กรุงเทพฯ--30 เม.ย.--IR network
ผู้ถือหุ้น NUSA ไฟเขียวให้ลดทุนจดทะเบียนเพื่อจ่ายชดเชยส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นและล้างขาดทุนสะสม โดยลดจำนวนหุ้นในอัตรา 2.52 หุ้นต่อ 1 หุ้น หวังเกิดผลดีในอนาคตเพราะทำให้ผลขาดทุนสะสมลดลง “วิษณุ เทพเจริญ” ลั่นหากประเมินจากผลประกอบการที่สร้างผลงานได้ดีทุกไตรมาส น่าจะทำให้สามารถล้างขาดทุนสะสมได้หมดภายในปี 2555 และจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้เร็วขึ้น พร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “บมจ.ณุศาศิริ” เพื่อสะท้อนภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การบริหาร
นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อั่งเปา แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือNUSA เปิดเผยว่าที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2555 ได้มีมติอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วของบริษัทจากเดิมจำนวน 4,292,989,789 บาท ให้เป็นทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วจำนวน 1,703,567,377บาท เพื่อลดทุนมาชดเชยส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นและล้างผลขาดทุนสะสม โดยการลดจำนวนหุ้นสามัญตามสัดส่วนการถือหุ้น ในอัตรา 2.52 หุ้นต่อ 1 หุ้น ทั้งนี้ ในการคำนวณหากมีเศษหุ้น เป็นจำนวนมากกว่าหรือเท่ากับ 0.5 หุ้นให้ปัดขึ้นเป็นจำนวนเต็มและหากจำนวนน้อยกว่า 0.5 หุ้นให้ปัดทิ้ง
อย่างไรก็ตาม หากจำนวนหุ้นหลังการลดทุนมีจำนวนน้อยกว่าหรือมากกว่าจำนวน 1,703,567,377 หุ้นให้ดำเนินการเพิ่มหรือลดจำนวนหุ้นของ นายวิษณุ เทพเจริญ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท เพื่อให้ทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วของบริษัทมีจำนวนครบตามจำนวนดังกล่าว ดังนั้นภายหลังการลดทุนบริษัทจะคงเหลือผลขาดทุนสะสมจำนวน 22.94 บาท (คำนวณจากงบการเงินสำหรับรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2554)
“ที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันนี้ได้อนุมัติให้ลดทุนของ NUSA ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจของทุกคนและเชื่อมั่นในการทำงานของทีมบริหาร ซึ่งเรามั่นใจว่าการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นทุกคน เพราะทำให้ขาดทุนสะสมลงมากโดยจะลดลงเหลือเพียง 22.94 ล้านบาทเท่านั้น จากสิ้นปี 2554 ที่มีขาดทุนสะสมอยู่ 193.11 ล้านบาท และหากประเมินจากผลประกอบการที่ทำได้ดีอย่างต่อเนื่องทุกไตรมาส เชื่อว่าในปี 2555 น่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมได้หมดและเป็นโอกาสของผู้ถือหุ้น NUSA ที่มีโอกาสจะได้รับเงินปันผลได้เร็วยิ่งขึ้น”
นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นได้มีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทอีกจำนวน 680,432,623 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 680,432,623 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป ( General Mandate) โดยจะแบ่งจัดสรรให้หุ้นเพิ่มทุนจำนวน 510,432,623 หุ้น เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น และแบ่งอีกส่วนจำนวน 170,000,000หุ้น จัดสรรเพื่อเสนอขายบุคคลในวงจำกัด พร้อมกันนี้ได้มีมติอนุมัติเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก “บริษัท อั่งเปา แอสเสท จำกัด (มหาชน)” เป็น “บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน)” ด้วย
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ NUSA ชี้แจงว่าการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไปหรือที่เรียกว่า General Mandate จำนวน 680.43 ล้านหุ้นนั้น ขอให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนอย่าเพิ่งวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเป็นเพียงการขอมติจากผู้ถือหุ้นเอาไว้ก่อนเท่านั้น ยังไม่มีการเรียกหรือขายหุ้นเพิ่มทุนในช่วงเวลานี้แต่อย่างใด
“การเพิ่มทุนแบบ General Mandate เป็นเพียงการขอมติเอาไว้ก่อน เรียกว่าเป็นการเตรียมความพร้อมในการบริหารเงินทุนเอาไว้เผื่อว่าในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะใช้ลงทุนหรือมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินก็จะได้ไม่ต้องเรียกประชุมผู้ถือหุ้นหลายครั้ง และบริษัทเองก็มีความคล่องตัวในการบริหารเครื่องมือทางการเงินของบริษัทเองด้วย พร้อมกันนี้ได้มีการขอเปลี่ยนชื่อเป็น “ณุศาศิริ” ด้วย ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้สะท้อนภาพลักษณ์ในด้านชื่อเสียงของบริษัทและโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การบริหารของ NUSA มีความเด่นชัดมากยิ่งขึ้น” นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อั่งเปา แอสเสท กล่าวในที่สุด