สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 8, 2012 10:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 พ.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,636 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,636เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.96 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23,950 บาท กับ 24,050 บาท และกลับมาปิดที่ 23,850 บาท กับ 23,950 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 5,328 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 12,899 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 14 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 17% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 20% Silver Futures เพิ่มขึ้น 5% GFM12 ปิดที่ 24,200 บาท และ GFQ12 ปิดที่ 24,390 บาท และ GF10M12 ปิดที่ 24,190 บาท และ GF10Q12 ปิดที่ 24,380 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 6.1 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,639 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 31 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 30.12 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,274.99 ตัน (ซื้อเพิ่ม 0.91 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 55 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 97.94 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 29.74 จุด ปิดที่ระดับ 13,008.53 จุด Ratio Gold / Silver เท่ากับ 54.42 ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ TheBullionDesk และ Infoquest - สัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้ เนื่องจากการเลือกตั้งในฝรั่งเศสและกรีซที่วุ่นวายส่งผลให้สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลง จึงเป็นการทำให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น - สำหรับผลการเลือกตั้งในฝรั่งเศส นายฟรองซัวส์ ออลลองด์ จากพรรคสังคมนิยมคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีของฝรั่งเศสที่จัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เฉือนชนะคู่แข่งอย่างประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โกซีไปแบบขาดลอย เนื่องจากความผิดหวังและความโกรธเคืองที่มีต่อผลงานการบริหารประเทศ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องเศรษฐกิจของนายซาร์โกซี ขณะที่นายออลลองด์ได้หาเสียงด้วยการชูนโยบายการจัดเก็บภาษีจากบริษัทขนาดใหญ่ พร้อมกับการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ การเพิ่มการจ้างงานในตำแหน่งครู รวมทั้งการผ่อนปรนนโยบายรัดเข็มขัด และว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่จะเข้าพิธีสาบานตนในวันที่ 15 พ.ค.นี้ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่า นายออลลองด์จะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทายภายหลังรับตำแหน่ง ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจที่ทรงตัว อัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการผ่อนปรนมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งเป็นแนวคิดที่สวนทางกับสนธิสัญญาหลักการงบประมาณยุโรปซึ่งได้รับการผลักดันจากประธานาธิบดีซาร์โกซีกับนางอังเกล่า แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี - ในขณะที่สถานการณ์การเมืองในกรีซยังไม่มีแนวโน้มว่าจะมีเสถียรภาพ ภายหลังจากที่พรรคการเมืองใหญ่ของกรีซพ่ายศึกเลือกตั้งทั่วไปที่จัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พรรคสังคมนิยมของกรีซและพรรคนิวเดโมเครซี ซึ่งเป็นพรรคการเมืองใหญ่ที่สนับสนุนการรับความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศนั้น ไม่สามารถดึงคะแนนเสียงจากประชาชนได้ เนื่องจากชาวกรีซไม่พอใจกับนโยบายของพรรค ตลอดจนไม่มั่นใจในศักยภาพของประเทศว่า จะปฏิบัติตามกฎของเจ้าหนี้เพื่อแลกเปลี่ยนกับการรับความช่วยเหลือทางการเงินได้หรือไม่ - ขณะที่พรรคนีโอนาซีได้รับเลือกตั้งเข้าสภาฯ เป็นครั้งแรก ส่วนพรรคโกลเดน ดอว์น ซึ่งเป็นพรรคนิยมนาซีใหม่ หรือ “นีโอนาซี" ได้รับการเลือกตั้งเข้าสู่สภาฯ ด้วยเสียงสนับสนุนตามเกณฑ์คือ ร้อยละ 6-8 ทั้งนี้ พรรคนิวเดโมเครซีได้รับความไว้วางใจเพียงร้อยละ 20 ของการลงคะแนนเสียงครั้งนี้ ซึ่งคิดเป็นที่นั่งในสภาฯได้ไม่ถึง 100 ที่นั่ง จากจำนวนที่นั่งสภาฯ 300 ที่นั่ง ส่วนพรรค PASOK ได้รับคะแนนเสียงไปเพียงร้อยละ 14 นักวิเคราะห์กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งดังกล่าวชี้ว่า ไม่มีพรรคการเมืองใดที่ได้คะแนนเสียงข้างมากพอที่จะนำพาประเทศหลุดพ้นจากวิกฤตหนี้ได้ - เทรดเดอร์ทองคำกล่าวว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้เพียงแต่จะทำให้เกิดความคิดว่ากรีซยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่วุ่นวายทั้งในด้านการเมืองและทางเศรษฐกิจ หนทางเดียวที่กรีซจะกลับมายืนอยู่ในยูโรโซนได้ดีนั้นคือต้องตัดลดโครงการของรัฐบาลเพื่อที่จะรับเงินช่วยเหลือครั้งใหม่ แต่ปัญหาก็คือ เมื่อใดก็ตามที่รัฐบาลทำการตัดลดงบประมาณ จะนำมาซึ่งการขาดความชอบด้วยกฎหมายและแรงสนับสนุน เพราะฉะนั้นหนทางเดียวสำหรับกรีซก็คือ การเลิกใช้สกุลเงินยูโรไป ซึ่งในท้ายที่สุดต้องเกิดขึ้น - สำหรับข่าวทางด้านตลาดทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาการเก็งกำไรสุทธิขา long เพิ่มขึ้น 25.5 ตัน มายืนอยู่ที่ระดับ 473.8 ตัน อย่างไรก็ตามสถานะ long ยังคงมีไม่มากนักเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2011 ที่อยู่ที่ระดับ 671.3 ตัน ซึ่งการเพิ่มสถานะ long ในครั้งนี้มาจากการเพิ่มขา long ใหม่ 23.9 ตัน และการลดสถานะ short ออก 1.6 ตัน สแตนดาร์ดแบงก์กล่าวว่า นักลงทุนยังคงไม่มั่นใจว่าตลาดทองคำจะมาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น โดยสถานะ short ก็ยังคงอยู่ในปริมาณที่ต่ำเช่นกัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,600 — 1,630 เหรียญ โดยในระยะยาวราคาทองคำจะทำจุดสูงใหม่ในปีนี้ ซึ่งอาจอยู่ราวประมาณไตรมาสที่ 3 สำหรับตลาด Silver, สถานะ long position สุทธิลดลง 137.3 ตัน โดยมาจากการลดสถานะ long 306.7 ตัน และลดสถานะ short 169.4 ตัน ในขณะที่สัญญา Silver ทั้งหมดลดลง 910 ตันตลอดช่วงเดือนที่ผ่านมา Reuters - ปริมาณการซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สค่อนข้างเบาบางหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาแข็งแกร่ง รวมไปถึงความหวังที่จะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจจากเฟดอ่อนแรงลง ทำให้นักลงทุนลดการถือครองสถานะ long position โดยความกังวลในยูโรโซนยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่ขับเคลื่อนราคาทองคำให้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและพันธบัตรสหรัฐฯ เช่นเดียวกันกับพันธบัตรเยอรมนี เป็นตัวเลือกของสินทรัพย์ที่ปลอดภัยสำหรับนักลงทุน - เครดิต อะกริโคล กล่าวเมื่อวานนี้ว่า ความตึงเครียดในการต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดที่เพิ่มขึ้นอาจยิ่งทำให้มีการผลักดันการเจรจาในเรื่องแผนช่วยเหลือทางการเงิน ซึ่งเป็นการเพิ่มความดึงดูดในการลงทุนในทองคำ Hong Kong Census and Statistics Department เปิดเผยว่า ในเดือนมีนาคมฮ่องกงมีการขนส่งทองคำไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ 62,907 กิโลกรัม ซึ่งเกือบเท่ากับระดับ 59% - มีการคาดการณ์ว่า การนำเข้าทองคำในอินเดียอาจเพิ่มขึ้น หลังจากที่มีการยับยั้งความต้องการทองคำของกลุ่มร้านทองอันเนื่องมาจากการที่รัฐบาลได้เพิ่มภาษีการนำเข้าทองคำในเดือนมีนาคม - นางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐได้เดินทางเยือนอินเดีย โดยกล่าวว่า แม้ว่าอินเดียจะลดปริมาณการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านลงแล้วก็ตาม แต่สหรัฐก็ยังอยากให้อินเดียลดการนำเข้าลงมากกว่านี้ ขณะที่น้ำมันจากประเทศต่างๆ อาทิ ซาอุดิอาระเบียก็มีอยู่เพียงพอ และการที่อินเดียลดปริมาณการซื้อน้ำมันจากอิหร่านจะช่วยเพิ่มแรงกดดันที่มีต่ออิหร่าน ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันศุกร์ - Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 120K ตัวเลขจริงปรับตัวลดลง 115K - Unemployment Rate ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 8.2% ตัวเลขจริงปรับตัวลดลง 8.1% ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม - ไม่มีตัวเลขที่ต้องติดตาม วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบระหว่าง 1,635 — 1,643 เหรียญ ในการซื้อขายเมื่อวานนี้ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางในตลาดค้าทองคำ โดยMTS Gold ยังวิเคราะห์ว่า ราคาทองคำน่าจะอยู่ในทิศทางSidewayจากการที่ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินยูโรดอลลาร์ ซึ่งยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่าลง การที่สกุลเงินยูโรอ่อนค่ามาจากปัญหาทางการเมืองของประเทศกรีซและฝรั่งเศส ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงภาวะของเศรษฐกิจของประเทศดังกล่าว ซึ่งภายใต้รัฐบาลใหม่อาจจะสร้างความวุ่นวายสับสนในด้านการบริหารการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่กรีซยังมีการเปลี่ยนแปลงและไม่แน่นอน สิ่งนี้เป็นตัวกดดันให้สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงไปอีก โดยเมื่อวานสกุลเงินยูโรหลุดระดับ 1.3200 ดอลลาร์/ยูโรลงมา และเป็นตัวกดดันอีกครั้งหนึ่งที่ตลาดทองคำ ทำให้ตลาดทองคำยังอยู่ในแนวโน้มขาลงในภาพใหญ่ๆ กราฟรายวันยังเป็นทิศทางแนวโน้มขาลง โดยจะมีแนวต้านหลักอยู่ที่ระดับ 1,660 เหรียญ และแนวรับอยู่ที่ระดับ 1,645 เหรียญ ซึ่งราคาทองคำดูจะมีแรงกดดันอยู่ตลอดและยังคาดว่าจะเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบๆ ไปจนกว่ามีความชัดเจนมากกว่านี้ Gold Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,200 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,400 บาท Gold Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,280 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,500 บาท Silver Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 940 บาท และแนวต้านที่ระดับ 970 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) เก็งกำไรในภาวะการณ์แกว่งตัวในกรอบ 1,630 — 1,643 เหรียญ นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) ค่อยๆ ทยอยขายทำกำไร ลดพอร์ทลงเหลือ 30% นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ขายทำกำไรลดพอร์ทลงเหลือ 30% เท่านั้น รอความชัดเจนของทิศทางตลาด ขายเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น สรุปได้ว่า แนวโน้มหลักของทองคำยังเป็นทิศทางขาลง ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ