กรุงเทพฯ--23 เม.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้งฯมองราคาทองสัปดาห์นี้แกว่งแรง เหตุประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ มองกรอบลงทุน 1,612-1,678 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ หรือประมาณ 23,600-24,560 บาท/บาททองคำ และยังเน้นให้นักลงทุนทองคำไทยใช้ Currency future เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินบาทหากเริ่มเปิดใช้
นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์ทองคำ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด หรือ GBX กล่าวถึงแนวโน้มราคาทองคำประจำสัปดาห์ (23-27 เม.ย.55)ว่า ราคาทองคำมีโอกาสแกว่งตัวได้แรง เนื่องจากมีปัจจัยเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีภาคการผลิตจีน , ความเชื่อมั่นผู้บริโภค CB และยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯวันอังคาร 24 เม.ย.55, ผลผลิตมวลรวมอังกฤษ, ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานและการประกาศอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯวันพุธที่ 25 เม.ย.55 และยอดผู้รับสวัสดิการและยอดทำสัญญาขายบ้านสหรัฐฯ วันพฤหัสบดีที่ 26 เม.ย.55
โดยน่าจะส่งผลให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ 1,612-1,678 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ หรือประมาณ 23,600-24,560 บาท/บาททองคำ (อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนที่ 30.91บาท/ดอลลาร์) โดยหากราคาไม่หลุด 1,612 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ หรือ 23,600 บาท/บาททองคำ ราคาทองคำยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,657 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ หรือ 24,250 บาท/บาททองคำ และหากผ่านแนวต้านดังกล่าวไปได้มีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,678 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ หรือ 24,560 บาท/บาททองคำ ขณะที่แนวรับในสัปดาห์นี้มองใว้ที่ 1,630 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ หรือ 23,860 บาท/บาททองคำ
สำหรับความเคลื่อนไหวของราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ปรับตัวลงจากสัปดาห์ก่อน โดยราคาทองคำอยู่ที่ 1,642.09 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ (ณ วันที่ 20 เมษายน 24.00น.) ปรับตัวลดลงประมาณ 11.5 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น 0.69% โดยทำจุดสูงสุดไว้ที่ 1,657.30 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ และทำจุดต่ำสุดไว้ที่ 1,630.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ทรอยออนซ์ ราคาทองคำปรับตัวลดลงในช่วงต้นสัปดาห์โดยได้รับแรงกดดันจากจีนที่ประกาศผลผลิตมวลรวม 8.1% ซึ่งต่ำกว่าคาดที่ 8.3%
นอกจากนี้ ช่วงกลางสัปดาห์ธนาคารกลางสเปนได้ประกาศหนี้เสียของธนาคารพาณิชย์ออกมาสูงสุดในรอบ 18 ปีทำให้ทองคำถูกแรงเทขายออกมาตามเงินยูโร แต่ราคาทองคำสามารถดีดตัวกลับขึ้นมาได้ในช่วงท้ายสัปดาห์จากยอดผู้ขอรับสวัสดิการสหรัฐฯออกมาแย่กว่าที่คาดไว้ทำให้นักลงทุนต่างทยอยขายเงินดอลลาร์ออกมาทำให้ทองคำปรับตัวขึ้น และดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเยอรมนียังออกมาดีกว่าที่คาดไว้ทำให้เป็นผลบวกต่อเงินยูโรและราคาทองคำ
อย่างไรก็ตาม โกลเบล็กยังคงแนะนำสำหรับนักลงทุนทองคำไทยที่สนใจใช้ Currency future เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินบาทนั้น สามารถทำได้โดย ซื้อทองคำไทยเปรียบเสมือนมีสถานะLong ในสกุลเงินดอลลาร์ด้วยดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินจึงต้องทำการ Short ค่าเงินดอลลาร์ใน Currency Futures เพียงเท่านี้ท่านนักลงทุนก็จะสามารถปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้ โดยจะทำให้ราคาทองคำไทยเคลื่อนไหวไปตามราคาทองคำโลก
สอบถามข้อมูลการลงทุนเพิ่มเติมหรือทำการซื้อขายทองคำแท่งกับ บมจ.โกลเบล็กโฮลดิ้ง กรุณาติดต่อ 02-672-5995 กด 0 ตั้งแต่เวลา 8.30 — 24.00 น.