กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาวของบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH ที่ระดับ ‘BBB+(tha)’ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ และคงอันดับเครดิตภายในประเทศ ระยะสั้น ที่ระดับ ‘F2(tha)’
อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะความเป็นผู้นำในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย และชื่อเสียงของบริษัทฯ ที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในตลาดบ้านเดี่ยว ความสำเร็จในการขยายตลาดไปยังกลุ่มอาคารชุดพักอาศัยระดับกลางในปี 2553 และ 2554 ยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับสถานะทางการตลาด และยอดขายล่วงหน้า (presales) ของบริษัทฯอีกด้วย แม้ว่าจะเกิดภาวะน้ำท่วมรุนแรงในเดือนตุลาคม และพฤศจิกายน 2554 LH ยังสามารถบันทึกรายได้ในไตรมาสที่สี่ปี 2554 ได้สูงในลำดับต้นๆ เมื่อเทียบกับคู่แข่ง
อัตราส่วนทางการเงินของ LH อ่อนแอลงในปี 2554 โดยมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อสินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้นเป็น ร้อยละ 49 และ อัตราส่วนกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์และหนี้สิน ต่อดอกเบี้ยจ่าย ลดลงมาอยู่ที่ 2.9 เท่า ณ สิ้นปี 2554 จากร้อยละ 46 และ 4.0 เท่าตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนทางการเงินของ LH จะปรับตัวดีขึ้นในปี 2555 จากค่าใช้จ่ายลงทุนที่น้อยลง การโอนกรรมสิทธิในโครงการอาคารชุดที่แล้วเสร็จ และเงินสดจากการขายและให้เช่าช่วงเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ทั้งสามโครงการ นอกจากนี้การขายอสังหาริมทรัพย์สำหรับให้เช่า และ การขายเงินลงทุนในบริษัทฯร่วมยังสามารถช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับบริษัทฯในช่วงเวลาที่ต้องการได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายลงทุนของบริษัทฯอาจยังคงสูงอยู่ในช่วงสองปีข้างหน้า หากบริษัทฯ ชนะการประมูลที่ดินสามย่าน ซึ่งเป็นทำเลธุรกิจการค้าที่สำคัญใจกลางกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ฟิทช์ยังไม่ได้รวมการลงทุนในโครงการที่ดินสามย่านในการพิจารณาอันดับเครดิตของบริษัทฯในครั้งนี้ เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนในการชนะการประมูล และจะพิจารณาผลกระทบจากการลงทุนโครงการดังกล่าวต่อสถานะทางการเงินและธุรกิจของบริษัทฯ เมื่อบริษัทฯมีรายละเอียดการลงทุนดังกล่าวที่ชัดเจนมากขึ้น
ฟิทช์คาดว่า presales ของ LH จะฟื้นตัวในปี 2555 หลังจากได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในปีก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากโครงการที่อยู่อาศัยพร้อมขายของบริษัทฯ ที่มีจำนวนมาก และหลากหลาย รวมถึง โครงการอาคารชุดที่จะเปิดตัวในปี 2555 อีกหกโครงการ ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวม 1.1 หมื่นล้านบาท presales ของโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบในพื้นที่ที่น้ำไม่ท่วมในปี 2554 ได้เริ่มปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสที่หนึ่งปี 2555 และน่าจะยังคงดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในอีกสามไตรมาสหลัง อย่างไรก็ตาม presales ของโครงการที่พักอาศัยแนวราบในพื้นที่ที่น้ำท่วมในปี 2554 น่าจะยังคงอ่อนแออยู่ presales ของโครงการบ้านเดี่ยวของ LH เพิ่มขึ้น ร้อยละ 12 ในปี 2554 ถึงแม้ว่าจะเกิดภาวะน้ำท่วมรุนแรงในไตรมาสที่สี่ของปีก็ตาม
อันดับเครดิตของ LH ยังพิจารณารวมถึงลักษณะความเป็นวัฏจักรของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งส่งผลให้กระแสเงินสดจากการดำเนินงานมีความผันผวนสูง ความเสี่ยงหลักในการดำเนินงานได้แก่ ค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำและต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่กำลังเพิ่มขึ้น การแข่งขันที่รุนแรง รวมถึงราคาที่สูงขึ้นของที่ดินในทำเลที่มีศักยภาพสูง นอกจากนี้นโยบายการจ่ายเงินปันผลที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ยังอาจเพิ่มแรงกดดันต่ออัตราส่วนหนี้สินที่สูงอยู่แล้วในปัจจุบันในช่วงที่ธุรกิจหลักของบริษัทฯ มีการขยายตัว
การปรับลดอันดับเครดิตอาจเกิดขึ้นได้จาก การที่อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่าต่อรายได้ (EBITDAR margin) ของบริษัทฯ ลดต่ำลงกว่า ร้อยละ 15 อย่างต่อเนื่อง (อัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ ร้อยละ 22 ณ ปัจจุบัน) การมีผลประกอบการที่อ่อนแอซึ่งทำให้ อัตราส่วนกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์และหนี้สิน ต่อดอกเบี้ยจ่าย ลดต่ำลงกว่า 3.0 เท่า หรือการมีอัตราส่วนหนี้สินที่สูงอย่างต่อเนื่อง รวมถึง สภาพคล่องทางการเงินที่ต่ำกว่าที่คาด ในขณะที่การปรับเพิ่มของอันดับเครดิต อาจเกิดขึ้นได้หากอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่าต่อรายได้ของบริษัทฯ สูงกว่า ร้อยละ 25 อย่างต่อเนื่อง หรือ อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อสินค้าคงเหลือลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่าร้อยละ 45 หรือ อัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่า (adjusted net debt to EBITDAR) ลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 3.0 เท่า อย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลเปิดเผย : การจัดอันดับเครดิตนี้ได้ถูกริเริ่มโดยฟิทช์ เพื่อประโยชน์แก่ผู้ลงทุน