ชาวไร่อ้อยกระเป๋าตุง หลังคุณภาพผลผลิตปีนี้ดีขึ้น กลางเดือน พ.ค. ได้น้ำตาลทรายกว่า 1 หมื่นล้านกิโลกรัม

ข่าวทั่วไป Wednesday May 16, 2012 11:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 พ.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ โค้งสุดท้ายก่อนปิดหีบอ้อยฤดูการผลิตปี 2554/2555 มีอ้อยเข้าหีบ 97.95 ล้านตันอ้อย ได้น้ำตาลกว่า 1 หมื่นล้านกิโลกรัม ชี้คุณภาพผลผลิตน้ำตาลปีนี้เพิ่มสูงขึ้นเป็น 104.59 กก. ต่อตันอ้อย ขณะที่ค่าความหวานเฉลี่ยเพิ่มเป็น 12.04 ซี.ซี.เอส. หลังผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาลทรายจับมือชาวไร่อ้อยพัฒนาคุณภาพผลผลิตอ้อยเต็มที่ ช่วยสร้างมั่นคงทางรายได้ให้กับครอบครัวเกษตรกร นางวัลยารีย์ ไพสุขศานติวัฒนา เลขานุการคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงงานน้ำตาลทรายทั่วประเทศส่วนใหญ่ได้ปิดการหีบอ้อยแล้ว เหลือเพียง 2 แห่งเท่านั้น ที่ยังคงหีบอ้อยเหลืออยู่ โดยข้อมูล ณ วันที่ 13 พฤษภาคม 2555 สามารถผลิตน้ำตาลในฤดูการผลิตปี 2554/2555 ได้แล้วกว่า 10,235 ล้านกิโลกรัม จากปริมาณอ้อยเข้าหีบ 97.95 ล้านตัน โดยในปีนี้อ้อย 1 ตัน ผลิตน้ำตาลได้ 104.59 กก. แต่ในปีที่แล้ว อ้อย 1 ตัน ผลิตน้ำตาลได้เพียง 101.61 กก. ส่วนค่าความหวานโดยเฉลี่ยของผลผลิตอ้อยฤดูการผลิตปีนี้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 12.04 ซี.ซี.เอส. เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่ที่ 11.82 ซี.ซี.เอส. ทั้งนี้ หากดูผลผลิตอ้อยในแต่ละภาคของไทย พบว่า ผลผลิตจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือมียิลด์สูงสุด 108.54 กก. ต่อตันอ้อย ภาคกลาง 103.47 กก. ต่อตันอ้อย ภาคเหนือ 100.56 กก. ต่อตันอ้อย และภาคตะวันออก 99.83 กก. ต่อตันอ้อย ซึ่งผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อยทุกภาคปรับตัวสูงขึ้น ยกเว้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มียิลด์ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับฤดูการผลิตปีที่ผ่านมาที่มียิลด์ 109.07 กก. ต่อตันอ้อย “แม้ภาพรวมผลผลิตอ้อยเข้าหีบปีนี้จะมีปริมาณไม่ถึง 100 ล้านตัน แต่ในแง่ประสิทธิภาพ การผลิตน้ำตาลทราย และคุณภาพอ้อยที่เข้าหีบ ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้ได้ปริมาณน้ำตาลทรายสูงกว่า 102 ล้านกระสอบ หรือกว่า 1.02 หมื่นล้านกิโลกรัม แสดงถึงมาตรฐานของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทยที่ดีขึ้น อันเป็นืผลของความร่วมมือระหว่างโรงงานน้ำตาลทรายและชาวไร่อ้อย ที่ร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ตั้งแต่กระบวนการเพาะปลูกจนถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิต ลดการปนเปื้อนและสิ่งสกปรกในผลผลิตอ้อย รวมถึงเทคโนโลยีการแปรรูปผลผลิตเป็นน้ำตาลทราย ซึ่งล้วนมีผลช่วยทำให้ยิลด์เพิ่มสูงขึ้น” นางวัลยารีย์ กล่าว เลขานุการคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย กล่าวด้วยว่า จากผลผลิตอ้อยที่มีคุณภาพที่ดีขึ้น ยังส่งผลดีต่อรายได้ของชาวไร่อ้อยที่มีรายได้จาการเพาะปลูกมากขึ้น เนื่องจากหากคำนวณจากราคาอ้อยขั้นต้นที่ 1,000 บาทต่อตัน เมื่อรวมการเพิ่มราคาค่าอ้อยขั้นต้นอีก 154 บาทต่อตันอ้อย ทำให้ชาวไร่อ้อยมีรายได้จากการเพาะปลูกอ้อยประจำฤดูการผลิตปีนี้เพิ่มเป็น 1,154 บาทต่อตันอ้อย ที่ค่าความหวาน 10 ซี.ซี.เอส. และบวกเพิ่มอีก 60 บาทต่อ ซี.ซี.เอส. ต่อตัน ทำให้ชาวไร่อ้อยมีรายได้ที่ดีจากเพาะปลูกอ้อย มีความมั่นคงในอาชีพเกษตรกร ทำให้คุณภาพชีวิตของครอบครัวชาวไร่อ้อยดีขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม จากปริมาณอ้อยไฟไหม้ในฤดูการผลิตปีนี้ที่ยังมีสัดส่วนค่อนข้างสูงคือกว่า 65% ของปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งหมด ทำให้สิ่งปนเปื้อนยังคงมีปริมาณมาก โรงงานน้ำตาลทรายบางแห่งถึงกับคัดอ้อยที่มีปัญหามากๆ ทิ้งไป โดยยอมจ่ายเงินชดเชยให้ชาวไร่อ้อย แต่ไม่นำอ้อยนั้นเข้าหีบ และนี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปริมาณอ้อยเข้าหีบรวมแล้วไม่ถึง 100 ล้านตัน ตามที่คาดไว้ก่อนหน้านั้น “ผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาลทรายยังคงเร่งส่งเสริมการตัดอ้อยสดอย่างต่อเนื่อง โดยวิธีที่ได้ผลอย่างหนึ่ง คือ การใช้รถตัดอ้อย แต่ก็มีปัญหาอยู่บ้าง เช่น พื้นที่ไร่บางแห่ง รถตัดอ้อยไม่สามารถเข้าได้ เพราะไม่ได้ปรับพื้นที่ให้เหมาะสม เป็นต้น ซึ่งทางโรงงานและเกษตรกรชาวไร่อ้อย จะร่วมกันแก้ปัญหานี้ต่อไป และเชื่อว่า จะพัฒนาดีขึ้นในอนาคต” นางวัลยารีย์ กล่าว ประชาสัมพันธ์โดยบริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด ในนามบริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด (3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย) รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ พิภพ ฆ้องวง โทร. 0-2248-7967-8 ต่อ 118 Email: kongwong91@hotmail.com, c_mastermind@hotmail.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ