กรุงเทพฯ--17 พ.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
UAC เร่งโครงการ CBG หวังปั้นรายได้เพิ่มเฉลี่ย 50ล.ต่อปีเดินหน้าทุ่มงบกว่า600ลบ.ต่อยอดธุรกิจผลิตก๊าซจ.สุโขทัย
บมจ. ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอน เคมิคัลส์ (UAC) เตรียมส่งมอบก๊าซชีวภาพอัดจากฟาร์มสุกร (CBG)ให้PTT ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ เชื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้บริษัทฯเฉลี่ย 50 ล้านบาทต่อปี พร้อมทุ่มงบกว่า 600 ล้านบาท ดันธุรกิจพลังงานโครงการผลิต ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี จ.สุโขทัย ให้เสร็จทันไตรมาส1/2556 ด้าน “ กิตติ ชีวะเกตุ ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ มั่นใจ อีก3ปีหน้าข้างหน้า UAC มีรายได้แตะ 2,000 ล้านบาท รองรับการลอยตัวราคาพลังงาน เข้าสู่ประชาคมอาเซียน ขณะที่ปี55 เชื่อมีรายได้1,000 ล้านบาท
นายกิตติ ชีวะเกตุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บมจ. ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอน เคมิคัลส์ (UAC)ผู้ประกอบธุรกิจนำเข้า และจำหน่ายสารเคมี ที่ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมัน โรงกลั่นและปิโตรเคมี เปิดเผยว่า แผนขยายการลงทุน อาทิ โครงการผลิตก๊าซชีวภาพอัดจากฟาร์มสุกร (Compressed Bio-methane Gas ) (CBG) จ. เชียงใหม่ คาดว่าจะแล้วเสร็จ และกำหนดส่งมอบให้กับ บมจ.ปตท(PTT) ภายในเดือนกรกฎาคม 2555 โดยมีกำลังการผลิตที่ 6- 8 ตัน/วัน หรือประมาณ 3,000 ตัน/ปี ทั้งนี้ UAC ได้เซ็นสัญญาในการผลิตก๊าซชีวภาพอัด เพื่อส่งมอบและจำหน่ายให้กับ PTT เป็นระยะเวลา 15 ปี และคาดว่าจะได้รับรู้รายได้ จากโครงการดังกล่าว เฉลี่ยปีละประมาณ 50 ล้านบาท โดยจะเริ่มทยอยรับรู้ ตั้งแต่ไตรมาส 3/2555 เป็นต้นไป
ส่วนกรณีที่บริษัทฯ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจาก UOP ในการเข้าไปจำหน่ายเคมีภัณฑ์ ให้กับประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่านั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินงานในการเข้าไปเป็นตัวแทนจำหน่าย ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าแผนดังกล่าว จะมีความชัดเจนในปลายปีนี้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาจัดตั้งสำนักงานสาขาในพม่า ซึ่งต้องดูกฏระเบียบ ข้อกฏหมาย และอัตราภาษีต่างๆ ให้ชัดเจน รอบคอบก่อน
สำหรับ โครงการผลิต ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม จาก Associated Gas จังหวัดสุโขทัย ซึ่งเป็นโครงการลงทุน เพื่อการผลิต LPG, CNG และ NGL นั้น นายกิตติ กล่าวว่า สำหรับการลงทุนดังกล่าว ขณะนี้คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติให้เดินหน้าโครงการดังกล่าวแล้ว โดยจะใช้เงินลงทุนประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายก๊าซกับบริษัทฯต่างชาติที่ได้รับสัมปทานในการขุดเจาะน้ำมันดิบ และก๊าซ ในเขตจังหวัดสุโขทัย เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการเจรจาขายผลิตภัณฑ์ของโครงการนี้ ให้กับบริษัทชั้นนำขนาดใหญ่ด้านพลังงานภายในประเทศอยู่ โดยคาดว่า โครงการดังกล่าวจะเริ่มทำการผลิต ได้ประมาณปลายไตรมาส 1/2556 และจะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 300 ล้านบาทต่อปี
อย่างไรก็ตาม หากแผนการขยายการลงทุนในข้างต้นแล้วเสร็จ ตามที่บริษัทฯคาดการณ์ จะส่งผลให้ในอีก 3 ปีข้างหน้าบริษัทฯ จะมีรายได้รวม กว่า 2,000ล้านบาท ซึ่งก็จะเป็นไปตามแผนการขยายการลงทุนด้านพลังงานทดแทน ซึ่งจะสอดคล้องกับการที่กระทรวงพลังงาน ที่มีนโยบายลอยตัวราคาพลังงานทุกประเภท และมีการส่งเสริมสนับสนุนโครงการก๊าซชีวภาพอัด และพลังงานทดแทนอื่นๆ เพื่อรองรับการเปิดเสรี ของประชาคมอาเซียน(AEC)
สำหรับรายได้ในปี2555 นั้น นายกิตติ กล่าวว่า บริ ษัทฯได้ประมาณการอัตราการเติบโตของรายได้ ที่ระดับ 1,000 ล้านบาท โดยจะมาจากธุรกิจหลัก (เทรดดิ้ง) ประมาณ 85% ของรายได้รวม ส่วนอีก 15% จะมาจากบริษัทร่วมทุน โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทฯมีอัตราการเติบโตทางด้านกำไรสุทธิ อยู่ที่ 37.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.53% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสัดส่วนกำไรสุทธิ มาจาก ธุรกิจเทรดดิ้ง(สารเคมีภัณฑ์) ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก 67% และธุรกิจพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน บางจากไบโอฟูเอล(BBF) 33%
ทั้งนี้ สาหตุที่บริษัทฯมีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น ในไตรมาสดังกล่าว เนื่องจากปริมาณการความต้องการสารเคมี ที่ใช้สำหรับอุตสาหกรรมพลังงาน อาทิ อุตสาหกรรมน้ำมัน โรงกลั่น และปิโตรเคมี กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันหล่อลื่น กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมพอลิเมอร์และพลาสติก กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ กลุ่มโรงไฟฟ้า มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และบริษัทประสบความสำเร็จในการบริหารต้นทุนสินค้า และได้รับรายได้เพิ่มเติมจากการเป็นที่ปรึกษาทางการตลาดให้กับ Partners ต่างประเทศหลายบริษัท สำหรับ BBF ก็มีการผลิตต่อเนื่องเกินกว่า 100% ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา