กรุงเทพฯ--26 พ.ค.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์
สุดยอดผู้บริหารชั้นนำในสหรัฐฯ ย้ำชัด ซัพพลายเชนต้องปรับตัวเพื่อขยายเครือข่ายทั่วโลกผลสำรวจชี้ผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 40 % มองซัพพลายเชนในเอเชียว่ายังขาดประสิทธิภาพ
ผลการสำรวจล่าสุดเปิดเผยว่าผู้บริหารธุรกิจของบริษัทชั้นนำในสหรัฐอเมริกามองว่า แม้ระบบซัพพลายเชนในภาคธุรกิจต่างๆ จะยังขาดประสิทธิภาพ แต่ก็เป็นปัญหาที่มีทางออกแล้ว โดยที่กว่า 40 % ของผู้บริหารที่ร่วมตอบแบบสอบถามซึ่งล้วนแล้วมาจากบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย ต่างตระหนักดีว่าระบบซัพพลายเชนในภูมิภาคนี้ยังคงขาดประสิทธิภาพอยู่มาก และผู้บริหารส่วนใหญ่ระบุว่า "อุปสรรคต่อไป" ของการพัฒนาระบบซัพพลายเชน คือ การประสานผู้ขายสินค้า ลูกค้า และผู้จำหน่ายวัตถุดิบให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
การสำรวจความเห็นดังกล่าว จัดทำโดย WirthlinWorldwide เมื่อเร็วๆ นี้ ในระหว่างการประชุมสัมมนาของผู้บริหารระดับสูงที่จัดโดย Harvard Business School Publishing และยูพีเอส ที่นิวยอร์ค
มร. ไมค์ เอสคิว ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทยูพีเอส กล่าวว่า "ผู้บริหารระดับสูงเชื่อมั่นว่าระบบซัพพลายเชนที่มีการจัดการและสอดประสานกันอย่างดี จะสร้างโอกาสทางธุรกิจและประโยชน์ให้แก่องค์กรมากขึ้น บริษัทต่างๆ เหล่านี้มีแผนที่จะขยายการดำเนินธุรกิจไปทั่วโลก จึงตระหนักดีว่าองค์กรของตนจำเป็นต้องพัฒนาการจัดส่งสินค้า ข้อมูล และเงินทุนอย่างมีระบบ"
จากการสำรวจดังกล่าว ผู้นำภาคธุรกิจส่วนใหญ่เชื่อว่าระบบซัพพลายเชนที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยลด ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ช่วยปรับปรุงการบริการลูกค้า และเพิ่มยอดการขาย อย่างไรก็ดี แม้ว่าผู้บริหารเหล่านี้จะเข้าใจดีถึงความจำเป็นดังกล่าว แต่ผู้บริหารจำนวน 57% ยอมรับว่าในปัจจุบันกลยุทธ์หลักและแผนงานทางธุรกิจขององค์กรของตนยังไม่สอดประสานกันมากนัก โดยมีเพียง 2% เท่านั้นที่ระบุว่ากลไกทั้งสองประสานกันเป็นอย่างดีแล้ว
และเมื่อกล่าวถึงระบบซัพพลายเชนในปัจจุบัน ผู้บริหารระดับสูงกล่าวว่าปัญหาสำคัญที่สุดขององค์กรของตน คือ ความแม่นยำในการคาดการณ์ความต้องการของตลาด การขาดความชัดเจนในด้านขอบเขตความรับผิดชอบ และการมีข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนเกี่ยวกับปริมาณสินค้าคงคลัง ในขณะที่ "ความท้าทายสำคัญ" ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาต่างๆ เหล่านี้ ได้แก่ ปัจจัยภายในองค์กร (38%) เทคโนโลยี (28%) และการทำงานอย่างสอดประสานกันของผู้จำหน่ายวัตถุดิบและคู่ค้า (25%)
สำหรับการสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับ "ความท้าทายที่การพัฒนาระบบซัพพลายเชนต้องเผชิญ" ผู้นำทางธุรกิจจำนวน 38% ระบุว่า "การประสานงานกับผู้ขายสินค้า ลูกค้า และผู้จำหน่ายวัตถุดิบ" เป็นปัญหาหลัก ซึ่งต้องเน้นไปที่การปรับปรุงการประสานงานของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายในการทำธุรกรรมการค้า และการใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยเพื่อปรับปรุงระบบซัพพลายเชน
"เมื่อการค้าทวีความซับซ้อนมากขึ้น ธุรกิจต่างๆ จึงจำเป็นต้องมีชุดซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้องค์กรสามารถบริหารและสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งสิ่งนี้ได้กลายกลยุทธ์ที่สำคัญขององค์กร และองค์กรไม่สามารถแยกกลยุทธ์ด้านซัพพลายเชนออกจากกลยุทธ์การบริหารองค์กรได้" มร. ไมค์ เอสคิว กล่าว
"ยูพีเอส" เป็นบริษัทจัดส่งพัสดุภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นผู้นำโลกในธุรกิจบริการซัพพลายเชน ที่ให้บริการหลากหลายครบวงจรที่เชื่อมโยงให้ "สินค้า ข้อมูลและเงินทุน" ขับเคลื่อน ไปในทิศทางเดียวกัน ยูพีเอส มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองแอตแลนต้า มลรัฐจอร์เจียประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีศูนย์จัดส่งและให้บริการในกว่า 200 ประเทศและเขตการปกครองต่างๆ ทั่วโลก นอกจากนี้ "ยูพีเอส" ยังเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารของ "ยูพีเอส" ได้ที่ UPS.com
แถลงข่าวในนาม : ยูพีเอส (ประเทศไทย)
รายละเอียดเพิ่มเติม : พิมลพรรณ ศิริวงศ์วานงาม (pimolpan.siriwongwanNgarm@ogilvy.com)
ซูซานน่า มุค (susanna.muk@ogilvy.com)
บริษัท โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์ จำกัด
โทร. 0 2632 8300-7--จบ--
-นท-