กรุงเทพฯ--17 พ.ค.--กทม.
นายสุวิทย์ ศิลาทอง ผู้อำนวยการกองปกครองและทะเบียน เปิดเผยว่า ก่อนผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครครบวาระ 60 วัน (ครบวาระวันที่ 22 ก.ค.47) กกต.จะลงพื้นที่เพื่อป้องปราบและหาข่าวการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.47 เป็นต้นไป จนสิ้นสุดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อให้การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมีความเรียบร้อย บริสุทธิ์ ยุติธรรม โปร่งใส เป็นไปตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 มาตรา 57 ที่บัญญัติไว้ว่า “…ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการเพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น หรือให้งดเว้นการลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครใดด้วยวิธีการ ดังนี้
(1) จัดทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด
(2) ให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด สถาบันการศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือสถาบันอื่นใดที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา
(3) ทำการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งด้วยการจัดให้มีมหรสพหรือการรื่นเริงต่าง ๆ
(4) เลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้ยงผู้ใด
(5) หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้าย หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในเรื่องใดอันเกี่ยวกับผู้สมัครใด
กรณีตามวรรคหนึ่ง หากเป็นการเลือกตั้งอันเนื่องมาจากการครบวาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ห้ามมิให้กระทำภายในหกสิบวันก่อนวันครบกำหนดวาระการดำรงตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง…”
ทั้งนี้ ปลัดกรุงเทพมหานครได้มีหนังสือเวียนแจ้งให้หน่วยงาน และส่วนราชการของกรุงเทพมหานคร งดจัดกิจกรรมที่ เกี่ยวข้องกับมวลชน ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.47 เป็นต้นไป จนสิ้นสุดการเลือกตั้งแล้วเช่นกัน เพื่อให้ข้าราชการกรุงเทพมหานครวางตัวเป็นกลางทางการเมือง โดยเฉพาะสำนักงานเขตซึ่งมีโครงการตามงบประมาณแปรญัตติของสมาชิกสภากรุงเทพมหานครจำนวนมาก จึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ซึ่งถ้าหากกกต.ชี้ความผิดแล้ว จะมีผลทั้งทางอาญาและวินัย ซึ่งอาจจะส่งผลให้ประกาศผลนับคะแนนล่าช้า หรือไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ จะทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณจำนวนมาก--จบ--
-นห-