กรุงเทพฯ--3 มิ.ย.--สำนังานเลขานุการกองทัพเรือ
ช่วงเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนมิถุนายน มักพบการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ได้ง่าย เนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนจากหน้าร้อนเข้าสู่หน้าฝน ซึ่งไข้หวัดใหญ่พบได้ ทุกเพศ ทุกวัย เกิดจากเชื้ออินฟลูเอนซาไวรัส (Influeza virus) เชื้อนี้อยู่ในน้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะของผู้ป่วย ติดต่อโดยการไอ จาม หรือหายใจรดกัน หรือโดยการสัมผัสถูกมือหรือสิ่งของเครื่องใช้ที่มีเชื้อ โดยจะแสดงอาการภายใน ๑ - ๔ วัน หลังการรับเชื้อ ปัจจุบันมีเชื้อไข้หวัด ๓ ชนิดใหญ่ ๆ เรียกว่า ชนิดเอ บี และ ซี ซึ่งแต่ละชนิดยังแบ่งเป็นพันธุ์ย่อย ๆ อีก ในการเกิดโรคแต่ละครั้งจะเกิดจากพันธุ์ย่อยเพียงพันธุ์เดียว เมื่อเป็นแล้วก็จะมีภูมิต้านทานต่อพันธุ์นั้น แต่ไม่สามารถต้านทานพันธุ์อื่นได้
อาการของไข้หวัดใหญ่จะมีอาการไข้สูง หนาว ๆ ร้อน ๆ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ปวดศรีษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ขมในคอ อาจมีอาการเจ็บคอ น้ำมูกใส ไอแห้ง ๆ จุกแน่นท้อง ซึ่งส่วนใหญ่ ผู้ป่วยจะหายเองโดยไม่มีโรคแทรกซ้อนการรักษาเมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่นั้น แพทย์จะให้การรักษาตามอาการเหมือนไข้หวัด คือ นอกพักมาก ๆ ห้ามตรากตรำงานหนัก ห้ามอาบน้ำเย็น ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวเวลามีไข้สูง รับประทานอาหารอ่อน ๆ เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก น้ำหวาน น้ำผลไม้ และให้ยาลดไข้แก้ปวด ในเด็กควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาแอสไพริน ข้อสำคัญ ควรนอนพัก ดื่มน้ำมาก ๆ และห้ามอาบน้ำเย็น ควรดูแลตนเองให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย นอนหลับให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ล้างมือทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร--จบ--
-นท-