กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--IR network
GUNKUL อวดผลงานไตรมาส 1/2555 สุดเริดกำไรสุทธิ 395.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 582.69% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 57.90 ล้านบาท “โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์” แจงรายได้จากการดำเนินธุรกิจทั้งจากโครงการพลังงานทดแทน และยอดขายทั้งในและต่างประเทศขยายตัวขึ้นอย่างโดดเด่น พร้อมขานรับกำไรจากการขายหุ้น ”จี-พาวเวอร์ ซอร์ซ” ระบุภาพของ GUNKUL ต่อจากนี้ยังสดใส ตามดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น พร้อมเดินหน้าลุยลงทุนด้านพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน
นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) เปิดเผยถึงผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2555 สิ้นสุด วันที่ 31 มีนาคม 2555 ของบริษัทและบริษัทย่อยว่ามีผลกำไรสุทธิอยู่ที่ 395.28 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 57.90 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 337.38 ล้านบาท คิดเป็นการขยายตัวถึงร้อยละ 582.69 ซึ่งสาเหตุที่ผลประกอบการไตรมาส 1/2555 ของกลุ่มบริษัท GUNKUL โดดเด่นขึ้นอย่างมาก เนื่องจากกลุ่มบริษัทมีรายได้รวมเท่ากับ 1,388.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันกับปีก่อนซึ่งมีรายได้รวมจำนวน 470.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 918.14 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 195.10 ทั้งนี้มีการรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากการรับเหมางานก่อสร้างจำนวน 488.75 ล้านบาท รายได้จากการจำหน่ายเงินลงทุนใน บริษัท จี-พาวเวอร์ ซอร์ซ จำกัด จำนวน 416.22 ล้านบาท (ทั้งนี้ได้รวมผลกำไรส่วนที่เกิดจากการรับรู้มูลค่าเงินลงทุนในบริษัทดังกล่าวด้วยมูลค่ายุติธรรม ณ วันที่โอนจำหน่ายเงินลงทุนให้กับผู้ร่วมทุนและขาดซึ่งอำนาจในการควบคุม จำนวน 97.01 ล้านบาทแล้ว)
"จากความมุ่งมั่นในการทำงานของทีมผู้บริหารและพนักงานของบริษัท รวมถึงปริมาณงานที่เพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ และการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 26 เมกกะวัตต์ จากบริษัท จี-พาวเวอร์ ซอร์ซ จำกัด (GPS) และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 30.9 เมกกะวัตต์ ของบริษัท กันกุล พาวเวอร์เจน จำกัด เข้ามาหนุนส่งผลทำให้ผลประกอบไตรมาส 1/2555 ของกลุ่มบริษัทกันกุลออกมาโดดเด่นและอยู่ในระดับน่าพอใจอย่างยิ่ง”
สำหรับทิศทางธุรกิจของบริษัทในช่วงที่เหลือของปีนี้ เชื่อว่าน่าจะยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ตามความต้องการในอุตสาหกรรมระบบไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ยังขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสแรก โดยบริษัทยังคงมีแผนในการลงทุนด้านพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อต่อยอดธุรกิจ ซึ่งปีนี้บริษัทตั้งเป้าส่งออกไปที่ประเทศสหภาพพม่าไว้ที่ 1,250 ล้านบาท จากปัจจุบันมีคำสั่งซื้อเข้ามาแล้วประมาณ 410 ล้านบาท และจากการที่มีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 1,000 กว่าล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมโครงการที่ยื่นประมูลแล้วและเตรียมยื่นอีกกว่า 3,000 ล้านบาทในปีนี้ ดังนั้นจึงคาดว่าปี 2555 ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทจะเติบโตตามเป้าที่วางไว้ โดยไม่น้อยกว่า 60% จากปีก่อน