กรุงเทพฯ--23 เม.ย.--PRdd
สภาวะตลาดวันที่ 23 เมษายน 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,631.61 — 1,642.77 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM12 อยู่ที่ 24,320 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 70 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 24,390 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVM12 อยู่ที่ 984 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 4 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 988 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.13 น.ของวันที่ 23/04/12)ออกมา คือ ออกมา คือ
แนวโน้มวันที่ 24 เมษายน 2555
ราคาทองคำยังคงมีแรงขายออกมาจากปัจจัยกดดันจากปัญหาหนี้ของยุโรปโดยเฉพาะสเปนที่มียอดหนี้ต่อจีดีพีที่สูง อีกทั้งหนี้เสียยังพุ่งสูงสุดในรอบ 18 ปี ในขณะที่บรรดาสหภาพแรงงานของสเปนกำลังร่วมกันสนับสนุนการปะท้วงตามท้องถนนอีกครั้ง เพื่อคัดค้านการปฏิรูปแรงงานและมาตรการรัดเข็มขัดในวันที่ 29 เมษายนนี้ หลังจากที่ประสบความล้มเหลวในการเจราจากับรัฐบาล สำหรับข้อสรุปของการประชุม G20 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นั้นได้มีการยืนยันว่าจะมีการให้เงินทุนสมทบวงเงินกว่า 4.3 แสนล้านดอลลาร์เพื่อ ช่วยให้ไอเอ็มเอฟสามารถปกป้องเศรษฐกิจของประเทศต่างๆนั้น อย่างไรก็ตาม การประชุมของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) นั้นได้มีการกล่าวถึงปัญหาในยุโรปว่า ควรจะมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ประธานธนาคารกลางยุโรป(ECB) กลับมีมุมมองตรงข้ามว่า นโยบายที่อีซีบี ดำเนินอยู่นั้นเพียงพอแล้ว ทำให้ประเด็นในยุโรปนั้นจำเป็นต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป นอกจากการประชุมทางฝั่งยุโรปที่มีความสำคัญต่อตลาดการเงินของโลกแล้ว การประชุมทางฝั่งสหรัฐเองก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดยในคืนวันพุธนี้ตามเวลาในประเทศไทย จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) ซึ่งวายแอลจีประเมินว่าจะเป็นปัจจัยหลักที่จะชี้นำราคาทองคำในสัปดาห์นี้ เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำในช่วงนี้ยังคงเคลื่อนไหวในลักษณะ sideway โดยราคาทองคำว่าจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบบริเวณ 1,620-1,660 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต่อไปจนกว่าจะมีปัจจัยที่ชี้นำตลาดทองคำจนทำให้ราคาทะลุกรอบราคาด้านใดด้านหนึ่ง
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,620 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,650 หรือ 1,660 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,620 (23,760บาท) 1,610 (23,610บาท) 1,600 (23,460บาท)
แนวต้าน 1,650 (24,200บาท) 1,660 (24,350บาท) 1,670 (24,490บาท)
GOLD FUTURES (GFM12)
แนวรับ 1,620 (24,130บาท) 1,610 (23,980บาท) 1,600 (23,830บาท)
แนวต้าน 1,650 (24,570บาท) 1,660 (24,720บาท) 1,670 (24,860บาท)
SILVER FUTURES (SVM12)
แนวรับ 31.00 (974บาท) 30.55 (960บาท) 30.15 (947บาท)
แนวต้าน 31.85 (1,000บาท) 32.00 (1,005บาท) 32.40 (1,017บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร. 02-287-1155 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร. 02-677-5520 หรือ www.ylgbullion.com