กรุงเทพฯ--19 เม.ย.--พีทีที โกลบอล เคมิคอล
พีทีที โกลบอล เคมิคอล ร่วมกับ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ สนับสนุน กองทุนเพื่อเพื่อน จัด ‘โครงการแด่น้องผู้มีความหวัง ครั้งที่ 22 ’ ประจำปี 2555
ชวนตัวแทนเด็ก และเยาวชนผู้ด้อยโอกาสกว่า 1,500 คนจากทั่วประเทศ เข้าร่วมกิจกรรมเสริมสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจจากสังคม เพื่อเปิดโอกาสให้เด็ก และเยาวชนด้อยโอกาสได้มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ตลอดจนเรียนรู้ถึงปัญหาระหว่างเพื่อนมนุษย์ ให้รู้จักการช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงพลังจิตอาสา กว่า 500 คน ร่วมสร้างคุณค่า แบ่งปันรอยยิ้ม และดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดโครงการ ณ หาดเตยงาม หน่วยงานนาวิกโยธิน จังหวัดชลบุรี ‘ โครงการแด่น้องผู้มีความหวัง’ เกิดขึ้นจากความตั้งใจของกองทุนเพื่อเพื่อน ที่ได้เล็งเห็นถึงปัญหาและความสำคัญของเด็กและเยาวชนผู้ด้อยโอกาส ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาครอบครัว และประสบกับภาวะลำบาก ตลอดจนขาดโอกาสในการได้รับการพัฒนาด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคม และจิตใจ ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอาจลุกลามให้เกิดปัญหาของสังคมในอนาคตได้ ดังนั้น กองทุนเพื่อเพื่อน จึงได้ร่วมมือกับ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ สมาคมภริยาทหารเรือ สมาคมเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ พร้อมผู้สนับสนุนจากองค์กรเอกชนต่างๆ ร่วมกันจัดกิจกรรม โครงการแด่น้องผู้มีความหวัง ครั้งที่ 22 ประจำปี 2555 ระหว่างวันเสาร์ที่ 24 — วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม 2555 ภายใต้แนวคิด ‘Global Smiling’ ซึ่งเป็นแนวคิดที่สะท้อนถึงภาพลักษณ์แห่งสยามเมืองยิ้ม พร้อมได้นำเด็กและเยาวชนผู้ด้อยโอกาส ตลอดจนจิตอาสามาร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อสร้างรอยยิ้มให้เกิดในเมืองไทย และขยายรอยยิ้มออกไปทั่วโลก เพื่อให้เด็กและเยาวชนผู้ด้อยโอกาสได้มีแนวคิดที่จะอยู่ในสังคมอย่างมีความหวังที่ดี พร้อมได้รับความอบอุ่นจากสังคม ดุจดั่งพี่น้อง เป็นญาติในครอบครัว รวมไปจนถึงได้รู้เข้าใจปัญหาระหว่างเพื่อนมนุษย์ และสามารถมีส่วนช่วยเหลือผู้อื่นได้
“ทั้งนี้ โครงการแด่น้องผู้มีความหวัง ครั้งที่ 22 ถือเป็นปีที่มีเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสเข้าร่วมโครงการฯสูงที่สุด จำนวนกว่า 1,500 คน จากทั่วประเทศ ทั้งที่เป็นเด็กกำพร้า เด็กพิการ/พิการซ้ำซ้อน, เด็กออทิสติก, เด็กชาวเขา, เด็กชนเผ่ากะเหรี่ยง, เด็กจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้, เด็กจากประเทศลาว, ลูกหลานแรงงานต่างด้าวที่ประสบภัยน้ำท่วม ตลอดจนเยาวชนจากสถานคุ้มครองต่างๆ ซึ่งน้องๆเหล่านี้จะมีพี่ๆจิตอาสาจากพีทีที โกลบอล เคมิคอล จำนวน 150 คน พร้อมกองกำลังทหารนาวิกโยธิน คอยดูแลและให้ความช่วยเหลือ พร้อมกันนี้ทางโครงการยังได้มีการเชื่อมโยงความร่วมมือของจิตอาสาจากนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในกลุ่มอาเซียน เข้าร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับเยาวชน สอดรับกับนโยบายเปิดประชาคมอาเซียนในปี 58 ที่ได้มุ่งหวังให้ประเทศในอาเซียนได้มีโอกาสร่วมกันพัฒนาสังคมร่วมกันอย่างเป็นหนึ่งเดียว” นายวิศิษฐ์ เดชกำธร ประธานกองทุนเพื่อเพื่อน กล่าว
ดร. ทัศนาลักษณ์ สันติกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานกิจการองค์กร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “นับเป็นครั้งที่ 6 แล้วที่ทาง PTTGC ได้มีโอกาสให้การสนับสนุนหลักในการจัดโครงการฯมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยระยะเวลาที่ผ่านมานั้น บริษัทฯได้เห็นถึงการพัฒนาของโครงการฯ ที่มีความตั้งใจ และทุ่มเท ที่จะมอบความหวัง และสิ่งดีๆ เพื่อเป็นแรงกระตุ้นสู่การพัฒนากายและใจ ให้แก่เด็กและเยาวชนด้อยโอกาสได้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการดำเนินกิจการเพื่อสังคมของบริษัทฯ ที่มีแนวคิด Shaping the Social Sustainability ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างคุณค่าร่วมกันกับสังคม โดยเฉพาะ การพัฒนาเด็กและเยาวชน โดยเชื่อว่าการพัฒนาบุคลากรของประเทศชาติจำเป็นต้องพัฒนาตั้งแต่วัยเด็ก เพื่อให้มีความรู้ความสามารถ อันจะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ในการพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวหน้าต่อไปในอนาคตได้ ...การมีส่วนร่วมในโครงการฯในปี 2555 นับเป็นครั้งแรกของบริษัทฯที่ได้มีโอกาสขยายผลการทำกิจกรรมเพื่อสังคมในรูปแบบ Shared Value เพื่อแบ่งปันคุณค่าสู่การพัฒนาสังคมที่ยั่งยืนกับบริษัทในกลุ่มปตท., พันธมิตรจากกลุ่มเพื่อนชุมชน ตลอดจน Stakeholder อาทิ มูลนิธิเพื่อการวิจัยตู้ยา S&P พนักงานในกลุ่มบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล และบุคคลทั่วไป ได้ร่วมกันจัดซุ้มอาหารเลี้ยงน้องถึง 73 ซุ้ม พร้อมยังได้กระตุ้นสร้างจิตสำนึกพนักงานในองค์กรในการที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ คืนสู่สังคม โดยได้เข้าร่วมเป็นจิตอาสาในโครงการนี้ ถึง 150 คน ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีของการสร้างความร่วมมือในการทำกิจกรรมเพื่อสังคมครั้งนี้ ให้บริษัทฯได้กล้าคิดสร้างสรรค์ และชวนลงมือปฏิบัติร่วมกันในครั้งต่อไปอีกด้วย” โครงการแด่น้องผู้มีความหวัง ในวันนี้มีกิจกรรมมากมายให้เด็กและเยาวชนผู้ด้อยโอกาสได้เล่น และเข้าร่วมทำกิจกรรมเพื่อเสริมทักษะอย่างสนุกสนาน อาทิ การขึ้นเรือยกพลขึ้นบก กิจกรรมกระโดดหอ กิจกรรมฐานผจญภัย การออกร้านเพื่อแสดงเอกลักษณ์ของสถานสงเคราะห์ การจัดเวทีการแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่นของเด็กและเยาวชนด้อยโอกาส และกิจกรรมที่ชื่นชอบของเด็กและเยาวชนผู้ด้อยโอกาสที่สุด คือ ‘กิจกรรมลงเล่นน้ำทะเล’ ซึ่งจะมีทหารเรือคอยยืนเป็นแนวรั้วเพื่อรักษาความปลอดภัยในทะเลถึง 400 นาย โดยมีความยาวประมาณครึ่งกิโลเมตร เป็นต้น ทั้งนี้ทางโครงการฯ ได้เน้นย้ำให้ผู้เข้าร่วม เช่น จิตอาสา และกองกำลังทหาร ได้ตระหนักถึงความสำคัญ ในด้านการรักษาความปลอดภัย จึงได้มีการจัดอบรมเพื่อเตรียมพร้อมในการดูแลผู้ด้อยโอกาส โดยเฉพาะเด็กพิการทางสายตา เด็กหูหนวก เด็กออทิสติก พร้อมสาธิตการใช้วีลแชร์ที่ถูกต้อง วิธีสื่อสารในรูปแบบต่างๆ และสร้างความเข้าใจในธรรมชาติของเด็กแต่ประเภทให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
งานนี้น้องๆ จึงสนุกสนานเริงร่ากันเต็มที่ เมื่อน้องเห็นน้ำทะเลสีคราม ต่างกระโจนกระโดดเข้าใส่ทะเลกันจ้าละหวั่น โดยเฉพาะน้องสาววัย 14 ปีจากมูลนิธิการศึกษาคนตาบอดและพิการซ้ำซ้อน จ.ลพบุรี ร้องเพลงอย่างเริงร่า “หัวใจดวงนี้ที่มีความรัก... น้ำทะเลนี้สีดำ ไม่มีแสงประกาย...” ส่วนน้องซีโมน หลุยส์ วัย 8 ขวบ แม้กล้ามเนื้อจะอ่อนแรง แต่ก็ไม่ย่อท้อที่จะพยายามช่วยตัวเอง สนุกสนานกลิ้งไปกับทะเล สำหรับน้องพลอย-พลอยพิมล ม่วงคำ วัย 7 ขวบ ที่สุดสนุกสนานไปกับน้ำทะเลสีครามด้วยหัวใจที่ชุ่มฉ่ำอย่างมีความสุข และน้องเอก-ณัฐวัฒน์ ธิติวัชโรธน แม้จะเหนื่อยล้าและอ่อนแรงแต่ก็ยังยิ้มสู้กับผืนทรายและน้ำทะเลอย่างสนุกสนาน
เสียงหัวเราะ...รอยยิ้มที่เปื้อนฉาบบนใบหน้าน้องๆ ทุกคน ทั้งความอบอุ่นและความรัก ความเมตตา ความเอื้ออาทรของพี่อาสาสมัครหลากหลายเชื้อชาติที่คอยเฝ้าเอ็นดู พร้อมคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ในวันนี้โลกของน้องๆ ทุกคนจึงเปี่ยมด้วยความสุขอย่างท่วมท้น อันจะเป็นความทรงจำดีๆ ที่จะตราตึงอยู่ในหัวใจของเด็กๆ ทุกคน
พบกันอีกในปีหน้าฟ้าใหม่...มาร่วมด้วยช่วยกันแบ่งปัน ความรัก รอยยิ้ม และความสุขให้กับน้องๆ กันเถอะ