ก.ล.ต. กล่าวโทษกรรมการและผู้บริหาร GEN กับพวก รวม 3 ราย กรณีไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตจนเป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหาย

ข่าวทั่วไป Tuesday April 24, 2012 09:10 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 เม.ย.--ก.ล.ต. ก.ล.ต. กล่าวโทษนายอำนาจ ตันกุริมาน ประธานกรรมการบริหารและกรรมการของบริษัทเจนเนอรัลเอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (“GEN”) นายฉาย บุนนาค และนายกิตติชัย เขียวขำ ซึ่งขณะเกิดเหตุเป็นพนักงาน GEN ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษกรณีไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต จนเป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหาย รวมถึงมีการทุจริตถ่ายเทผลประโยชน์จากบริษัทโดยมิชอบ ผ่านการทำรายการซื้อขายหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2555 ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อให้ดำเนินคดีกับนายอำนาจกรณีมีหลักฐานน่าเชื่อว่าร่วมรู้เห็นกับนายฉายดำเนินการให้ GEN ซื้อขายหุ้นและใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทพี พลัส พี จำกัด (มหาชน) ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2554 โดยทุจริตในลักษณะจับคู่ซื้อขายเพื่อเอื้อประโยชน์โดยมิชอบให้กับบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนายฉายและของบุคคลกลุ่มหนึ่งซึ่งน่าเชื่อว่ามีนายฉายเป็นผู้ควบคุมสั่งการและหรือรับประโยชน์ โดยมีนายกิตติชัยให้การช่วยเหลือสนับสนุนในด้านการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีของ GEN จนเป็นเหตุให้ GEN ได้รับความเสียหายที่มาของการตรวจสอบจนเป็นผลให้มีการดำเนินคดีกับบุคคลในกรณีนี้ สืบเนื่องจากข้อมูลที่ ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และการรายงานพฤติกรรมอันควรสงสัยจากผู้สอบบัญชีของ GENรวมทั้งจากการรวบรวมข้อมูลในด้านต่าง ๆ ที่ได้จากการตรวจสอบ ทำให้มีพยานหลักฐานเพียงพอให้เชื่อได้ว่า พฤติกรรมของนายอำนาจ นายฉาย และนายกิตติชัย เข้าข่ายกระทำโดยทุจริตอันเป็นความผิดตามมาตรา 281/2 วรรคสอง ประกอบมาตรา 89/7 มาตรา 307 และมาตรา 311 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 83 มาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญาก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2555 ก.ล.ต. ได้แจ้งให้ GEN แก้ไขงบการเงินประจำปี 2554 เนื่องจากผู้สอบบัญชีถูกจำกัดขอบเขตการตรวจสอบโดยผู้บริหารในประเด็นที่ GEN ได้นำเงินเพิ่มทุนไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ โดยได้นำไปซื้อหุ้นและใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นของบริษัท พี พลัส พี จำกัด (มหาชน) และได้ซื้อเกินจำนวนที่ได้รับอนุมัติจากมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร จนทำให้ GEN มีผลขาดทุน และผู้สอบบัญชียังพบว่า มีข้อบกพร่องอย่างมากในระบบการควบคุมภายในที่เกี่ยวข้องกับการซื้อหุ้นและใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นดังกล่าวจนเกินวงเงินที่ได้รับอนุมัติ รายละเอียดปรากฏตามข่าว ก.ล.ต. ฉบับที่ 26/2555

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ