กรุงเทพฯ--27 เม.ย.--นสพ.กรุงเทพธุรกิจ
“สุทธิชัย หยุ่น” กร้าว ”เครือเนชั่น” พร้อมพุ่งทะยานครั้งใหม่ ลดทุนจดทะเบียนเหลือ 873.302 ล้านบาท ล้างขาดทุนสะสม 770 ล้านบาท เหลือแค่ 2 ล้านบาทเศษ ตั้งเป้าเติบโตสมดุลยั่งยืน เพิ่มสัดส่วนรายได้ดิจิทัล-บรอดคาส์ เป็น 40 % ธุรกิจการศึกษา 20% ภายใน 5 ปี เตรียมเปิดน่านฟ้าธุรกิจสื่อและการศึกษาในกลุ่มประเทศเออีซี เริ่มเจรจาร่วมธุรกิจกับสื่อรายใหญ่ของพม่า
การประชุมสามัญประจำปีผู้ถือหุ้น บริษัทเนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป มีขึ้นในวานนี้ (26 เม.ย.) ณ โรงแรมเลอบัว แอดท เสตททาวเวอร์ กรุงเทพ ฯ มีมติสำคัญ คือลดทุนจดทะเบียน พร้อมนำส่วนเกินมูลค่าหุ้นไปล้างขาดทุนสะสม ซึ่งทำให้ ทุนจดทะเบียนของบริษัท ลดจาก 2,500,000 บาท เหลือ 873,302,359 บาท ส่งผลให้ขาดทุนสะสมของบริษัท เหลือเพียง 2,017,174 บาท เท่านั้น
เป็นที่น่าสังเกตว่า การประชุมผู้ถือหุ้นของเครือเนชั่นครั้งนี้ ได้รับความสนใจล้นหลาม นอกจาก ผู้ถือหุ้นที่เข้าร่วม ทั้งทีแสดงตน และมอบฉันทะ เป็นอัตราส่วนถึง 76.56 % ของผู้ถือหุ้นทั้งหมด ยังรวมถึงสื่อมวลชน และ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ที่เข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์ในวันเดียวกัน โดยมีเป้าหมายหลักคือต้องการพบปะ คณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ซึ่งถือเป็น “เลือดใหม่” ของเครือเนชั่น
นายสุทธิชัย หยุ่น ประธาน บริษัทเนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป กล่าวเปิดการประชุม โดยให้คำมั่นกับผู้ถือหุ้นว่า ภายใต้การบริหารของทีมผู้บริหารชุดใหม่ เครือเนชั่น พร้อมก้าวไปข้างหน้า ด้วยโมเดล “C = ME3” ( C เท่ากับ ME ยกกำลังสาม) ซึงจะทำให้เครือเนชั่นทะยานไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง
“สูตรของเนชั่น คือ C เท่ากับ ME ยกกำลังสาม เราตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเข้าถึงผู้บริโภค คือ Consumer อย่างไร้ขีดจำกัด ด้วย ME กำลังสาม M หรือมวลสารของเรา คือ เนื้อหาสาระหรือคอนเทนท์ที่แข็งแกร่ง ส่วนตัวคูณ หรือ ความเร็วแสงของไอสไตน์ สำหรับเรา คือ M 3 ตัว และ E 3 ตัว ประกอบด้วย Multi Plat form , Multi Content และ Multi Region เราจะก้าวไปอาเซียน และ ก้าวไปทั่วโลกในอนาต ส่วน E ทั้ง 3 ตัวได้แก่ E คือ Edutainment Entertainment และ E Business “ นายสุทธิชัย กล่าว
เขาขยายความว่า ในด้าน Multi Content เครือเนชั่น พร้อมขยายคอนเทนท์ หรือเนื้อให้ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้รับสื่อ โดยจะมุ่งเดินหน้า ข่าวสาร ไปสู่ ข้อมูล ความรู้ และ ปัญญาในที่สุด ในด้าน Multi Platform เครือเนชั่นจะมุ่งแผ่ขยายด้านแพลทฟอร์ม โดยเปิดเกมรุกในธุรกิจดิจิทัล และบรอดคาสท์อย่างจริงจัง
ส่วนการก้าวสู่ธุรกิจในต่างประเทศ หรือ Multi Region เครือเนชั่น จะเริ่มรุกเข้าสู่ต่างประเทศ ทั้งในธุรกิจสื่อ และ ธุรกิจการศึกษา ผ่านเครือข่ายที่แข็งแกร่ง ของหนังสือพิมพ์ The Nation
“เรามีเครือข่ายสื่อต่างประเทศที่แข็งแกร่งคือ ANN (Asia News Network) เครือข่ายสื่อที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย มีสมาชิกมากถึง 21 สื่อ ใน 18 ประเทศ ตั้งแต่ปากีสถานไปจนถึงญี่ปุ่น ตั้งแต่จีนจรดอินเดีย ซึ่งเครือข่าย ANN จะเป็นสะพานให้การเปิดธุรกิจในต่างประเทศทั้งธุรกิจสื่อ และ ธุรกิจการศึกษา ของเครือเนชั่น เป็นไปได้ง่ายขึ้น
นายสุทธิชัย ยังเปิดเผยด้วยว่า เครือเนชั่น ได้รับการติดต่อจากสื่อเอกชนของพม่า Eleven Media เจ้าของ นสพ.ภาษาพม่า และ นสพ.ภาษาอังกฤษในพม่า และเป็นผู้ให้บริการข่าว SMS ภาษาอังกฤษครั้งแรกในพม่า โดยทาบทามให้เครือเนชั่นเข้าไปช่วยเหลือในการขยายธุรกิจ เพราะชื่อเสียงของเนชั่นกรุ๊ปที่เป็นที่รู้จักดีในกลุ่มสื่อประเทศอาเซียน “เราจะก้าวสู่สากล โดยมี ANN เป็นฐานที่สำคัญ จากสื่อทั้งหมด 21 ฉบับ ใน 18 ประเทศ ข่าวของเราจะเข้าถึง 15 ล้านคน ทั่วเอเชีย นี่คือ จุดแข็งที่คนอื่นไม่มี”
สำหรับแนวคิด 3 E คือ ยุทธศาสตร์ ก้าวรุกสู่ ธุรกิจการศึกษา และ ธุรกิจบันเทิง พร้อมด้วยการรุกสู่ E-Business ซึ่งจะเป็นแหล่งก่อเกิดรายได้ที่สำคัญในอนาคต โดยมีนายต่อบุญ พ่วงมหา อดีตซีอีโอสนุกดอทคอม เป็นกำลังสำคัญ ด้วยประสบการณ์ที่บ่มเพาะในธุรกิจดิจิทัลเกินทศวรรษ เชื่อมั่นได้ว่านายต่อบุญ จะนำเครือเนชั่น ก้าวสู่ยุคดิจิทัล และสร้างรายได้จากสื่อใหม่ได้ต่อเนื่อง
ภายใต้การนำทีมของผู้บริหารชุดใหม่ และทิศทางธุรกิจ C= ME กำลัง 3 นายสุทธิชัย กล่าวว่า จะนำพาเนชั่นให้ก้าวไปข้างหน้า โดยเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคอย่างไร้ขีดจำกัด ตั้งแต่ Generation X , Generation Y ไปจนถึง Generation C หรือ Generation “Click&Connect”
“จากปัจจุบัน เครือเนชั่น เข้าถึงผู้บริโภค 35 ล้านคน ผมคิดว่าใน 5 ปี เราจะเข้าถึงมากกว่า 70 ล้านคน” นายสุทธิชัย กล่าว พร้อมทิ้งท้ายว่า “นายแบงก์ท่านหนึ่ง พูดกับทีมใหม่ของเราว่านี่คือ New Blood , Old Brain” เลือดใหม่ แต่สมองขั้นเก๋า ผมคิดว่าเขาเห็นค่าประสบการณ์ และ ค่าสมองของประสบการณ์ความเป็นมืออาชีพ กว่า 40 ปีของเรา เหล่านื้คือพลังมหาศาลที่จะทำให้เครือเนชั่น ทะยานขึ้นไปในท้องฟ้า ผมว่าอนาคตของเครือเนชั่น สุดยอดครับ” นายสุทธิชัย กล่าว
ขณะเดียวกัน นางสาวดวงกมล โชตะนา กรรมการ และกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทเนชั่น มัลติมีเดียกรุ๊ป ยังระบุว่า ภายใต้ ทิศทางใหม่ เครือเนชั่นพร้อมก้าวสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีโครงสร้างรายได้ที่สมดุล และลดความเสี่ยง โดย ใน 5 ปีข้างหน้า รายได้จาก สื่อดิจิทัลและบรอดคาสท์ จะมีสัดส่วนเพิ่มเป็น 40 % และรายได้จากธุรกิจการศึกษา จะเพิ่มเป็น 20% ส่วนรายได้จากสื่อสิ่งพิมพ์ จะลดจาก 60 % ในปัจจุบัน เหลือ 40%
“กลุ่ม NMG ได้ ขยายธุรกิจเพื่อสร้างสมดุลรายได้มานานแล้ว จะเห็นได้ว่า เรามีสถานีข่าวเนชั่น แชนแนล มาแล้วถึง12 ปี และในปีนี้ เราจะมีสถานีโทรทัศน์ ดาวเทียม เพิ่มขึ้นอีก 2 สถานี คือ สถานีกรุงเทพธุรกิจทีวี มุ่งโฟกัสกลุ่มนักธุรกิจ และ สถานี Kid Zone หรือคิดโซน เจาะกลุ่มเยาวชน ซึ่งจะทำให้รายได้ของเราเติบโตอย่างมั่นคงขึ้น” นางสาวดวงกมล กล่าว
นาย ศิริวัฒน์ วรเวท์วุฒิคุณ หนึ่งในผู้ถือหุ้น บริษัทเนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป ให้ความเห็นว่าการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งนี้ ทำให้ มองเห็นอนาคตของเนชั่นชัดเจนมากขึ้น “เป็น นิว เนชั่น อย่างแท้จริง ผมขอชื่นมการตัดสนใจลดทุนของบริษัท เพื่อให้หลุดพ้นจากภาวะขาดทุนสะสม ซึ่งจะทำให้มีโอกาสจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ในอนาคต”
สำหรับผลประกอบการของบริษัทปี 2554 บริษัทมีรายได้ทั้งสิ้น 2,643 ล้านบาท ลดลง 2 % จากปี 2553 ที่มีรายได้ 2,697 ล้านบาท ทั้งที่ใน 9 เดือนแรกของปีบริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีมาตลอด แต่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในไตรมาสสุดท้าย อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่เกิดขึ้นนับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมสื่อด้วยกัน แต่ทั้งนี้ ในภาพรวมบริษัทมีงบการเงินรวมปี 2554 ยังคงมีกำไรสุทธิ 104 ล้านบาท
การปรับเปลี่ยนโครงสร้างบริหารงานเครือเนชั่น เริ่มขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากการก้าวขึ้นมาของ นายสุทธิชัย หยุ่น ในฐานะประธานกรรมการบริษัทแล้ว ยังปรากฏทีมผู้บริหารเลือดใหม่ในฐานะกรรมการบริหาร ที่ประกอบด้วย นายเสริมสิน สมะลาภา ดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการ พร้อม กรรมการบริหาร อีก 3 คน คือ นางสาวดวงกมล โชตะนา กรรมการผู้อำนวยการ เนชั่นกรุ๊ป , นายพนา จันทวิโรจน์ กรรมการ ผู้อำนวยการ ธุรกิจต่างประเทศ เนชั่นกรุ๊ป และนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทเนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือNBC
นอกจากนี้ยังทีมผู้บริหารรุ่นใหม่ ที่เข้าร่วมสมทบอีก 3 คน คือ นายศิวะพร ชมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NINE , ผศ.ดร.พงษ์อินทร์ รักอริยะธรรม อธิการบดี มหาวิทยาลัยเนชั่น และสุดท้ายนายต่อบุญ พ่วงมหา อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สนุกดอทคอม จำกัด ในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการ ธุรกิจดิจิทัล