กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--กรมสรรพากร
ดร. สาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากรเปิดเผยว่า “ในปัจจุบันประเทศไทยมีอนุสัญญาภาษีซ้อนแล้ว 55 ฉบับ และล่าสุดในปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รัฐสภาได้พิจารณาและให้ความเห็นชอบอนุสัญญาภาษีซ้อนเพิ่มเติมอีก ได้แก่ อนุสัญญาภาษีซ้อนระหว่างประเทศไทยกับปาปัวนิวกินี โมร็อกโก บรูไน ทาจิกิสถาน เคนยา ไอร์แลนด์ ลิทัวเนีย เอสโตเนีย และฟิลิปปินส์ฉบับใหม่ ซึ่งเมื่อกระทรวงการต่างประเทศได้ไปดำเนินการทางการทูตแล้วก็จะมีผลใช้บังคับทันที และทำให้ประเทศไทยมีเครือข่ายอนุสัญญาภาษีซ้อนเพื่อรองรับการค้าระหว่างประเทศทั้งสิ้นจำนวน 64 ฉบับ ซึ่งจะสนับสนุนการลงทุนระหว่างประเทศ โดยจัดเก็บภาษีในอัตราที่ต่ำลงและไม่ซ้ำซ้อน ในขณะเดียวกันกรมสรรพากรก็ได้รับประโยชน์จากความร่วมมือในการป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีด้วย”
อธิบดีกรมสรรพากรกล่าวเพิ่มเติมว่า “ในระยะแรกกรมสรรพากรมีนโยบายที่จะเจรจาให้ครอบคลุมประเทศ AEC ทั้งหมดก่อน โดยในปัจจุบันประเทศไทยมีอนุสัญญาภาษีซ้อนกับประเทศสมาชิก AEC ที่มีผลใช้บังคับแล้ว 8 ฉบับ เหลือเพียงกัมพูชาเท่านั้น ซี่งกรมสรรพากรจะเร่งเจรจาเป็นลำดับถัดไป ก้าวต่อไปกรมสรรพากรก็จะขยายการเจรจาออกไปยังประเทศอื่นๆ นอกกลุ่ม AEC เพิ่มเติมจากเดิมด้วย”
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของกรมสรรพากร www.rd.go.th หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ RD Call Center หมายเลข 1161