สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 30, 2012 09:54 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 เม.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,656 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,664 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.75 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,150 บาท กับ 24,250 บาท และกลับมาปิดที่ 24,050 บาท กับ 24,150 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 5,693 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 10,798 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 42 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 35% แบบ 10 บาท ลดลง 40% Silver Futures ลดลง 40% GFM12 ปิดที่ 24,510 บาท และ GFQ12 ปิดที่ 24,730 บาท และ GF10M12 ปิดที่ 24,520 บาท และ GF10M12 ปิดที่ 24,710 บาท สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 4.3 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,664.8 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น14 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 31.34 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำเพิ่มขึ้น 2.42 ตัน คงทองที่ระดับ 1284.35 ตัน น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 38 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 104.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 23.69 จุด ปิดที่ระดับ 13,228.31 จุด Ratio Gold / Silver เท่ากับ 53 ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ TheBullionDesk - ราคาทองคำมีการปรับตัวสูงขึ้นตลอดช่วงคืนวันศุกร์ โดยราคาทองคำได้รับแรงสนับสนุนให้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์อันเนื่องมาจากตัวเลขที่น่าผิดหวังในจีดีพีของสหรัฐฯ และการที่สเปนถูกดาวน์เกรดด้วยเช่นกัน ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,668.35 เหรียญ และปิดตลาดที่ระดับ 1,664.39 เหรียญโดยประมาณ โดยเป็นการพุ่งขึ้น 6.91 เหรียญจากระดับปิดตลาดวันพฤหัสบดีที่ 1,657.48 เหรียญ - ในช่วงตลอดวันศุกร์ทั้งวัน จุดความสนใจมุ่งไปที่ตัวเลข Advance GDP ของสหรัฐฯ ซึ่งผลออกมาอย่างน่าผิดหวังที่ระดับ 2.2% ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 2.6% อีกทั้งยังต่ำกว่าระดับก่อนหน้าที่ 3% แต่อย่างไรก็ตามมีการประกาศตัวเลขออกมาภายหลังที่ส่งผลต่อมุมมองเชิงบวกของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้แก่ ตัวเลข Consumer Spending ในไตรมาสแรกเมื่อคิดเป็นรายปีเพิ่มขึ้น 2.9% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปี 2010 และการประกาศตัวเลข UoM Consumer Sentiment เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 76.4 จากระดับเดือนมีนาคมที่ 76.2 และมากกว่าการคาดการณ์ที่ 75.8 - นอกจากนี้ ความกังวลในเรื่องวิกฤตหนี้ยูโรโซนก็ยังคงเป็นจุดสนใจอยู่ ซึ่งมีอิทธิพลต่อราคาทองคำเช่นเดียวกัน ด้วยการที่ S&P ประกาศดาวน์เกรดสเปนสู่ระดับ BBB+ จากระดับ A ด้วยมุมมองเชิงลบนั้น ซึ่ง ณ ขณะนี้สเปนมีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นในไตรมาสแรกมาอยู่ที่ระดับ 24.44% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในกลุ่มประเทศยูโรโซน - ความแตกต่างในความเคลื่อนไหวระหว่างราคาทองคำกับราคาน้ำมันเป็นสิ่งที่น่าจับตามอง โดยนักวิเคราะห์จาก RBS นายนิค มัวร์ กล่าวว่า ราคาทองคำดูจะมีการเคลื่อนไหวได้ดีกว่าราคาน้ำมัน โดยปกติทั้งสองสิ่งเคลื่อนตัวไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่เห็นการเปลี่ยนแปลง จะเห็นได้ว่าเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดตลาดที่ระดับ 119.27 เหรียญ/บาร์เรล ปรับตัวลดลง 26 เซนต์ โดยราคาทองคำมีการซื้อขายอยู่เหนือกรอบการซื้อขายในปัจจุบัน ไม่ว่าราคาทองคำจะสามารถฝ่าแนวราคาที่สูงกว่านี้ได้หรือไม่ก็ตาม ซึ่งเขากล่าวว่าเมื่อถึงช่วงสิ้นเดือนราคาทองคำจะมีการเคลื่อนไหวที่ดี Reuters - ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นใกล้กับระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในเช้านี้ เนื่องจากมุมมองที่ว่ามีการเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากขึ้น โดยได้รับแรงสนับสนุนมาจากการที่สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจากตัวเลขจีดีพีสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้ และความคาดหวังในเรื่องที่ว่าเฟดอาจออกนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ - โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประชาชนชาวสเปนกว่า 4 หมื่นคนได้ออกมาประท้วงต่อต้านรัฐบาลในเรื่องมาตรการตัดลดงบประมาณการใช้จ่ายด้านสาธารณสุขและการศึกษาลง 1 หมื่นล้านยูโรหรือ 1.32 หมื่นล้านดอลลาร์ ที่ผลักดันให้เศรษฐกิจของสเปนเข้าสู่ภาวะถดถอย และส่งผลให้อัตราการว่างงานอยู่ถึงเกือบระดับ 25% - นายอีแวนเจลอส เวนิเซลอส ผู้นำพรรคสังคมนิยมของกรีซ กำหนดนโยบายเศรษฐกิจของพรรคเมื่อวันเสาร์ โดยให้คำมั่นในการนำพากรีซให้รอดพ้นจากวิกฤติหนี้ภายในปี 2558 หากพรรคสังคมนิยมชนะการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 6 พ.ค.นี้ นอกจากนี้ นายเวนิเซลอสยังให้คำมั่นที่จะผ่อนคลายภาระด้านภาษีสำหรับชาวกรีซที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง และจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขยายตัวของประเทศที่ประสบปัญหาหนี้สิน - สำหรับผู้ค้าทองคำในอินเดีย ได้ถูกยับยั้งการเข้าซื้อทองคำท่ามกลางเทศกาลแต่งงาน เนื่องจากว่ามีการซื้อไปกักเก็บกันในปริมาณที่มาก และราคาที่พุ่งสูงขึ้นสูงสุดในรอบมากกว่า 4 เดือน - ในตลาดการเงิน สกุลเงินดอลลาร์ยังคงได้รับแรงกดดันต่อเนื่องในเช้านี้จากความผิดหวังในตัวเลขจีดีพีในไตรมาสแรกของสหรัฐฯ ส่งผลให้สกุลเงินเยน ปอนด์สเตอริง และสกุลเงินหลักๆ อื่นๆ อย่างออสเตรเลียดอลลาร์แข็งค่าขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบหลายสัปดาห์ ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันศุกร์ - Advance GDP q/q ตัวเลขเดิม 3.0% ออกมาจริงลดลงที่ 2.2% - Advance GDP Price Index q/q ตัวเลขเดิม 0.9% ออกมาจริงลดลงที่ 1.5% - UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิม 75.7 ออกมาเพิ่มขึ้นที่ 76.4 ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม - Core PCE Price Index m/m ตัวเลขเดิม 0.1% ตัวเลขคาดการณ์จะเพิ่มขึ้นที่ 0.2% - Personal Spending m/m ตัวเลขเดิม 0.8% ตัวเลขคาดการณ์จะลดลงที่ 0.4% - Chicago PMI ตัวเลขเดิม 62.2 ตัวเลขคาดการณ์จะลดลงที่ 60.9 วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำเริ่มทรงตัวอยู่เหนือระดับ 1,650 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการที่เป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายระหว่างแนวโน้มขาลงไปสู่แนวโน้มขาขึ้นที่มีเสถียรภาพมากขึ้นก่อนที่จะไปสู่ขาขึ้น ราคาทองคำเริ่มเข้าสู่ภาวะหยุดตก และค่อยๆปรับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นในอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า โดยในช่วงนี้ราคาทองคำเป็นช่วงสะสมพลัง โดยราคาทองคำน่าจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,650-1,675 เหรียญ ซึ่งเป็นกรอบที่ปรับตัวสูงขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้วประมาณ 20 เหรียญ หลังจากราคาทองคำลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,625 เหรียญ ในสัปดาห์ที่แล้ว และไม่มีจุดต่ำสุดใหม่ จึงวิเคราะห์ได้ว่า ราคาทองคำเริ่มหยุดตก และเข้าสู่สมดุลเป็นแนวโน้มขาขึ้น Gold Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,420 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,620 บาท Gold Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,650 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,850บาท Silver Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 960 บาท และแนวต้านที่ระดับ 990 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้น ให้เข้าช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว และขายทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น โดยชนแนวต้านด้านบนที่ระดับ 1,670 เหรียญขึ้นไป ให้เริ่มทยอยขายทำกำไรบ้าง คาดว่าราคาทองคำน่าจะแกว่งตัวในกรอบ 1,650-1,675 เหรียญ นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) ปรับพอร์ทเพิ่มขึ้นเป็น 30 % หลังจากทยอยเข้าช้อนซื้อเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ปรับพอร์ทเพิ่มขึ้น ซื้อเพิ่มตามประมาณ 30% เช่นเดียวกันกับนักลงทุนรายสัปดาห์ สรุปได้ว่า ทั้งนักลงทุนระยะรายสัปดาห์และระยะยาวเริ่มเข้าซื้อมากขึ้นและปรับพอร์ท เพิ่มไปหาระดับสมดุลของแต่ละพอร์ทประมาณ 40% — 60% ตลาดราคาทองบ้านเรายังได้รับการกระทบกระเทือนจากการแข็งค่าของเงินบาทอย่าง ต่อเนื่อง โดยที่ค่าเงินบาทในเช้าวันนี้ยังปรับตัวแข็งค่าลงมาอีกจากระดับ 30.80 บาท/ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ มาอยู่ที่ระดับ 30.75 บาท/ดอลลาร์ในเช้านี้ โดยที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นกว่า 5 สตางค์จะมีผลต่อราคาทองคำบาทละประมาณ 50 บาท/บาททองคำทีเดียว อย่างไรก็ดี MTS Gold ยังคาดว่าการปรับตัวของค่าเงินบาทยังช้ากว่าการปรับขึ้นของราคาทองคำ หมายความว่าโดยภาพรวมราคาทองคำจะเป็นแนวโน้มขาขึ้น การทำRoll Over ให้ทำกำไรในระยะสั้น โดยเริ่มขายเมื่อราคาขึ้นไปอยู่เหนือระดับ 1,670 เหรียญขึ้นไป เป็นการทำกำไรในระยะสั้นๆ บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ