กรุงเทพฯ--17 พ.ค.--กระทรวงวัฒนธรรม
เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ที่โรงละครแห่งชาติ(โรงใหญ่) นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวในฐานะประธานพิธีเปิดการแสดงนิทรรศการและจำหน่ายผลงานค่ายเยาวชนวัฒนธรรมภาคฤดูร้อน ประจำปี ๒๕๕๕ ว่า ถือเป็นกิจกรรมต่อเนื่องมาจากกิจกรรมค่ายเยาวชนวัฒนธรรมภาคฤดูร้อน ที่กระทรวงวัฒนธรรมจัดในช่วงเดือนเมษายน ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็น ๒ ส่วน ส่วนแรก เป็นการจัดนิทรรศการเพื่อแสดงผลงานศิลปะทางทัศนศิลป์ และทางหัตถศิลป์ จำนวนกว่า ๒๐๐ ผลงาน ที่เกิดจากฝีมือการสร้างสรรค์ของเยาวชนที่ได้รับความรู้ พร้อมรับชมกา รสาธิตศิลปะประดิษฐ์ และยังได้รับทราบมุมมองของเด็กและเยาวชนจากผลงานการวิจารณ์ภาพยนตร์ ในโครงการ นักวิจารณ์ภาพยนตร์รุ่นเยาว์และส่วนที่สอง การแสดงทักษะของเด็กและเยาวชนทางด้านดนตรี และด้านนาฏศิลป์ กว่า ๓๐๐ คน ผ่านรูปแบบการแสดงบนเวที อาทิ การบรรเลงบทเพลงโดยวงออเครสต้า วงซิมโฟนิค (เครื่องเป่า) การขับร้องเพลงประสานเสียง การแสดง ชุด กลองสะบัดชัย และการแสดงชุด เถิดเทิงกลองยาว เป็นต้น ขณะเดียวกัน ยังเปิดโอกาสให้เยาวชนนำผลงานม าจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้ อีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้ จะมีการจัดนิทรรศการขึ้นอีกครั้ง ในวันที่ ๑๘-๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ณ หอศิลป์วังหน้า “การจัดงานในครั้งนี้ เป็นการมุ่งเน้นให้เยาวชนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และถือว่าเป็นการเปิดตัวผลงานที่เด็กๆได้มีโอกาสร่วมทำกิจกรรมในช่วงเข้าค่ายในโครงการต่างๆที่หน่วงงานของกระทรวงวัฒนธรรมจัดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ เสริมสร้างคุณธรรม ความรู้ สุนทรีย์ ตลอดจนเพิ่มพูนทักษะในด้านศิลปะ ดนตรี และนาฏศิลป์ สามารถนำไปเป็นต้นทุน และปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดำเนินชีวิต ตลอดจนเป็นแนวทางในการศึกษาต่อของเด็กๆและการประกอบอาชีพในอนาคตข้างหน้าได้ ซึ่งในทุกโครงการถือว่าเป็นกิจกรรมสีขาวที่มีประโยชน์และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี และกระทรวงวัฒนธรรมจะสนับสนุนการดำเนินโครงการในลักษณะแบบนี้ไปเรื่อยๆ เพราะการจัดงานในครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จทุกประการ”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่ าว
ด้านนายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า การจัดกิจกรรมค่ายเยาวชนวัฒนธรรมภาคฤดูร้อน เป็นการนำมิติวัฒนธรรมมาส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนเพื่อให้เด็กและเยาวชนรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ห่างไกลอบายมุข ผ่านกิจกรรมทางศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม ที่สำคัญสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ นอกจากนี้ การเปิดพื้นที่ให้เด็ก เยาวชน นำผลงานของตนเองมาแสดงและจำหน่าย ถือเป็นการจุดประกายให้เด็กและเยาวชนเกิดความรัก ความภาคภูมิใจในศิลปวัฒนธรรมของชาติ และสืบสานงานวัฒนธรรมให้คงอยู่คู่ประเทศไทยต่อไป