กรุงเทพฯ--27 พ.ค.--กทม.
จากการที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดงานวัน วิสาขบูชาซึ่งได้รับยกย่องจากนานาประเทศให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญสากลของโลก กทม. จึงได้กำหนดจัดงานสัปดาห์ส่งเสริม พระพุทธศาสนาส่วนกลาง ประจำปี ๒๕๔๗ ระหว่าง ๒๒ พ.ค.- ๒ มิ.ย.๔๗ ขึ้นอย่างยิ่งใหญ่
เป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าฯ ต่อพสกนิกรชาวพุทธที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระองค์มาประดิษฐานให้ประชาชนได้สักการะบูชา ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจตรงที่มีการจัดขบวนรถเอกลักษณ์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา จำนวนถึง ๗๒ คัน เท่ากับพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถในปีนี้อีกด้วย
บูชาสักการะพระบรมสารีริกธาตุ
ย้อนประวัติการบูชาสักการะพระบรมสารีริกธาตุตั้งแต่ครั้งพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพานแล้ว พระมหากัสสปะกับพระสงฆ์ ๕๐๐ รูป และมหาชนทั้งหลายกราบนมัสการพระบรมศพและพระยุคลบาทโดยควรแล้วพระบาท ทั้งสองก็ถอยหดหายจากพระหัตถ์ของพระมหากัสสปะ นิวัฒนาการคืนเข้าพระหีบดังเก่า ทุกสิ่งทุกอย่างได้ตั้งเป็นปกติ มิได้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวจากที่แต่ประการใด เป็นมหัศจรรย์อันยิ่งใหญ่อีกวาระหนึ่ง ขณะนั้นเสียงโศกาปริเทวนาการของมวลเทพยดาและมนุษย์ ซึ่งได้หยุดสร่างสะอื้นแล้วแต่ต้นวันก็ได้พลันดังสนั่นอีกเสมอด้วยวันดับขันธปรินิพพาน ขณะนั้นเตโชธาตุก็บันดาลติดจิตกาธานขึ้นเองด้วยอานุภาพเทพยดา เพลิงได้ลุกพวยพุ่งโชตนาเผาพระพุทธสรีระศพ พร้อมคู่ผ้า ๕๐๐ ชั้นกับหีบทองและจิตกาธานหมดสิ้น ยังมีสิ่งที่เพลิงมิได้เผาให้ย่อยยับไปด้วยอานุภาพพุทธอธิษฐาน ประกอบด้วยผ้าห่อหุ้มด้วยพระพุทธสรีระชั้นใน ๑ ผืน ผ้าหุ้มภายนอก ผ้าห่อหุ้มด้วยพระพุทธสรีระ ๑ ผืน พระเขี้ยวแก้วทั้ง ๔ พระรากขวัญทั้ง ๒ พระอุณหิส ๑
พระบรมธาตุ ๗ องค์นี้ ยังคงปกติอยู่ดีมิได้แตกกระจัดกระจายและพระบรมสารีริกธาตุทั้งหลาย นอกนั้นแตกฉานกระจัดกระจายทั้งสิ้น มีสัณฐานต่างกันเป็น ๓ ขนาด คือ ขนาดโตเท่าเมล็ดถั่วแตก ขนาดกลางเท่าเมล็ดข้าวสารหัก ขนาดเล็กเท่าเมล็ดผักกาด
โดยปกติพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระชนมายุยืนยาวไม่แตกทำลายอยู่คงเป็นแท่ง แต่พระศาสดาทรงดำหริว่า “ตถาคตมีชนมายุน้อย ประกาศพระศาสนาอยู่ไม่นาน ก็จะปรินิพพาน พระศาสนาจะไม่แผ่ไพศาลไปนานาประเทศ จึงได้อธิษฐานว่า เมื่อตถาคตปรินิพานเสร็จการถวายพระเพลิงแล้ว พระธาตุทั้งหลายจง แตกกระจายออกเป็น ๓ สัณฐาน มหาชนจะได้บูชาสักการะในนานาประเทศอันเป็นที่อยู่ของตน จะเป็นทางให้เข้าสู่กุศลอันจะอำนวยผลให้บังเกิดในสู่คติภพต่อไป”--จบ--
-นห-