กรุงเทพฯ--26 เม.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,643 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,637 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.93 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,000 บาท กับ 24,100 บาท และกลับมาปิดที่ 23,950 บาท กับ 24,050 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 2,639 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 5,803 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 14 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 6% แบบ 10 บาท ลดลง 5% Silver Futures ลดลง 0.4% GFJ12 ปิดที่ 24,130 บาท และ GFM12 ปิดที่ 24,300 บาท และ GF10J12 ปิดที่ 24,130 บาท และ GF10M12 ปิดที่ 24,320 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 1.5 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,642 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 39 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 30.35 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำที่ 1,281.93 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 57 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 104.12 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 89.16 จุด ปิดที่ระดับ 13,090.72 จุด
Ratio Gold / Silver เท่ากับ 52 ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
The Bullion Desk
สัญญา God Futures ปรับตัวลดลงในระยะหนึ่ง หลังจากการประกาศแถลงการณ์นโยบายของ FOMC เมื่อคืนนี้ไม่ได้มีการพูดเป็นนัยอย่างเจาะจงว่ามีความต้องการมาตรการ QE3 ในระยะอันใกล้
สัญญาส่งมอบทองคำตลาด COMEX ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1,625 เหรียญ ซึ่งลดลงประมาณ 15 เหรียญก่อนการแถลงจาก FED อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำสามารถฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ 1,641 เหรียญได้
FOMC แถลงการณ์ว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีการขยายตัวในระดับปานกลาง ในขณะที่สภาพของตลาดแรงงานก็ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และ FED จะยังคงระดับอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0 — 0.25% เช่นเดิม
สภาพเศรษฐกิจ ประกอบด้วยการใช้ทรัพยากรในระดับต่ำและมุมมองของอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงตลอดช่วงระยะกลาง เป็นตัวรับประกันให้ FED คงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำเป็นพิเศษไปจนถึงปลายปี 2014
นอกจากนี้ FOMC จะทบทวนขนาดตามปกติและการประกอบกันของการถือครองสินทรัพย์ และได้เตรียมให้ปรับการถือครองดังกล่าวให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจมีการฟื้นตัวในสภาพที่ราคามีความคงที่
ราคาทองคำในตลาดกระทิงหวังให้ FED มองถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาในเศรษฐกิจมหัพภาพว่าแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตัวเลข Non-farm payroll ที่แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในเดือนที่ผ่านมาเพียง 120,000 ตำแหน่งเท่านั้น
US-based gold trader กล่าวว่า FOMC ไม่ได้ยอมรับถึงการรายงานล่าสุดและได้ตีพิมพ์แถลงการณ์ที่เหมือนกันกับการแถลงการณ์ในเดือนมีนาคม โดยไม่มีร่องรอยของ QE3 ในการแถลงการณ์ และนั่นเป็นสิ่งที่อธิบายการลดลงของราคาทองคำล่าสุดจากระดับ 1,640 เหรียญ ร่วงลงไปที่ระดับ 1,625 เหรียญ
Reuters
ราคาทองคำปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ หลังจากการแลงการณ์ของ FOMC เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่ไม่ได้สร้างความประหลาดใจมากนัก แต่ตลาดหุ้นมีการปรับตัวสูงขึ้นและมีความคาดหวังที่ FED จะมีมาตรการใดๆ เพิ่มเติมหากมีความจำเป็นเพื่อยกระดับเศรษฐกิจไม่ให้เกิดภาวะสูญเสีย
นายเบน เบอร์นันเก ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายของ FED (FOMC) เมื่อวานนี้ว่า FED มีความพร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ และยังกล่าวด้วยว่า เขาเตรียมที่จะใช้งบดุลบัญชีของ FED เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจหากจำเป็น
แม้ FED ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐในปีนี้ขึ้นเป็น 2.4 - 2.9% จากเดิม 2.2 - 2.7% และปรับลดคาดการณ์อัตราว่างงานในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 7.8 - 8.0% จากเดิม 8.2 - 8.5% ในการประชุมครั้งนี้ แต่เบอร์นันเกกล่าวว่า "เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญกับอุปสรรคมากมาย รวมถึงภาวะตึงเครียดในตลาดการเงินยุโรป และสถานะการคลังที่อ่อนแอภายในประเทศ นอกจากนี้ เศรษฐกิจสหรัฐยังคงได้รับผลกระทบจากภาวะซบเซาของตลาดอสังหาริมทรัพย์และความตึงเครียดด้านการเงินภายในประเทศ ซึ่ง FED จะต้องเตรียมรับมือ เพื่อหนุนเศรษฐกิจให้ขยายตัวรวดเร็วขึ้น"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงช่องว่างระหว่างทิศทางด้านนโยบายและการคาดการณ์ของประชาชนทั่วไป เบอร์นันเก กล่าวว่า "ผมคิดว่าคณะกรรมการ FED ยินดีที่จะรับฟังความเห็นของคนส่วนใหญ่ และในบรรดาเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของ FED เอง ก็มีมุมมองที่กว้างมาก แต่อย่างไรก็ตาม FED ก็นำปัจจัยต่างๆ เช่นความเสี่ยงและความไม่แน่นอน มาประกอบการตัดสินใจในการกำหนดนโยบายด้วย"
"หากแนวโน้มเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ ทิศทางของนโยบายการเงินก็จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเหมาะสมด้วย" เบอร์นันเกกล่าว
นอกจากนี้นายเบอร์นันเก กล่าวต่อไปว่า แม้ว่า FED จะไม่รีบเร่งออกมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมหากเศรษฐกิจไม่ได้อยู่ในภาวะอ่อนแอ ซึ่งนโยบายการเงินของสหรัฐฯ นั้นจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่ถูกต้องและเหมาะสม
ความต้องการในสินค้าภาคการผลิตของสหรัฐฯ ที่คงอยู่ได้เป็นเวลานานปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบ 3 ปีในเดือนมีนาคม และภาคธุรกิจตัดลดในแผนการใช้จ่าย ซึ่งเป็นการชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงในช่วงใกล้สิ้นสุดไตรมาสที่ 1
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนนี้
- Core Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิม 1.9% คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงที่ 0.6% ตัวเลขจริงออกมาลดลงอยู่ที่ -1.1%
- Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิม 1.9% คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงที่ -1.5%ตัวเลขจริงออกมาลดลงอยู่ที่ -4.2%
- Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิม 3.9M คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงที่ 2.7Mตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 4.0M
- Federal Funds Rate ตัวเลขเดิม