ความคืบหน้าโครงการพักหนี้เกษตรกรรายย่อยและประชาชนผู้มีรายได้น้อย ที่มีหนี้คงค้างต่ำกว่า 500,000 บาท ที่มีสถานะหนี้ปกติ

ข่าวทั่วไป Friday May 11, 2012 14:34 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้เปิดเผยความคืบหน้าของโครงการพักหนี้เกษตรกรรายย่อยและประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้คงค้างต่ำกว่า 500,000 บาท ซึ่งคณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2555 ได้มีมติให้ความเห็นชอบหลักการดำเนินโครงการไปแล้ว โดยเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ที่มีหนี้ไม่เกิน 500,000 บาท ก่อนวันที่ 24 เมษายน 2555 ในสถาบันการเงินเฉพาะกิจ และมีสถานะปกติ ณ วันที่มายื่นแสดงความจำนงเข้าโครงการ โดยต้องไม่เป็นหนี้ประเภทสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อเช่าซื้อ/ลิสซิ่ง สินเชื่อสำหรับผู้มีรายได้ประจำ และไม่เป็นลูกหนี้ที่ได้รับการลดอัตราดอกเบี้ยหรือได้รับอัตราดอกเบี้ยเป็นกรณีพิเศษตามข้อตกลงของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ให้สามารถเลือกเลือกพักเงินต้นและ ลดอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อที่มีอยู่เดิมในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี หรือ ลดอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อที่มีอยู่เดิมในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี โดยไม่พักเงินต้น เป็นระยะเวลา 3 ปี (ระหว่างวันที่ 1 กันยายน 2555 ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2558) โครงการพักหนี้ฯ สถานะปกตินี้ ได้เริ่มให้ลูกหนี้ที่สนใจยื่นแสดงความจำนงเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2555 จนถึงวันที่ 20 สิงหาคม 2555 กับสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่เข้าร่วมโครงการ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยังได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ประชาชนได้ให้ความสนใจกับโครงการนี้อย่างมาก โดยเพียง 2 วัน (วันที่ 2-3 พ.ค. 55) หลังการเปิดให้ยื่นแสดงความจำนง มีประชาชนสนใจเข้าร่วมโครงการแล้ว 70,403 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.87 ของจำนวนประชาชนที่มีสิทธิทั้งหมด มูลหนี้ที่ได้รับการดูแลแล้ว 14,044 ล้านบาท ทั้งนี้ จำนวนผู้แสดงความจำนง ณ ปัจจุบันอยู่ระหว่างรวบรวมโดยกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ได้เร่งรัดให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจที่ร่วมโครงการเร่งรัดการทำความเข้าใจกับลูกหนี้ให้มาใช้สิทธิที่มี เช่น การจัดคณะทำงานลงพื้นที่เพื่อพบลูกค้าในระดับชุมชน หรือการส่งหนังสือแจ้งลูกค้าผู้มีสิทธิโดยตรง เป็นต้น รวมทั้งการประชาสัมพันธ์โครงการให้สาธารณะมีความเข้าใจเจตนารมณ์ของการดำเนินโครงการนี้ โดยมุ่งเน้นว่าโครงการนี้ไม่ใช่การปลดหนี้หรือตัดเงินต้นทิ้งไป ซึ่งจะส่งผลต่อวินัยทางการเงิน และลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการจะต้องมีการชำระภาระหนี้ที่มีอยู่อย่างตรงเวลา และใช้โอกาสที่มีในช่วงระยะเวลาที่เข้าโครงการอย่างคุ้มค่า กล่าวคือ ต้องมีการวางแผนและบริหารจัดการทางการเงินอย่างเป็นระบบและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยนำเงินที่ประหยัดได้ ไปพัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ ทั้งการนำไปลดภาระหนี้อื่น ๆ ที่ไม่จำเป็น หรือนำไปลงทุนในการประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืนต่อไป ซึ่งกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างวางกลไกในการติดตามดูแลความคุ้มค่าของโครงการอย่างใกล้ชิด สำนักนโยบายพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 02 273 9020 ต่อ 3697

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ