กรุงเทพฯ--9 พ.ค.--BOI
บีโอไอมั่นใจ ยอดซื้อขายชิ้นส่วนทะลุเป้า 6,000 บาท
บีโอไอเผย บริษัทชั้นนำจากต่างประเทศ 72 ราย ตอบรับเข้าร่วมเจรจาซื้อขายชิ้นส่วนจากผู้ผลิตของไทย ในงาน ซับคอน ไทยแลนด์ 2012 งานแสดงสินค้าชิ้นส่วนอุตาสาหกรรม ซึ่งจะจัดติดต่อกัน เป็นครั้งที่ 6 ระหว่าง 17 — 19 พฤษภาคมนี้ โดยตั้งเป้าหมายจะมีการจับคู่ธุรกิจมากกว่า 3,000 คู่ และมั่นใจว่า จะเกิดการซื้อขายชิ้นส่วนตลอด 3 วันของการจัดงานมากกว่า 6,000 ล้านบาท
นายนฤชา ฤชุพันธุ์ ผู้อำนวยการหน่วยพัฒนาการเชื่อมโยงอุตสาหกรรม หรือหน่วย BUILD (BOI Unite for Industrial Linkage Development) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ กล่าวถึง การจัดงาน “ซับคอน ไทยแลนด์ 2012” ระหว่างวันที่ 17 — 19 พฤษภาคมนี้ ที่ศูนย์แสดงสินค้า ไบเทค บางนา ว่า เป็นงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักร ซึ่งจัดติดต่อกันมาเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้จะเป็นครั้งที่ 6 แล้ว และในครั้งนี้จะให้ความสำคัญกับการหาบริษัทผู้ซื้อจากต่างประเทศ และผู้ซื้อที่เป็นบริษัทชั้นนำจากต่างประเทศที่มาลงทุนในประเทศไทย เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจแก่ผู้ผลิตชิ้นส่วนของไทยที่เข้าร่วมงาน โดยขณะนี้ ได้รับการตอบรับเข้าร่วมงานอย่างเป็นทางการจากบริษัทชั้นนำจากต่างประเทศ จำนวน 72 บริษัท อาทิ บริษัทจากประเทศญี่ปุ่น เยอรมนี เกาหลีใต้ จีน และไต้หวัน
นายนฤชา กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ยังมีบริษัทชั้นนำจากต่างประเทศที่ตั้งฐานการผลิตในประเทศไทยแล้ว ตอบรับเข้าร่วมงานอีก 42 บริษัท อาทิ เวสเทิร์นดิจิตอล ไดกิ้น เวิร์ลด์พูล มิตซูบิชิอิเล็กทริค ฟูจิตสึ เดนโซ่ เมอร์เซเดสเบนซ์ วอลโว่ สามมิตรมอเตอร์ ไทยซัมมิท โรเบิร์ต บอช คาวาซากิ ซูซูกิ และไทรอัมพ์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่จากประเทศอังกฤษ บีโอไอจึงมั่นใจว่า จะมีการจับคู่เจรจาธุรกิจมากกว่า 3,000 คู่ และจะเกิดการซื้อขายชิ้นส่วนภายในงาน มูลค่ามากกว่า 6,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ภายในงานซับคอน ไทยแลนด์ 2012 จะมีการจัดสัมมนา โดยหน่วยงานชั้นนำจากภาครัฐและเอกชน เพื่อถ่ายทอดความรู้และเทคนิคในการดำเนินธุรกิจ อาทิ กลยุทธ์การออกแบบผลิตภัณฑ์เชิงวิศวกรรม ทางด่วนสู่ทางออกวิกฤตแรงงานสำหรับผู้ผลิตชิ้นส่วน แหล่งเงินเพื่อธุรกิจรายย่อยและฟื้นฟูธุรกิจหลังภาวะน้ำท่วม เปิดตลาดอาเซียนด้วยระบบสารสนเทศ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีการจัดคลินิกอุตสาหกรรม ตลอดระยะเวลา 3 วันของการจัดงาน โดยมีหน่วยงานชั้นนำมาร่วมให้คำปรึกษา โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ได้แก่ สถาบันเพิ่มผลผลิต สถาบันยานยนต์ สถาบันค้นคว้าและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตทางอุตสาหกรรม สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักวิจัยและบริการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ศูนย์บูรณาการเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรมไทย ศูนย์เทคโนโลยีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม