่ระดับ 2.8M
- Federal Budget Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -231.7B คาดการณ์ว่าจะติดลบลดลงอยู่ที่ระดับ -202.5B ตัวเลขจริงออกมาติดลบน้อยลงอยู่ที่ระดับ -198.2B
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
- Trade Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -52.6B คาดการณ์ติดลบน้อยลงอยู่ที่ระดับ -51.7B
- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 357K คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นที่ระดับ 359K
- PPI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.4 คาดการณ์ว่าจะลดลงอยู่ที่ระดับ 0.3
- Core PPI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2 คาดการณ์ว่าเท่าเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในทิศทง sideway ในกรอบ 1,650 — 1,665 เหรียญ ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางในตลาด Gold Futures และทองคำแท่ง โดยปริมาณ Gold Futures เมื่อคืนนี้มีปริมาณ 2,310 คู่สัญญา และราคาทองคำยังแกว่งตัวในกรอบแคบๆ เพื่อรอข่าวการแถลงของนายเบอร์นันเกในวันศุกร์ หรือความชัดเจนของมาตรการ QE3 โดยดัชนีดาวโจนส์มี Technical Rebound เล็กน้อย ขึ้นมา 89.46 จุด โดยที่ภาพรวมของภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกายังไม่ชัดเจน รวมทั้งการประมูลพันธบัตรในฝั่งยูโรโซนดูจะไม่ค่อยมีคนสนใจเท่าไร แต่ข่าวทางยูโรโซนไม่ค่อยส่งผลต่อราคาทองคำมากนัก
Gold Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,320 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,550 บาท
Gold Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,460 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,680 บาท
Silver Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 970 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,010 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade)
เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,650 — 1,665 เหรียญ ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว
นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade)
ขายทำกำไรบ้างบางส่วน ถือครองพอร์ทที่ 50 % ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
ถือครองพอร์ทที่ 40 % รอจังหวะเข้าช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ขายทำกำไรเมื่อชนบริเวณแนวต้าน
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง