กรุงเทพฯ--12 พ.ค.--การบินไทย
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ประกาศผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ไตรมาส 1 ปีบัญชี 2555 บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานในระดับดี กล่าวคือมีกำไรก่อนอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและภาษีเงินได้ 3,341 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3,645 ล้านบาท
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในไตรมาสแรกของปี 2555 บริษัทฯ สามารถทำกำไรจากการดำเนินงานได้ในระดับดี ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่ไตรมาสแรกของปีซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวต่างชาติได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นหลังผลกระทบจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยในปลายปี 2554 คลี่คลาย อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน และการแข่งขันทางการตลาดที่รุนแรง ยังเป็นปัจจัยที่กระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง แต่จากแนวทางการดำเนินงานที่เหมาะสมที่ได้จากการระดมความคิดร่วมกัน
ทั้งจากคณะกรรมการบริษัทฯ และฝ่ายบริหาร ตลอดจนความร่วมมือของพนักงานในฝ่ายต่างๆ รวมทั้งการติดตามผลการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด ก่อให้เกิดการปรับปรุงการดำเนินงานในด้านต่างๆ ได้แก่ การปรับแผนการดำเนินงานได้รวดเร็วทันต่อสถานการณ์มากขึ้น ทั้งด้านการขาย การปรับเปลี่ยนตารางบินทั้งในส่วนของเครื่องบินที่ใช้ทำการบิน เส้นทางบิน และจำนวนเที่ยวบิน ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการเดินทางของผู้โดยสาร การขยายเส้นทางบินที่มุ่งเน้นเครือข่ายตลาดในภูมิภาค เพิ่มเส้นทางบินรองที่สามารถเชื่อมต่อทั้งเส้นทางบินภูมิภาคและระหว่างทวีปได้เป็นอย่างดี การปรับโครงสร้างราคาบัตรโดยสารให้มีความยืดหยุ่น หลากหลาย เหมาะสมกับตลาดและทันต่อสถานการณ์ของธุรกิจ การหารายได้เพิ่มขึ้นจากหน่วยธุรกิจ ประกอบกับการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และการควบคุมการลดค่าใช้จ่ายอย่างเคร่งครัด ทำให้บริษัทฯมีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ
ในไตรมาสนี้ เฉพาะกิจการของบริษัทฯ มีผู้โดยสารจำนวน 5.16 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกของปีก่อนร้อยละ 4.8 มีปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (Revenue Passenger — Kilometer/ RPK) จำนวน 15,605 ล้านคน — กิโลเมตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 และอัตราส่วน
การบรรทุกผู้โดยสาร(Cabin Factor) เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 76.0 เป็นร้อยละ 78.2
นอกจากนั้นผลจากการบริหารความเสี่ยงราคาน้ำมันที่มีประสิทธิภาพทำให้บริษัทฯ ได้รับการชดเชยจากการบริหารความเสี่ยงราคาน้ำมันถึง 909 ล้านบาท ส่งผลให้การดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 1 ปี 2555 สามารถทำกำไรได้หลังจากที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยในไตรมาสสุดท้ายของปี 2554 ซึ่งขาดทุนสุทธิ 5,388 ล้านบาท
ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2555 บริษัทฯ และบริษัทย่อย ซึ่งประกอบด้วย บริษัท ไทย-อะมาดิอุสเซาท์อีสต์เอเชีย จำกัด บริษัท วิงสแปนเซอร์วิสเซส จำกัด บริษัท ไทยไฟลท์เทรนนิ่ง จำกัด และ บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด โดยมีบริษัท ไทยไฟลท์เทรนนิ่งฯ และ บริษัท สายการบินนกแอร์ฯ เป็นบริษัทย่อยที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ทำให้บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 54,505 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จำนวน 2,654 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.1 ค่าใช้จ่ายไม่รวมกำไร (ขาดทุน) จากอัตราแลกเปลี่ยนมีจำนวนทั้งสิ้น 51,164 ล้านบาท สูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 3,425 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.2 สาเหตุหลักเนื่องจากราคาน้ำมันเครื่องบินโดยเฉลี่ยสูงขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายน้ำมันเฉพาะกิจการของบริษัทฯ สูงกว่าปีก่อนจำนวน 2,123 ล้านบาท และในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ จำนวน 527 ล้านบาท เปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 3,358 ล้านบาท เป็นผลให้บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 3,645 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.67 บาท เปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกัน
ในปี 2554 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 618 ล้านบาท หรือกำไรต่อหุ้น 0.28 บาท และมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่าเครื่องบินและอะไหล่ (EBITDAR) จำนวน 10,966 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อน 226 ล้านบาท ทั้งนี้ หากไม่รวมกำไร (ขาดทุน) จากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ บริษัทฯ มีกำไรก่อนอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและภาษีเงินได้ 3,341 ล้านบาท ลดลง 771 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.8ณ วันที่ 31 มีนาคม 2555 บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 281,397 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันที่ 31 ธันวาคม 2554 จำนวน 6,952 ล้านบาท หนี้สินรวมทั้งสิ้น 213,752 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,742 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 67,645 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,210 ล้านบาท