สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพุธที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 2, 2012 10:28 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 พ.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,664 เหรียญ/ออนซ์และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,659 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.73บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,150 บาท กับ 24,250 บาท และกลับมาปิดที่24,150 บาท กับ 24,250 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่2,487 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 6,140 คู่สัญญา และ Silver Futuresอยู่ที่ 10 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 8% แบบ 10 บาทเพิ่มขึ้น 9% Silver Futures เพิ่มขึ้น 23% GFM12 ปิดที่ 24,460 บาท และGFQ12 ปิดที่ 24,620บาท และ GF10M12 ปิดที่ 24,450 บาท และ GF10Q12ปิดที่ 24,630 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 1.8 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,662.4 ดอลลาร์/ออนซ์Silver ปิดลดลง 8.2 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 30.87 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDRถือครองทองคำ 1,274.08 ตัน (ขายออก 4.23 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น1.29 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 106.16 ดอลลาร์/บาร์เรลดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 65.69 จุด ปิดที่ระดับ 13,279.32 จุดRatio Gold / Silver เท่ากับ 53.85 ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ TheBullionDesk - ราคาทองคำมีการปรับตัวสูงขึ้นในช่วงค่ำวานนี้หลังการประกาศตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐฯที่ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบางในวันแรงงานซึ่งเป็นการหยุดชะงักการฟื้นตัวในรอบ 6 วันไว้ชั่วคราวและปรับตัวลดลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,657 เหรียญเนื่องด้วยตลาดยุโรปและตลาดเอเชียปิดทำการเมื่อวานนี้กลุ่มโลหะไม่สามารถเคลื่อนตัวในเชิงบวกได้มาตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม - ทางด้านสหรัฐอเมริกา การประกาศตัวเลข ISM Manufacturing PMIออกมาอยู่ที่ 54.8 ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะออกมาอยู่ที่ 53 และตัวเลขISM Manufacturing Price ออกมาอยู่ที่ 61 เท่ากับระดับครั้งก่อนแต่ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะออกมาที่ 59.1 โดยนักวิเคราะห์จากFastMarkets ระบุว่าตัวเลขดังกล่าวมีผลต่อราคาทองคำซึ่งปรับตัวลดลงอีกครั้งไปอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยDMA 100 วัน ซึ่งเป็นระดับแนวต้านที่ 1,668 เหรียญโดยส่วนใหญ่มีการซื้อขายอยู่เหนือระดับนี้หลังจากที่สามารถ breakระดับดังกล่าวขึ้นไปได้ นอกจากนี้เส้นค่าเฉลี่ย DMA 50 วัน ณขณะนี้จะอยู่ที่ระดับ 1,675 เหรียญ หรือระดับแนวต้านถัดไปที่ 1,680เหรียญ Infoquest - กระทรวงการคลังสหรัฐคาดการณ์ว่ารัฐบาลกลางสหรัฐจะระดมทุนผ่านการกู้ยืมเงินจากตลาดทุนเพื่อนำมาใช้ในการดำเนินงาน เป็นวงเงินทั้งสิ้น 1.82 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ - นายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์กล่าวว่าเฟดอาจจะต้องเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแม้อัตราว่างงานในสหรัฐยังคงอยู่ที่ระดับสูงกว่า7%นายแลคเกอร์กล่าวในงานบลูมเบิร์ก วอชิงตัน ซัมมิทว่าเขาคิดว่าเป็นความเชื่อที่ผิดที่จะต้องทำให้อัตราว่างงานปรับตัวลงต่ำถึง5% หรือระดับหนึ่งราวๆนั้น ก่อนที่จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเขาแนะว่าเฟดควรเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แท้จริงเริ่มปรับตัวขึ้นโดยเตือนว่าหากมีการดำเนินการที่ล่าช้า จะทำให้มีเม็ดเงินจำนวนมากเกินไปและจะนำมาสู่แรงกดดันด้านเงินเฟ้อ Reuters ราคาทองคำยืนอยู่เหนือระดับ 1,660 เหรียญในเช้านี้หลังจากที่เมื่อคืนนี้ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์โดยราคาเมื่อวานนี้ได้รับอิทธิพลมาจากตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐฯที่ออกมาดีเกินคาดได้ผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจและลดความหวังที่เฟดจะออกมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ราคาทองคำแท่งมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ระดับ 1,661.79 เหรียญ ณ เวลา7.30 น. หลังจากที่ขึ้นไปเมื่อวันอังคารที่ระดับ 1,671.20 เหรียญ นักลงทุนจะจับตามองอย่างใกล้ชิดถึงการตัดสินใจในเรื่องอัตราดอกเบี้ยของอีซีบีในวันพฤหัสบดีตัวเลข Non-farm payroll ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์และการเลือกตั้งในสุดสัปดาห์นี้ที่จะเกิดขึ้นในฝรั่งเศสและกรีซ เมื่อวานนี้กองทุนทองคำ SPDR ลดการถือครองทองคำลง 0.33%มาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1,274.09 ตัน ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดทำจุดสูงสุดในรอบมากกว่า 4 ปีหลังจากตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐฯ ประจำเดือนเมษายนออกมาดีกว่าที่คาดไว้ทำให้ช่วยผ่อนคลายความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ลงสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนในเช้านี้ โดยมีการดีดตัวขึ้นมาจากระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนครึ่งหลังจากตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐฯ ออกมาดีขึ้น รวมไปถึงตัวเลขดัชนี PMI ของจีนที่ออกมาดีขึ้นตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันจันทร์ - Core PCE Price Index m/m ตัวเลขเดิม 0.1% ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.2 - Personal Spending m/m ตัวเลขเดิม 0.8% ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ 0.3% - Chicago PMI ตัวเลขเดิม 62.2 ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ 56.2 ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันอังคาร -ISM Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 53.4 ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 54.8 ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม -HSBC Final Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 49.1 - ADP Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิม 209 ตำแหน่ง คาดการณ์ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 178 ตำแหน่ง - Factory Orders m/m ตัวเลขเดิม 1.3% คาดการณ์ปรับตัวลดลงสู่ระดับ -1.5% - Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิม 4 M คาดการณ์ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 2.3 M วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำมีการแกว่งตัวขึ้นลงอยู่ในกรอบทิศทางแบบ Sideway Up อันจะเห็นได้ว่ามีบางช่วงลงมาทดสอบแนวรับด้านล่างที่ระดับ 1,650 เหรียญและสามารถดีดกลับขึ้นไปได้ โดยเมื่อวานราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาก่อนและค่อยๆ ดีดตัวกลับขึ้นไปจากข่าวการให้สัมภาษณ์ของประธานเฟดท่านหนึ่งที่ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมี QE3 ถ้าคนยังว่างงานยังอยู่ในระดับสูงที่ 8.2% เฟดเองก็คิดว่าน่าจะมีมาตรการ easing monetary ออกมา ซึ่งด้วยเนื้อข่าวตรงนี้เองส่งผลให้ทองคำปรับตัวสูงขึ้นจากระดับ 1,664 เหรียญไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,671 เหรียญ และปิดตลาดที่ระดับ 1,662 เหรียญ โดยมีปริมาณการซื้อขายเบาบางเนื่องจากตลาดญี่ปุ่นและตลาดยุโรปปิดทำการ MTS Gold วิเคราะห์ได้ว่าราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวไปทิศทาง Sideway Up ในเชิงการสะสมพลังก่อนที่จะเป็นขาขึ้น โดยมีการแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1,650 — 1,670 เหรียญ แนะนำให้ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว Gold Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,380 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,580 บาท Gold Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,540 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,740 บาท Silver Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 960 บาท และแนวต้านที่ระดับ 990 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้นโดยซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวเท่านั้น บริเวณแนวรับด้านล่างที่ระดับ 1,655 เหรียญลงมา นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) เป็นการซื้อสะสมต่อเนื่อง โดยถือครองพอร์ทที่ระดับ 30% — 40 ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวและขายทำกำไรบ้างบางส่วน นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง แนะนำให้ทยอยเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวเช่นเดียวกัน ถือครองพอร์ท 30% — 40% บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ