MONEY EXPO 2004 คึกคัก คนแห่ชมงานล้นหลาม

ข่าวทั่วไป Monday May 17, 2004 11:09 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 พ.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นายสันติ วิริยะรังสฤษฏ์ ประธานคณะกรรมการจัดงาน MONEY EXPO 2004 เปิดเผยถึงงานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 4 MONEY EXPO 2004 ที่จัดขึ้นเป็นเวลา 4 วันในวันพฤหัสบดีที่ 13- วันอาทิตย์ที่ 16 พฤษภาคม 2547 ว่า ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยในช่วง 2 วันที่ ผ่านมามีผู้เข้าชมงานกว่า 200,000คน และมียอดธุรกรรมเกิดขึ้นในงานแล้วประมาณ12,000 ล้านบาท
สำหรับบริการยอดฮิตของธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานสมัครใช้บริการเป็นจำนวนมากก็คือ บริการบัตรเครดิต รองลงมาคือสินเชื่อบ้าน และสินเชื่อบุคคล ทางด้านบริษัทโบรกเกอร์และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมก็ได้รับความสนใจจากผู้ชมงานไม่น้อยหน้า ส่วนกิจกรรมสัมมนาที่ให้ความรู้ทางด้านการเงินและการลงทุนก็ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะหัวข้อที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์หุ้นและการลงทุนต่างๆ ซึ่งผู้ร่วมงานหมุนเวียนมาเข้าฟังไม่ขาดสายและบางรายการถึงกับยอมนั่งพื้นเลยทีเดียว
ธนาคารแข่งดุเดือด
ส่งทีมขายลุยชิงลูกค้า
ธนาคารกสิกรไทย ระดมทีมขายกันมาอย่างแน่นขนัดชนิดที่เรียกว่าไม่ยอมให้ลูกค้าที่เดินผ่านบูธหลุดรอดไปได้สักรายเดียว ซึ่งบริการที่ขายดิบขายดีเป็นอันดับแรกก็คือ บริการบัตรเครดิต รองลงมาคือสินเชื่อบ้านและสินเชื่อบุคคลประเภทอื่นๆ โดยมีข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษสุดและของกำนัลเป็นแม่เหล็กดึงดูด
ส่วนของบูธ ธนาคารกรุงเทพ ขนผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ มาเต็มงาน ได้แก่ บัตรเครดิต สินเชื่อบ้านบัวหลวง กองทุนรวม และบริการด้านธนาคารอิเล็กทรอนิกส์หรือ บัวหลวง ไอแบงกิ้ง ฯลฯ ปรากฎว่ามีผู้สนใจสมัครใช้บริการเชื่อบ้านบัวหลวงเป็นจำนวนมากด้าน ธนาคารกรุงไทย เน้นหนักที่การให้ความรู้และใช้ทุนทางปัญญาเป็นหลัก โดยไม่เน้นที่การเสนอขายผลิตภัณฑ์มากนัก
สำหรับ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งยังคงเรียกผู้ชมได้ล้นหลามและมากขึ้นตลอดจากทั้งกิจกรรมในบูธ ของแจกของแถม และเงื่อนไขพิเศษต่างๆ โดยมีผู้สมัครขอสินเชื่อบ้านในสัดส่วนที่มากกว่าผลิตภัณฑ์อื่นๆ ส่วน ธนาคารทหารไทย ที่จัดกิจกรรมดึงดูดผู้ชมได้หนาตาสม่ำเสมอจึงสามารถเสนอขายผลิตภัณฑ์ต่างๆได้ไม่น้อยเช่นกัน
ขณะที่ ธนาคารไทยธนาคาร ให้โปรโมชั่นพิเศษจากหลากจากทั้งสินเชื่อมีทั้งสินเชื่อ SMEs และ Housing Loan มอบข้อเสนอสุดพิเศษอัตราดอกเบี้ยต่ำ ฟรีค่าธรรมเนียมหลายรายการ แถมประกันอุบัติเหตุและประกันอัคคีภัย โดยเฉพาะ Housing Loan ถือเป็นการเปิดตัวบริการสินเชื่อบ้านครั้งแรกของไทยธนาคาร มีผู้สนใจเป็นพิเศษ
ด้าน ธนาคารไทยพาณิชย์ ที่นำสิทธิพิเศษมามอบในงาน Money Expo โดยเฉพาะเท่านั้น อาทิ สินเชื่อเคหะเปี่ยมสุข คิดอัตราดอกเบี้ย 0% - 3 เดือน พร้อม ฟรี ค่าธรรมเนียมแรกเข้า, ค่าประเมินหลักประกัน ค่าประกันอัคคีภัย และบัตรเครดิตนั้น ก็เรียกผู้ชมงานมาร่วมทำกิจกรรมและสมัครใช้บริการอย่างหนาตา
ด้านธนาคารที่มาในโฉมใหม่ทันสมัยอย่าง ธนาคารนครหลวงไทย กวาดลูกค้าบัตรเครดิตได้มากเช่นกัน ส่วนสินเชื่อบ้านก็ไล่ตามมาติดๆ ขณะที่หน้าเก่าไฟแรงอย่างธนาคารยูโอบี รัตนสิน ก็เก็บลูกค้าบัตรเครดิตไปได้ล้นหลามเช่นเดิมตั้งออกสตาร์ท รวมถึงสินเชื่อเคหะยูโอบีก็ได้รับความสนใจจากผู้ชมงานไม่น้อยแม้ว่ายังไม่สามารถตอบอนุมัติในงานได้ เนื่องจากทั้งสิทธิพิเศษและของขวัญของกำนัลต่างๆ
ด้านคู่แข่งที่น่ากลัวอีกรายอย่าง ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดนครธน กวาดลูกค้าบัตรเครดิตได้เต็มมือ ส่วนสินเชื่อบุคคลต่างๆมีไม่น้อยเช่นกัน ส่วน ธนาคารเอเชีย แม้ครั้งนี้จะดูคลายความคึกคักลงไปบ้างตามกระแสควบรวมกิจการ แต่ผลงานก็ใช้ได้จากตัวเลขที่มีผู้สมัครใช้บริการรวมไม่แพ้ใคร ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีสัดส่วนมากที่สุดต้องยกให้สินเชื่อบ้าน
ส่วนแถวหน้าของกลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารอย่าง บริษัท บัตรกรุงไทย พบว่ายอดลูกค้ามาเนืองแน่น ซึ่งส่วนใหญ่จะสนใจสมัครบัตรเครดิตเป็นจำนวนมาก ส่วนค่าย จีอี คอนซูเมอร์ ไฟแนนซ์ (ประเทศไทย) ที่แม้เป็นหน้าใหม่ของมหกรรมการเงินแต่ก็ไม่แพ้รุ่นพี่เพราะมีลูกค้าหน้าใหม่และเก่าทยอยมาเยี่ยมชมและจับจ่ายผลิตภัณฑ์อยู่เรื่อยๆ
ในกลุ่มธนาคารของรัฐก็ไม่น้อยหน้า โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่เสนอเงื่อนไขพิเศษถึง 2 ทางเลือกนั้น จึงชิงเค้กตลาดสินเชื่อบ้านได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยไม่ให้เสียชื่อตัวจริง แต่ที่เนื้อหอมสุดๆต้องยกให้ ธนาคารออมสิน จากการจำหน่ายสลากออมสินที่มีประชาชนมาเข้าคิวรอแต่เช้าตรู่จึงถึงกับต้องขยายยอดจำหน่ายภายในงานจากเดิมที่ 500 ล้านบาทเป็น 1,500 ล้านบาท
นอกจากนี้กลุ่มบริษัทประกันก็ขนกันมาเต็มที่ โดยเฉพาะบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จับมือมากับธนาคารกสิกรไทยนั้นขนบริการมาเสนออย่างหลากหลายครบวงจร พร้อมเงื่อนไขพิเศษแจกทอง 1 สลึง วันละ 4 เส้น ทุกวัน รวมทั้งแจกประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (P/A) ให้กับผู้โชคดีที่เข้าร่วมกิจกรรมภายในบูธ
เรื่องความบันเทิงต้องยกให้ บริษัท ไทยประกันชีวิต ปีนี้จำลองรูปแบบการนำเสนอข้อมูลในลักษณะของสถานีวิทยุดำเนินรายการโดย ดีเจอรรณพ กิติกุล ที่จะร่วมเล่าประสบการณ์ร่วมกับแขกรับเชิญเกี่ยวกับเรื่องของการประกันชีวิต ในบรรยากาศที่เหมือนกับการนั่งฟังข้อมูลฝ่ายคลื่นวิทยุกับดีเจคนโปรด
บริษัท อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. ประกันชีวิต มุ่งสร้างแบรนด์ AACP ให้เป็นที่รู้จักของลูกค้าโดยทั่วไป ซึ่งสื่อในเรื่องความเข้มแข็ง ทันสมัย มีความเป็นสากล ขณะที่ในส่วนของช่องทางการขายประกันชีวิตผ่าน Bancassurance นั้นยังคงขายผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยาอย่างที่ผ่านมา ส่วนบริษัท ธนชาติซูริคประกันชีวิต มาแบบเรียบง่ายในลักษณะของ เซน ที่เน้นความเป็นธรรมชาติ มีความริเริ่มสร้างสรรค์ ผสมผสานความเรียบง่ายระหว่างธุรกิจภายในของกลุ่มธนชาติ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด
นอกจากนี้ยังมีบริษัทอื่นๆที่เตรียมความพร้อมมาอย่างเต็มที่ ได้แก่ บริษัท ไทยคาร์ดีฟประกันชีวิต การออกบูธในปีนี้อยู่ในส่วนของ Bancassurance ของธนาคารทหารไทย ประกอบด้วย 3 บริษัทคือ บริษัทไทยคาร์ดีฟประกันชีวิต บริษัทไพบูลย์ประกันภัย และบริษัทไทยประกันสุขภาพ โดยเสนอ โปรโมชั่นพิเศษภายในงานมากมาย
ทางด้าน บริษัท แมกซ์ ประกันชีวิต ถือเป็นช่องทางการขายประกันชีวิตผ่านธนาคารนครหลวงไทย โดยมีการนำเสนอกรมธรรม์ประกันชีวิตและประกันวินาศภัยที่หลากหลายให้กับลูกค้า ซึ่งมีลูกค้าให้ความสนใจสอบถามและซื้อประกันผ่านช่องทางนี้พอสมควร
ส่วน กรุงเทพประกันชีวิต ปีนี้เป็นปีแรกที่บริษัทได้ร่วมออกบูธภายในงาน ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเกินคาด ลูกค้าให้ความสนใจเข้าไปสอบถามข้อมูลกันอย่างคับคั่ง โดยจะเน้นเรื่องของความมั่นคงของบริษัท การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการวางแผนทางการเงินด้วยประกันชีวิต และการนำเสนอโปรดักส์ใหม่
กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หรือโบรกเกอร์ ได้รับความสนใจไม่ยิ่งหย่อนกว่าด้านธนาคารและสถาบันการเงินอื่นๆ โดยในส่วนของ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย)มุ่งให้ความรู้เกี่ยวกับหุ้นเพิ่มเติมกับ ผู้ชมงานซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเงินฝาก เพื่อให้สามารถเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีพื้นฐานดีที่เปรียบเหมือนกับมีหีบสมบัติอยู่ในมือ
ด้านบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งหน้าเก่าและใหม่พอสมควร โดยจำลองศูนย์ฝึกอบรมมาไว้ในงานรวมทั้งเน้นประชาสัมพันธ์บริการซื้อขายหุ้นผ่านมือถือ นอกจากนี้ยังจัดกิจกรรรมให้ความรู้ด้านการลงทุนอีกมากมาย
ส่วน บล. กรุงศรีอยุธยา เสนอบริการซื้อ-ขายหลักทรัพย์ในฐานะของ "เพื่อนนำทางสู่ความมั่งคั่ง" แก่นักลงทุนทั่วไป โดยให้คำแนะนำด้านการลงทุนแก่ลูกค้า และแจกบทวิจัย "เมนูหุ้นเด่น AYS" ให้ผู้สนใจทุกคน
ขณะที่ บล.นครหลวงไทย แนะนำระบบ IVIP และ Internet Trading โดยได้รับความสนใจเป็นอย่างดีจากนักลงทุนทั้งใหม่และเก่า ขณะที่การจัดเสวนาเรื่องการลงทุนหลักทรัพย์อย่างไรในสภาวะปัจจุบัน โดย ผศ.ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร และทีมงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ก็มีแฟนๆมาติดตามอย่างหนาตา
สำหรับ บล. ทิสโก้ มุ่งให้บริการและเผยแพร่ให้ความรู้แก่ผู้ชมงานใน 3 เรื่องคือ บริการด้านสินเชื่อ บริการด้านหลักทรัพย์ และบริการด้านการจัดการกองทุน เพื่อต้องการขยายฐานลูกค้าเพิ่ม โดยจัด Open Floor รองรับลูกค้าสูงสุด ส่วน บล.ธนชาติ มาในภาพลักษณ์ทันสมัยเพื่อสร้างความแตกต่าง รวมถึงเน้นความเรียบง่าย อบอุ่นและเป็นกันเองกับลูกค้า ให้รู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน อีกทั้งสร้างบรรยากาศด้วยทีมวีเจที่สลับสับเปลี่ยนมาสร้างความสนุกสนานให้ผู้ชมบูธ
ขณะที่กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือบลจ. ต่างๆ ต่างนำกองทุนใหม่มาแจ้งเกิดซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นจำนวนมากเช่นกัน ทั้งนี้ บลจ. วรรณ ที่ตั้งใจมาโปรโมทกองทุนต่างๆโดยเฉพาะการเปิดตัวบัตร Fund Gift Card เป็นครั้งแรก สำหรับมอบในวาระสำคัญของชีวิต 4 วาระ คือ แต่งงาน วันเกิด รับปริญญา และเด็กแรกเกิด
ด้าน บลจ.อยุธยาเจเอฟ เน้นเป็นทางเลือกที่ดีของการลงทุนจากกองทุนต่างๆ พร้อมแนะวิธีการจัดสรรการลงทุนให้กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนทำงานในวันที่ 13-14 พฤษภาคม ส่วนวันที่ 15-16 พฤษภาคม ที่เป็นวันหยุดจะเน้นกลุ่มคนที่มีครอบครัวแล้ว
ส่วน บลจ.ทหารไทย เน้นเปิดตัวกองทุนใหม่ คือ กองทุนรวมธนภัทรตราสารหนี้คืนกำไร 7/49 แต่จะมีการเสนอขายครั้งแรกในวันที่ 17-21 พฤษภาคม 2547 ซึ่งสามารถลงทุนขั้นต่ำตั้งแต่ 2,000 บาท นอกจากนี้ยังมีการเล่นเกมเพื่อชิงรางวัลตั๋วหนังทั้งจากเครืออีจีวี และเมเจอร์ซีเนเพล็กด้วยบลจ.กรุงไทย ใช้ Model Talk เป็นไฮไลท์เรียกผู้ชมที่ฉีกแนวจากทุกบูธ เพื่อปลุกกระแสใช้ แนวคิดเป็นทุนทางปัญญาและกระตุ้นให้ลูกค้านำทุนทางปัญญาที่มีอยู่ และนำ Hand Head Heart ที่มีอยู่ในตัวออกมาใช้ พร้อมกับเน้นที่การศึกษาเป็นหลัก
ส่วน บลจ.ธนชาติ ชูจุดขายที่มีการประกันการเงินที่ครบวงจร พร้อมกับเปิดตัวกองทุนใหม่ ชื่อกองทุนเปิดธนชาติตราสารหนี้รักษาเงินต้น ที่เน้นการลงทุนในหุ้นกู้ ตราสารหนี้ ที่ให้ผลตอบแทน 3.5 % ซึ่งจะเริ่มเปิดขายเป็นทางการในเดือนมิถุนายน นอกจากนี้ยังเชิญดาราสาว สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ ซึ่งเปิดธุรกิจด้านความงามเป็นของตัวเองมาพูดคุยในหัวข้อ การลงทุน--จบ--
-นท-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ