กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--ก.วัฒนธรรม
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2555 เวลา 10.00 น. นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย เป็นประธานพิธีเปิดการจัดอบรมผู้นำกลุ่มผู้ประกอบพิธีฮัจย์ประจำปี ๒๕๕๕ โดยมีนายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และมีผู้นำกลุ่มผู้ประกอบพิธีอัจย์ จำนวน 400 คน เข้าร่วมประขุมที่จัดขึ้นในวันที่ 12 — 14 พฤษภาคม ๒๕๕๕ ที่โรงแรมพาวิเลียน จังหวัดสงขลา
นางสุกุมล คุณปลื้ม กล่าวในพิธีเปิดงานว่า เป็นโอกาสดีที่ได้มาพบกับผู้นำกลุ่มซึ่งมีความใกล้ชิด และได้รับความไว้วางใจ จากผู้แสวงบุญ ที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ครั้งหนึ่งในชีวิต ซึ่งรัฐบาลได้ให้การสนับสนุน โดยค ณะกรรมการกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ได้ทำหน้าที่สนับสนุน ช่วยอำนวยความสะดวก ปลอดภัย และปฏิบัติศาสนกิจได้อย่างถูกต้องตามหลักการของศาสนาอิสลาม โดยการจัดอบรมให้มีความรู้ ความเข้าใจ และรอบรู้ทั้งของไทยและซาอุดิอาระเบีย รวมทั้งข้อระเบียบกฎหมาย ให้ผู้นำกลุ่มสามารถแนะนำช่วยเหลือผู้แสวงบุญ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยขน์สูงสุดต่อการไปประกอบพิธีฮัจย์ของผู้แสวงบุญชาวไทย
นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนากล่าวว่า การอบรมผู้นำกลุ่มผู้ประกอบพิธีฮัจย์มีหลักสูตรที่ครอบคลุมใตามระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย กำหนดให้ผู้ที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เดินทางเป็นกลุ่มๆ ละ ไม่เกินห้าสิบคน แต่ละกลุ่มจะต้องมีผู้นำกลุ่มหนึ่งคน และผู้นำกลุ่มจะต้องผ่านการฝึกอบรมและได้รับบัตรประจำตัวผู้นำกลุ่ม จากสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ซึ่งผู้ประกอบกิจการฮัจย์เป็นผู้แจ้งชื่อผู้นำกลุ่มในสังกัด เพื่อเข้ารับ อบรมต่อกรมการศาสนา เนื้อหาวิชาความรู้ที่กว้างขวางและชัดเจนมากยิ่งขึ้น ได้แก่ กฎหมายที่เกี่ยวกับการฮัจย์ของไทย ระเบียบการจัดองค์กรกิจการฮัจย์ของทางการซาอุดีอาระเบีย พิธีการ เข้า — ออก ราชอาณาจักรและการใช้บริการท่าอากาศยาน การใช้เครื่องอำนวยความสะดวก บนเครื่องบิน การดูแลสุขภาพ ขั้นตอนการประกอบพิธีฮัจย์ บทบาทหน้าที่และการอำนวยความสะดวกผู้ไปประกอบพิธีฮัจย์ ตลอดจนภาษาอาหรับและอังกฤษเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ ผู้นำกลุ่มที่ผ่านการทดสอบโดยได้คะแนนรวมไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 โดยจะได้รับบัตรประจำตัว และวุฒิบัตร
ด้านพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวว่า ในส่วนของของการดูแลผู้ประกอบพิธีฮัจย์ ซึ่ง ศอ.บต.ได้รับโควต้ามา 200 คน ซึ่งในส่วนนี้ตนได้ปรึกษากับนายนาบิล เอช อัลชรี อุปทูตซาอุดิอาระเบีย ขอให้เป็นโควต้าพิเศษ แยกออกมาจากที่ได้รับในแต่ละปี จำนวน 13,000 คน และยังเสนอขอให้ผู้ทีี่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ได้รับโอกาสไปประกอบพิธีฮัจย์ให้กับผู้ที่เสียชีวิต และอยากให้มีสนามบินฮัจย์โดยเฉพาะ รวมถึงเพ ่ิมศักยภาพเพื่อยกระดับให้เป็นสากล ที่สำคัญคุณค่าของฮัจย์จะช่วยแก้ไขปัญหาให้เบาบางลงและก่อให้เกิดความสงบสุในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้