กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
‘SGP’ เข้าสู่ปีทอง ผลงานไตรมาสแรกไปได้สวย ดันยอดขายกว่าหมื่นล้านบาทกำไรสูงสุดในประวัติศาสตร์ ชี้ความต้องการใช้แก๊สแอลพีจียังพุ่งสูงหนุนเป้าสิ้นปีโต 30% และทำกำไรนิวไฮ
‘SGP’-สยามแก๊สฯ โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปี 55 ทำรายได้ 11,322 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% ส่วนกำไรสุทธิทำได้ 747 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 146% ธุรกิจต่างประเทศเริ่มโชว์ผลงาน เก็บเกี่ยวรายได้และกำไรเต็มเม็ดเต็มหน่วยจากคลังแก๊สในประเทศจีนได้ตามฤดูกาล ขณะที่ความต้องการใช้พลังงานแก๊สแอลพีจีภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น ระบุความต้องการแก๊สในประเทศและต่างประเทศยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง หนุนยอดขายโต มั่นใจสิ้นปีโต 30%
นายศุภชัย วีรบวรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทสยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของปี 2555 (มกราคม-มีนาคม 2555) ว่า บริษัทฯ มีรายได้ 11,322 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้ 8,689 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 747 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 146% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่ทำกำไรสุทธิ 304 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปัจจัยสนับสนุนผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของ SGP มาจากการเติบโตของยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยยอดขายในประเทศมีอัตราเพิ่มขึ้น 5% ขณะที่ตลาดต่างประเทศ ก็มีอัตราการเติบโตที่โดดเด่นถึง 8% และในไตรมาส 1 นี้ บริษัทฯได้ใช้ประโยชน์จากคลังเก็บแก๊สแอลพีจีที่เมืองจูไห่และเมืองซัวเถาในประเทศจีนซึ่งเก็บแก๊สแอลพีจี รวมกันได้ถึง 300,000 ตัน ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ในการเก็บเกี่ยวผลกำไรตามฤดูกาลด้วยความสามารถในบริหารจัดการสินค้าคงคลังได้เหมาะสมกับแนวโน้มความต้องการใช้แก๊สแอลพีจีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“การลงทุนในคลังแก๊สที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ในปี 2554 ที่ผ่านมา SGP ก้าวขึ้นเป็นผู้นำเข้าและส่งออกอันดับหนึ่งของประเทศจีน เป็นที่ยอมรับในตลาดการค้าก๊าซในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะเป็นผลดีในการทำตลาดในอนาคตอีกด้วย ปัจจุบันผู้ค้าแก๊สรายใหญ่ในจีนและประเทศใกล้เคียงหลายรายหันมาซื้อแก๊สจากเรา ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวเริ่มส่งผลให้เห็นผลงานที่บริษัทสามารถเก็บเกี่ยวผลกำไรได้ตามความคาดหมายในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา” นายศุภชัย กล่าว
กรรมการผู้จัดการ บมจ. สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ หรือ SGP กล่าวต่อไปว่า ปี 2555 จะเป็นปีทองแห่งการเก็บเกี่ยว บริษัทฯคาดว่าจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตของรายได้และผลกำไร จากทั้งธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนขยายธุรกิจในต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับ ความไว้วางใจและเชื่อมั่นของลูกค้า การก้าวขึ้นเป็นผู้ค้าส่งแอลพีจีรายใหญ่และผู้นำระดับภูมิภาค อีกทั้ง ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการบริหารต้นทุนแก๊สและสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ ก็เป็นปัจจัยสำคัญในปีนี้ที่จะช่วยส่งผลให้บริษัทฯมีผลประกอบการ ที่มีรายได้แตะระดับ 50,000 ล้านบาท และผลกำไรที่เติบโตตามรายได้และสูงกว่าในทุกปีที่ผ่านมา สุดท้ายด้วยความสามารถเก็บแก๊สได้ถึง 300,000 ตันของคลังก๊าซในประเทศจีนซึ่งยังสามารถรองรับการเพิ่มยอดขายได้อีกมาก จึงมั่นใจว่าบริษัทจะยังมีอัตราการเติบโตทั้งรายได้และผลกำไรที่ดีในปีต่อๆไป