กรุงเทพฯ--16 พ.ค.--เพนเน็ตเทรท
- รับงานต่างประเทศกว่า 80% โรงกลั่นน้ำมัน เหมืองแร่ งานโครงเหล็กขั้นสูง
- ที่ปรึกษาการเงินมั่นใจ บริษัทฯ มีศักยภาพสูง ผลงานดี ผลประกอบการเด่น
ศรีราชาคอนสตรัคชั่น เปิดตัว เตรียมขาย IPO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ชูจุดเด่นเชี่ยวชาญ งานรับเหมาโลหะในโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมโชว์อัตรากำไรสุทธิสุดหรูกว่า 42.5%
นายบุญเครือ เขมาภิรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ศรีราชาคอนสตรัคชั่น (SRICHA) เปิดเผยว่า “ตนได้ร่วม ก่อตั้งบริษัทฯร่วมกับกลุ่มวิศวกรระดับสูงมากว่า 20 ปี โดยมุ่งเน้นงานรับเหมาก่อสร้าง โลหะในโรงงาน อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เช่น โรงกลั่นน้ำมัน โรงไฟฟ้า โรงงานปิโตรเคมี และโรงงานเหมืองแร่ ทั้งในประเทศและ ต่างประเทศ ซึ่งการก่อสร้างจำเป็นต้องใช้เทคนิคและความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ เนื่องจากงานก่อสร้างดังกล่าว จะต้องนำไปใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมหนัก ดังนั้นจะต้องคำนึงถึงระดับแรงดัน ความร้อน ความเป็นกรดด่าง การทนต่อการกัดกร่อน หากมีชิ้นงานที่ไม่ได้มาตรฐานอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อกระบวนการผลิตโดยรวมได้ โดยมีทุนจดทะเบียน 310 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 225 ล้านบาท
นายกฤษฎา โพธิสมภรณ์ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ศรีราชาคอนสตรัคชั่น (SRICHA) เปิดเผยว่า “บริษัทฯ ชำนาญงานหลากหลายด้านคือ 1.งานโครงสร้างเหล็ก 2.งานประกอบและติดตั้งระบบท่อ 3.งานประกอบและ ติดตั้งระบบถังบรรจุภัณฑ์เครื่องจักรและอุปกรณ์ 4.งานซ่อมบำรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์ โดยมีผลงานมากกว่า 50 โครงการ อาทิ โครงการโรงงานถลุงแร่ที่ประเทศมาดากัสการ์ มูลค่างานกว่า 7,500 ล้านบาท โครงการโรงกลั่นน้ำมันเอกซอนโมบิล (เอสโซ) ที่ประเทศสิงคโปร์ มูลค่างานกว่า 950 ล้านบาท นอกจากนี้ในอดีต บริษัทฯ รับงานโรงกลั่นน้ำมันไทยออยลมูลค่า 1,440 ล้านบาท โรงกลั่นน้ำมันเอสโซมูลค่า 200 ล้านบาท ที่จังหวัดและงานโรงกลั่นน้ำมันประเทศการ์ตามูลค่า 600 ล้านบาทเป็นต้น”
“ด้วยกำลังการผลิตโครงสร้างเหล็กระดับสูงถึง 20,000 ตันต่อปี และกำลังการผลิตและติดตั้งระบบท่อ 1,000,000 db ต่อปี และประสบการณ์รับเหมาเครื่องกลทั้งในประเทศและต่างกว่า 20 ปี บริษัทฯ ยังมีจุดเด่น อยู่ที่ทีมงานวิศวกรระดับสูงที่มีประสบการณ์ ในงานรับเหมาก่อสร้างงานโลหะหรือเครื่องกลมากกกว่า 20 ปี
ความสามารถในการรับงานที่ใช้ความเชี่ยวชาญสูงและสามารถส่งมอบงานได้ตรงเวลา รวมถึงสถิติการทำงาน ก่อสร้างที่ปลอดภัยไม่มีอุบัติเหตุ ทำให้บริษัทฯ ได้รับความเชื่อมั่นจากบริษัทรับเหมาก่อสร้างระดับโลก อาทิ บริษัท ฟอสเตอร์ วีลเลอร์ และ บริษัท เบคเทล จากสหรัฐอเมริกา บริษัท เจจีซี (JGC) จากประเทศญี่ปุ่น และลูกค้า เจ้าของโครงการซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ อาทิ กลุ่มเอกซอนโมบิล ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก บมจ.ไทยออย บมจ. เอสโซ (ประเทศไทย) กลุ่มไบเออร์ จากเยอรมัน บมจ.อินโดรามา และบริษัท เบียร์ไทย เป็นต้น โดยงานส่วนใหญ่บริษัทฯ ได้รับงานจากลูกค้าโดยตรงและได้รับมอบหมายงานที่มีมูลค่ามากขึ้นอย่าง
ต่อเนือง”
ด้านนายฉัตรมงคล เขมาภิรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ศรีราชาคอนสตรัคชั่น (SRICHA) กล่าวว่า “ในช่วง 3 ปีล่าสุด บริษัทฯ มีผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้รวมเติบโตเฉลี่ยปี (CAGR) ละ 22.5 % โดยบริษัทฯ มีรายได้รวม 2,981 ล้านบาทในปี 2554 เพิ่มขึ้นจากรายได้รวม 2,383 ล้านบาท ในปี 2553 และ 1,975 ล้านบาท ในปี 2552 ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 58% และมีอัตรากำไรสุทธิที่ 43% (เฉลี่ย 3 ปีล่าสุด) โดยมีกำไรสุทธิเป็นเงิน 1,267 ล้านบาท ในปี 2554 และ 1,195 ล้านบาท ในปี 2553 และ 720 ล้านบาทในปี 2552 ซึ่งถือว่าเป็นอัตรากำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งนี้เนื่องจากตลาดมีปริมาณความต้องการงานรับเหมาโครงสร้างโลหะขนาดใหญ่ที่บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญพิเศษจำนวนมาก ในขณะที่มีคู่แข่งในตลาดน้อยรายทำให้บริษัทฯ สามารถเลือกรับงานที่มีความ ถนัดและมีอัตรากำไรที่สูงขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับงานโครงการระดับสูงในต่างประเทศมีอัตรากำไรที่ดีมาก และบริษัทฯ มีนโยบายที่จะรักษาอัตรากำไรสุทธิเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้นต่อไป”
“ปัจจุบัน บมจ.ศรีราชาคอนสตรัคชั่น (SRICHA) มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยในปีบัญชี 2554 มีอัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) เฉลี่ยถึง 101.8% และ อัตราผลตอบแทนต่อทรัพย์สิน (ROA) ถึง 53.3% ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2554 บริษัทฯ มีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) เพียง 0.7 เท่า และไม่มีหนี้สินที่มีภาระ ดอกเบี้ยจากสถาบันการเงิน บริษัทจึงสามารถสร้างกระแสเงินสดจากการปฏิบัติงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีเงิน สดในมือกว่า 800 ล้านบาท และมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ ส่วนแผนการขายหุ้น สามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนเป็นครั้งแรกหรือ IPO นั้น บริษัทฯ มีแผนจะขายหุ้นทั้งหมด 78.25 ล้านหุ้นซึ่ง มีราคาพาร์ หุ้นละ 1 บาท เพื่อระดมทุนไปใช้ในการขยายโรงงาน ซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพิ่มเติม รวมถึงเพิ่ม สภาพคล่องในการดำเนินงานเพื่อรองรับการขยายงานต่อไป” นายฉัตรมงคลสรุป
ขณะเดียวกันคุณบุษราภรณ์ จันทร์ชูเชิด ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)ที่ปรึกษาทางการเงินให้ความคิดเห็นว่า “บมจ.ศรีราชาคอนสตรัคชั่น เป็น 1 ในบริษัทรับเหมาก่อสร้างเครื่องกล ขนาดใหญ่เพียงไม่กี่แห่งในประเทศที่มีศักยภาพสูง และมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในระดับสากล มีทีมงานบริหาร และทีมวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญสูง มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ และมีโรงงานขนาดใหญ่ที่มีกำลัง การผลิตและติดตั้งโครงสร้างเหล็กระดับสูงและระบบท่อ และที่สำคัญบริษัทฯ มีประสบการณ์การรับงานโครงการ ขนาดใหญ่หลายโครงการทั้งในและต่างประเทศ และได้ร่วมงานกับทั้งเจ้าของโครงการ และผู้รับเหมาใหญ่ ที่ล้วนเป็นบริษัทฯระดับโลก จึงมั่นใจว่าการระดมทุนครั้งนี้จะได้รับความสนใจจากทั้งนักลงทุนสถาบันและ นักลงทุนรายย่อยเป็นอย่างดี”