กรุงเทพฯ--4 พ.ค.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
พบอุปทานเปิดใหม่เพิ่ม 31% คอนโดฯ ระดับราคาต่ำกว่า 50,000-70,000 บาท
ยังครองแชมป์ส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด
- ระบุดีมานด์คอนโดมือสองพุ่ง ดันรายได้รีเซลพลัสโตเกินเป้า -
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ กะเทาะเปลือกคอนโด กทม. และ ปริมณฑล เจาะลึกภาพรวม 4 เดือนแรก พบตลาดโดยรวมทั้งมิติอุปสงค์และอุปทานเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาอย่างชัดเจน เนื่องจากมีดีมานด์คงค้างสะสมในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้รายได้รีเซลของพลัสฯ โตกว่าปีก่อนถึง 100 % และลูกค้ารีเซลเพิ่มขึ้นกว่า 150% พร้อมระบุคอนโดฯ ระดับราคา 50,000 — 70,000 บาท ยังครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุด
นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ฝ่ายวิจัยของบริษัทฯ สำรวจพบว่ามีอุปทานเปิดใหม่จํานวน 35 โครงการรวม 16,070 ยูนิต (เพิ่มขึ้นถึง 31% จากช่วงเดียวกันของปี 2554) และมียอดขายรวม 8,460 ยูนิต (เพิ่มขึ้นถึง 122%) (คิดเป็น 53% จากจํานวนอุปทานใหม่ทั้งหมด) โดยมูลค่าการเสนอขายรวมอยู่ที่ 39,932 ล้านบาท และมูลค่ายอดขายรวมอยู่ที่ 21,078 ล้านบาท โดยระดับราคาขายของโครงการใหม่ในช่วงดังกล่าว ยังเน้นไปที่คอนโดมิเนียมกลุ่มระดับราคาตํ่ากว่า 50,000 บาทต่อตร.ม. เป็นหลัก มีจํานวน 5,010 ยูนิต (คิดเป็น 31% จากจํานวนอุปทานใหม่ทั้งหมด) รองลงมาคือกลุ่มคอนโดระดับราคา 50,000-69,999 บาทต่อตร.ม. จํานวน 4,117 ยูนิต (คิดเป็น 26%) กลุ่มคอนโดฯ ระดับราคา 70,000-99,999บาทต่อ ตร.ม. จํานวน 3,687 ยูนิต (คิดเป็น 23%) และกลุ่มคอนโดระดับราคา 100,000-199,999 บาทต่อตร.ม. จํานวน 3,256 ยูนิต (คิดเป็น 20%) ซึ่งไม่พบโครงการในกลุ่มระดับราคาตั้งแต่ 200,000 บาทต่อตร.ม.ขึ้นไป ด้านผู้ประกอบการหลักส่วนใหญ่เปิดตัวในกลุ่มระดับราคาตํ่ากว่า 50,000 บาทต่อตร.ม. จํานวน 3,735 ยูนิต ตามด้วยกลุ่มคอนโดฯ ระดับราคา 70,000-99,999 บาทต่อตร.ม. และกลุ่มคอนโดฯ ระดับราคา 100,000-199,999 บาทต่อตร.ม. มีจำนวนยูนิตเสนอขายใกล้เคียงกันที่ 2,694 ยูนิต และ 2,668 ยูนิต ตามลำดับ
ทั้งนี้เมื่อวิเคราะห์ถึงแนวโน้มตลาดคอนโด กทม. และ ปริมณฑลในปี 2555 นายอนุกูล กล่าวแสดง ความเห็นในประเด็นดังกล่าวว่า “ตลาดคอนโดมิเนียมในช่วงครึ่งปีแรก 2555 โดยรวมเติบโตดีขึ้น เนื่องจาก ปัญหาอุทกภัยอาจทำให้ผู้บริโภคเกิดความหวั่นวิตกต่อที่อยู่อาศัยแนวราบ จนมีส่วนผลักดันให้เกิดความต้องการ ที่อยู่อาศัยแนวสูงเพิ่มขึ้นได้ อุปสงค์คาดว่าจะดูดซับได้ดีขึ้นอย่างน้อย 4% ส่วนผู้ประกอบการคาดว่าจะเริ่มทยอย เสนอขายโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีแรก 2555 มากขึ้น หลังจากรอดูสถานการณ์เมื่อปีที่แล้ว โดยจำนวนยูนิต เสนอขายใหม่มีโอกาสเติบโตมากกว่า 25% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีหลัง 2554 โดยยังเน้นกลุ่มลูกค้าระดับ ความต้องการคอนโดฯ ราคาระหว่าง 50,000 — 70,000 บาทต่อตร.ม. เป็นหลัก ซึ่งห้องชุดราคาต่ำกว่า 70,000 บาทต่อตร.ม. ยังมีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดอย่างน้อย 70% ของตลาดรวม โดยจะอยู่ในพื้นที่ส่วนต่อขยาย รถไฟฟ้าเป็นหลัก นอกจากนี้โครงการใหม่ส่วนใหญ่ยังเน้นเสนอขายในพื้นที่ใจกลางเมืองหรือพื้นที่ติดรถไฟฟ้า ซึ่งอยู่ในกลุ่มคอนโดฯ ระดับราคา 100,000-199,999 บาทต่อตร.ม. และคาดว่าอุปสงค์ยังตอบรับได้ดี ราคาขายเฉลี่ยรวมต่อตารางเมตรในปี 2555 อาจขยับขึ้นอีกเล็กน้อย 1-2% เนื่องจากมีอุปทานราคาตํ่าเข้ามาสูง แต่หากพิจารณาราคาเฉลี่ยเฉพาะ 5 โซนหลักอาจเปลี่ยนแปลงในช่วง 3-5% เป็นอย่างมาก"
“ในส่วนสายงานบริหารสินทรัพย์ของ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ นั้น ช่วง 3 เดือนแรกที่ผ่านมา เราสามารถทำรายได้รีเซลหรือการฝากขายอสังหาริมทรัพย์มือสองได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ประมาณ 25% หรือมีอัตราเติบโต 100% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยมีปริมาณลูกค้ารีเซลเพิ่มกว่า 150% ทั้งนี้ การเติบโตในธุรกิจรีเซลอย่างก้าวกระโดดดังกล่าวมาจากความต้องการที่อยู่อาศัยที่เติบโตต่อเนื่องจากปลายปีที่แล้ว จากเหตุที่ลูกค้าชะลอการซื้อช่วงเหตุการณ์อุทกภัย แต่เมื่อสถานการณ์กลับคืนสู่ปกติจึงได้เกิดพฤติกรรมการซื้อขึ้นอีกครั้ง นอกจากนั้น เศรษฐกิจในประเทศและนโยบายรัฐก็มีส่วนกระตุ้นให้เกิดการซื้อเช่นกัน โดย พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ยังเป็นผู้ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ลูกค้าเลือกใช้ในอันดับต้นๆ ซึ่งสิ่งนี้ได้สะท้อนถึงความสำเร็จของการวางวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่มุ่งเน้นในเรื่องการให้บริการอันเป็นเลิศได้เป็นอย่างดี เพราะลูกค้าที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่นั้นมาจากการแนะนำแบบปากต่อปากจากลูกค้าเก่าที่ประทับใจในการให้บริการแบบครบวงจรจากทีมที่ปรึกษาด้านอสังหาฯ มืออาชีพ ที่ช่วยให้ลูกค้าติดต่อฝากขายอสังหาฯ และสามารถปิดการขายได้ด้วยเงื่อนไขที่พอใจ” นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กล่าวสรุป