กรุงเทพฯ--17 พ.ค.--โอเอซิส มีเดีย
ลงทุนอย่างไรในช่วงอสังหาฯบูม
โดย กิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์
รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฮาริสัน จำกัด (มหาชน)
เมื่อประมาณปลายปี 46 ต่อเนื่องถึงปี 47 อสังหาริมทรัพย์ถือว่าอยู่ในช่วงของการฟื้นตัวกลับมาบูมอีกครั้ง และเมื่อไม่กี่ปีมานี้ อสังหาริมทรัพย์ในอเมริกาก็บูมสุด ๆ เช่นกัน สามารถทำเงินเป็นจำนวนมากให้กับธุรกิจที่อยู่อาศัยอย่างไม่น่าเป็นไปได้ ในปี ค.ศ. 2001 -2002 (พ.ศ.2544-2545) นักเศรษฐศาตร์ได้ออกมาทำการวิเคราะห์แล้วพบว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นปัจจัยหลัก ที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจไว้ได้ในขณะที่ตลาดหุ้นสั่นคลอนและธุรกิจด้านอื่น ๆ ไม่กระเตื้อง แต่ธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์กลับดีขึ้นเรื่อย ๆ การที่ราคาบ้านพักอาศัยสูงขึ้นเรื่อย ๆ นี้ ทำให้เจ้าของที่พักอาศัยหลายรายเริ่มมองเห็นผลประโยชน์ที่จะได้จากสิ่งนี้ และเริ่มคิดที่จะลงทุนแทนที่จะซื้อไว้เพื่อเป็นเจ้าของทรัพย์สินดังเช่นเคย ดังนั้นการที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นตัวช่วยสถานะทางการเงินได้นั้น จึงเป็นปรากฎการณ์ที่น่าตื่นตะลึงยิ่ง
เราไม่อาจคาดเดาได้ว่าโอกาสดี ๆ เหล่านี้ยังคงจะดำเนินต่อไปในตลาดอสังหาริมทรัพย์หรือไม่ และจะยังคงเกิดขึ้นอีกใน 10 ปีข้างหน้าหรือเปล่า แต่สิ่งที่เราสามารถรู้ได้ในวันนี้ก็คือ ปรากฎการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นแต่ละครั้งในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ๆ ดังนั้น เราจะทำอย่างไรในการแสวงหาผลประโยชน์และไม่พลาดโอกาสภายในช่วงระยะเวลานั้น
เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ทั้งหลายที่เตรียมพร้อมในการหาผลประโยชน์ในช่วงอสังหาริมทรัพย์บูมนี้ รู้หรือไม่ว่า ในช่วงปี ค.ศ. 2000 — 2004 (ช่วง 4 ปีแรกในรอบ 10 ปี) มีเจ้าของที่พักอาศัยและนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์เป็นจำนวนไม่น้อย สามารถเพิ่มค่าให้กับทรัพย์สินและทำรายได้ให้กับตัวเองคิดแล้วรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 460 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นค่าเฉลี่ย 42,700 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนในเวลา 4 ปี ซึ่งหมายความว่าอสังหาริมทรัพย์ของพวกเขาเหล่านี้ เพิ่มค่าสูงขึ้นถึง 70 — 150 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนไปที่ได้รับผลประโยชน์ช่วงที่อสังหาฯบูมนี้ เนื่องจากผู้พักอาศัยบางท่านก็ไม่ได้เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ หรือบางคนที่เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ก็ไม่คิดที่จะหาผลประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ เนื่องจากในแง่ของความรู้สึก พวกเขาเหล่านี้คิดเพียงแต่ว่าบ้านคือที่พักอาศัย ที่ ๆ ปลอดภัย หรือถ้าในแง่สถานภาพทางการเงิน พวกเขาเพียงคิดว่าบ้านคือทรัพย์สินที่เป็นรูปธรรมและมีค่า ดังนั้นการขายบ้านไปก็เพื่อที่จะซื้อบ้านใหม่ไว้เป็นที่พักพิงยามเกษียณอายุนั้นเอง
อันที่จริงมีหลายวิธีที่บุคคลเหล่านี้สามารถหาผลประโยชน์ได้ในช่วงที่อสังหาฯบูม อย่างไรก็แล้วแต่อันดับแรกเจ้าของที่พักอาศัยเหล่านี้ควรลบล้างความรู้สึกแบบเก่า ๆ พวกเขาจะต้องแยกให้ออกเกี่ยวกับในแง่ของความรู้สึกกับในแง่ของธุรกิจในการเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ เพราะอะไรทำไมถึงต้องแยกกันให้ออก เพราะเนื่องจากเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ซื้อที่อยู่อาศัยตามความพึงพอใจของตัวเอง ไม่ได้ซื้อเพื่อลงทุนเก็งกำไรอะไร และนอกจากนี้พวกเขายังไม่รู้ว่าการตกแต่งที่พักอาศัยอย่างที่เขาชอบ ก็มีผลในระยะยาวในการเพิ่มมูลค่าบ้านที่เขาเป็นเจ้าของอยู่
การลงทุนซื้อที่พักอาศัย เป็นการใช้จ่ายเงินที่มากและเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนทั่วไป จะต้องมีการวางแผนในระยะยาว และวางแผนทางด้านการเงินให้ดีพอ ๆ กับการลงทุนซื้อหุ้นหรือพันธบัตร การซื้อที่พักอาศัยเป็นบทพิสูจน์อย่างหนึ่งว่าเราสามารถบริหารเงินที่มีอยู่ได้ดีเพียงไร ให้คิดว่าอสังหาริมทรัพย์เป็นทรัพย์สินที่มีการเคลื่อนไหวอยู่เสมอ ก่อให้เกิดผลตอบแทนกลับมาเป็นเดือนหรือปี ดังนั้นผู้ที่คิดลงทุนจำเป็นต้องบวกลบคูณหารเอาว่าผลตอบแทนกลับมาอย่างไร
หลายคนคิดว่าการนำเงินไปลงทุนซื้อหุ้นหรือพันธบัตรแทนที่จะเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อใช้สำหรับการปรับปรุง/ตกแต่งเพิ่มเติมที่พักอาศัย, บ้านมือสอง, การเช่าที่อยู่อาศัย หรือแม้แต่การก่อตั้งเงินทุนเพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ในการลงทุนซื้อที่พักอาศัยช่วงที่อสังหา ฯ บูมนั้น เราสามารถนำจำนวนเงินลงทุนและผลตอบแทนที่ได้รับมาคำนวณเปรียบเทียบกับการลงทุนซื้อหุ้นหรือซื้อพันธบัตรได้ โดยผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนซื้อหุ้นจะใช้ระยะเวลานานกว่าและใช้เงินมากกว่าการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ เพราะในการลงทุนซื้อที่พักอาศัย เราสามารถทำการผ่อนชำระกับสถาบันการเงินได้ ไม่ต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนเต็ม และระหว่างที่เราทำการผ่อนชำระอยู่นั้น เราสามารถรับผลตอบแทนได้เร็ว โดยการนำที่พักอาศัยมาปล่อยเช่า และยังนำมาลดหย่อนภาษีได้อีก อีกทั้งราคาของที่พักอาศัยยังดีขึ้นอยู่เสมอ
คาดว่าภายใน 3- 4 ปีข้างหน้า ธุรกิจอสังหา ฯ ยังคงดีต่อเนื่อง เนื่องจากไม่เพียงแต่ดอกเบี้ยสินเชื่อรายย่อยที่ยังคงต่ำอยู่และรัฐบาลก็ควบคุม Project Finance ทำให้มี Supplier จำกัด แต่ยังมีปัจจัยอื่นประกอบด้วย เช่น การดำเนินการซื้อหรือขายสามารถทำให้ง่ายขึ้นหากรัฐบาลยังคงมีนโยบายสนับสนุนต่อเนื่อง และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ความต้องการในการมีที่พักอาศัยของคนรุ่นใหม่, ผู้ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานใหม่ยังคงเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อย ๆ และรวมถึงการขยายครอบครัวใหม่ ขณะที่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นสิ่งที่น่าลงทุน แต่จะต้องคำนึงถึงว่าลงทุนอย่างไรจึงจะได้ผลกำไรในช่วงอสังหา ฯ บูม วิธีการในการลงทุนต้องมีข้อมูลและบทวิเคราะห์ รวมถึงการวางแผนด้านการเงินให้ดีอีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ คุณศรัญญรัตน์ สุวรรณคาม / คุณปิยะพร จำเนียร
บริษัท โอเอซิส มีเดีย จำกัด โทร.0-2937-4658-9,0-2937-4735 ต่อ 15-16
e-mail : saranyarat@oasismedia.co.th ; piyaporn@oasismedia.co.th
สามารถคลิกดูภาพได้ที่ www.thaipr.net--จบ--