กรุงเทพฯ--16 พ.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,554 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,554เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.33 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23,050 บาท กับ 23,150 บาท และกลับมาปิดที่ 23,050 บาท กับ 23,150 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่4,353คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่12,413 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 53 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 1.7% แบบ 10 บาท ลดลง 1.6 % Silver Futures เพิ่มขึ้น 7.8% GFM12 ปิดที่ 23,320 บาท และ GFQ12 ปิดที่ 23,470 บาท และ GF10M12 ปิดที่ 23,320 บาท และ GF10Q12 ปิดที่ 23,480 บาท SVM12 ปิดที่ 888 บาท
สัญญา Comex ปิดร่วงลง 3.9 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,557.1 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 27.3 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 28.353 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,277.11 (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 80 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 93.98 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดร่วงลง 63.35 จุด ปิดที่ระดับ 12,632จุด
Ratio Gold / Silver เท่ากับ 57 ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
TheBullionDesk และ Reuters
ราคาทองคำปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือนครึ่งตามการอ่อนค่าของสกุลเงินยูโรเมื่อคืนนี้ในช่วงการซื้อขายปลายตลาดนิวยอร์ก หลังจากการรายงานความล้มเหลวในการจัดตั้งรัฐบาลของกรีซ และจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ในเดือนหน้า ยิ่งเป็นการเพิ่มความกังวลในวิกฤตทางการเมืองของยุโรป ส่งผลให้นักลงทุนหลีกหนีสินทรัพย์เสี่ยง
หลังจากการโต้เถียงกันตลอด 6 รอบ กรีซล้มเลิกความพยายามในการจัดตั้งรัฐบาลและเรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง ครั้งใหม่ที่นักลงทุนวิตกกังวลว่าชัยชนะจะตกเป็นของพรรคนิยมฝ่ายซ้าย ซึ่งจะเป็นการกลับไปสู่การยกเลิกเงินช่วยเหลือของประเทศ และผลักดันให้กรีซยิ่งเข้าใกล้ภาวะล้มละลายและออกจากยูโรโซนและในวันนี้ กลุ่มผู้นำทางการเมืองของกรีซจะมีการประชุมกันเพื่อจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราว ที่จะนำประเทศไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งครั้งที่ 2
ลอนดอน-เบส โบรกเกอร์ ไทรแลนด์ เมเทิล กล่าวว่า มีปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเงียบเหงาในตลาดทองคำหลังจากที่มีการปรับตัวลดลงครั้งล่าสุด โดยมีปริมาณความต้องการระดับปานกลางมาสนับสนุนเพิ่มเติมจากทางตลาดเอเชียที่ระดับราคาระหว่าง 1,540 — 1,550 เหรียญ อย่างไรก็ดีสกุลเงินดอลลาร์ยังคงมีการแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสิ่งนี้เองเป็นอิทธิพลต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์โดยตรง
ราคาทองคำลงไปทำจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคมที่ระดับ 1,541.10 เหรียญ/ออนซ์ และเป็นการลดลงเกือบ 7% ในเดือนพฤษภาคม โดยเดือนพฤษภาคมเป็นเดือนที่ราคาปรับตัวลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม ด้วยเหตุดังกล่าวกล่มผู้บริโภคทองคำระดับท็อปอย่างอินเดียได้เข้ามาในตลาด ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า อาจช่วยปกป้องระดับราคาทองคำแท่งไม่ให้ลงต่อไปมากกว่านี้
สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงไปที่ระดับ 1.2750 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา ในขณะที่หุ้นเยอรมนีและฝรั่งเศสปิดลบ 0.79% และ 0.61% ตามลำดับ
US-based gold trader กล่าวว่า นักลงทุนส่วนใหญ่มีตั้งราคาในการเลือกตั้งครั้งใหม่ ดังนั้นปริมาณการซื้อขายจึงยังอยู่ในระดับต่ำ และแทบจะทุกคนที่รออยู่นอกตลาด
MKS Finance SA กล่าวว่า อินดิเคเตอร์ทางเทคนิคแสดงให้เห็นว่าทองคำอยู่ในลักษณะ oversold อย่างไรก็ตามนักลงทุนในระยะสั้นกำลังมีเป้าหมายราคาอยู่ที่ระดับ 1,525 เหรียญโดยประมาณ
ยังมีข่าวนอกเหนือจากประเทศกรีซที่เป็นแรงสนับสนุนราคาทองคำ ไม่ว่าจะเป็นการที่เศรษฐกิจเยอรมนีมีการขยายตัว 0.5% ในไตรมาสแรก ซึ่งมากกว่าการคาดไว้ว่าจะขยายตัวเพียง 0.1% ในขณะที่จีดีพีของสหภาพยุโรปในไตรมาสแรกออกมาอยู่ที่ระดับ 0% มากกว่าการคาดการณ์ว่าจะออกมาติดลบ 0.2% ซึ่งตัวเลขที่ออกมาดังกล่าวค่อนข้างเป็นผลบวกที่เศรษฐกิจเยอรมนีได้ฉุดให้เศรษฐกิจยูโรโซนสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้
สำหรับตัวเลขทางฝั่งสหรัฐอเมริกา Empire State Manufacturing Index ดีดตัวขึ้นมาที่ระดับ 17.1 ในเดือนพฤษภาคม มากกว่าที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 9.3 และมากกว่าระดับก่อนหน้าที่ 6.6 ในขณะที่ตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ออกมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ 0.1% จากระดับก่อนหน้านี้ที่ 0.7%
โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังคงไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไร ด้วยตัวเลข CPI และ Core CPI ที่ออกมา 0% และ 0.2% ในเดือนเมษายนตามลำดับ
ผู้จัดการฝ่ายการเงินในสัญญา Gold Futures และ Options ลดการถือครองสถานะ long สุทธิลง 20% สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2008 ตามที่นักลงทุนถอนการถือครองในทิศทางขาขึ้นหลังจากราคาทองคำร่วงลงอย่างหนัก
- Infoquest
สถานการณ์เช่นนั้นอาจจะนำไปสู่ความโกลาหล ซึ่งนับว่ามีความสำคัญที่จะต้องมีการเตรียมพร้อมรับมือ โดยภาวการณ์ดังกล่าวจะค่อนข้างยุ่งเหยิง แม้ไอเอ็มเอฟจะไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น แต่ก็จะต้องมีการเตรียมความพร้อมสำหรับความเป็นไปได้ที่อาจจะมีขึ้น
กรีซระดมทุนจากการประมูลขายตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนได้ 1.3 พันล้านยูโร (1.67 พันล้านดอลลาร์) ในวันนี้ โดยอัตราผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 0.14% สู่ระดับ 4.34% จากการประมูลครั้งก่อนที่ 4.20% โดยรายงานของรัฐบาลกรีซระบุว่า การประมูลครั้งนี้มียอดจองซื้อสูงกว่าจำนวนที่เปิดขาย 2.32 เท่า ลดลงจาก 2.46 เท่าจากการประมูลเมื่อเดือนที่แล้ว
สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเพรส ทีวีของอิหร่านรายงานว่า อิรักและอิหร่าน กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อก่อตั้งบริษัทร่วมทุนด้านน้ำมัน โดยรายงานของเพรส ทีวีระบุว่า เจ้าหน้าที่ด้านพลังงานจากทั้งสองประเทศมีกำหนดจะประชุมร่วมกันอีกครั้งในกรุงเตหะราน โดยประเด็นการหารือจะมุ่งไปที่การพัฒนาแหล่งน้ำมันร่วมกัน รวมทั้งการก่อตั้งบริษัทร่วมทุนด้านน้ำมัน
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันอังคาร
- Core CPI m/m คาดการณ์อยู่ที่ 0.2% ตัวเลขจริงที่ออกมา 0.2 %
- Core Retail Sales m/m คาดการณ์อยู่ที่ 0.3% ตัวเลขจริงที่ออกมา 0.1%
- Retail Sales m/m คาดการณ์อยู่ที่ 0.2% ตัวเลขจริงที่ออกมา 0.1%
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
- Building Permits ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.75 M คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลง 0.73M
- Housing Starts ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.65M คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้น 0.69 M
- Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 3.7 M คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลง 1.5 M
- ECB President Draghi Speaks
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำยังอยู่ในแนวโน้มทิศทางขาลงอย่างต่อเนื่อง โดยที่เมื่อวานนี้ราคาดูเหมือนจะทรงตัวอยู่ได้ดีเหนือระดับ 1,550 เหรียญ การซื้อขายโดยส่วนใหญ่จะอยู่ที่บริเวณ 1,550 เหรียญ โดยที่ในตลาด Comex ราคาสามารถยืนได้โดยตลอด ยังขึ้นไปทดสอบแนวต้านด้านบนแรกที่ระดับ 1,560 เหรียญได้ อย่างไรก็ดี ยังมีแรงกดดันจากค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าลงต่อเนื่องจากข่าวของกรีซทำให้ทองคำยังปรับตัวลดลง จึงแนะนำให้นักลงทุนยังคงติดตามข่าวกรีซเป็นหลัก ซึ่งจะเห็นได้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ออกมาในช่วง 1 — 2 สัปดาห์นี้ ค่อนข้างจะไม่มีผลใดๆ ต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและราคาทองคำ หมายความว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและราคาทองคำไปมีผลจากเรื่องของข่าวจากยุโรปเป็นหลัก ทองคำยังปรับตัวลดลงต่อเนื่องในช่วงตลาดอิเล็กทรอนิกส์ตอนตลาด Comex ปิดไปแล้ว โดยปรับดลลงแล้วเช้านี้มาเปิดที่ระดับ 1,543 เหรียญโดยปะมาณ ในขณะที่สกุลเงินยูโรเองปรับลดลงต่อเนื่องเช่นกัน หลังจากหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 1.2900 ดอลลาร์/ยูโร ณ ขณะนี้สกุลเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2728 ดอลลาร์/ยูโร โดยที่ราคาทองคำมีแนวรับถัดไปที่ระดับ 1,515 เหรียญ และเป็นจุดต่ำสุดเดิมในช่วงปลายปี 2552 ที่ระดับ 1,515 เหรียญ และเป็นเส้นแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ย 100 วันของนักลงทุนรายสัปดาห์ ทองคำยังไม่มีสัญญาณใดในการกลับตัว และยังอยู่ในภาวะกดดัน โดยที่มีปริมาณการซื้อปานกลางในเอเชียไม่หนาแน่นนัก คาดว่าในระยะสั้นๆ ทองคำจะมีแนวรับอยู่ที่บริเวณ 1,535 เหรียญและแนวต้านที่ระดับ 1,550 เหรียญเป็นรายวัน
Gold Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,150 บาท และแนวต้านที่ระดับ 23,360 บาท
Gold Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,300 บาท และแนวต้านที่ระดับ 23,500
Silver Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 850 บาท และแนวต้านที่ระดับ 880 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนระยะสั้นมากรายวัน (Daily Trade)
แนะนำให้เก็งกำไรในทิศทางขาลง ในลักษณะกรอบราคาดังกล่าว คือขายแล้วค่อยซื้อกลับเมื่อราคาอ่อนตัว
นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade)
ตัดขายทำกำไรเฉพาะเวลาช่วงที่ราคาปรับตัวสูงขึ้น ยังคงถือครองพอร์ทที่ 0% และน่าจะเปิด short position ในบางจังหวะได้ในช่วงที่ราคามีรีบาวน์ขึ้นมา
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
ยังเป็นลักษณะการรอจังหวะเข้าช้อนซื้อ Portfolio กลับมาเป็น 0% เร่งขายปิดสถานะไปก่อน และรอแนวช้อนที่สำคัญ 1,515 เหรียญ
สรุปได้ว่า ราคาทองคำยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่าในขณะที่ค่าเงินบาทเองกลับมาอ่อนค่า กล่าวคือ ทองคำตกลงบาทอ่อนค่า โดยเงินบาทปรับขึ้นมาจากเมื่อวาน 8 สตางค์ จากระดับ 31.37 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ขณะนี้มาอยู่ที่ 31.42 บาท/ดอลลาร์สหรัฐโดยประมาณ
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง