กรุงเทพฯ--17 พ.ค.--สหการประมูล
สหการประมูลเผยงานวิจัยภาวะตลาดประมูลรถยนต์มือสอง ชี้ความต้องการซื้อช่วงเดือนเมษายนร่วงเพราะติดวันหยุดยาว โดยรถขนาดเล็กยอดขายปรับตัวลดลง 26% รถกระบะลดลง 22% และจักรยานยนต์ลดลงถึง 47.2% ในขณะที่ราคาขายรถขนาดเล็กเพิ่มขึ้น 4% รถกระบะเพิ่ม 2.3% คาดแนวโน้มเดือนพฤษภาคมราคาขายรถยนต์ทุกประเภทจะลดลงต่อเนื่อง ชี้เป็นโอกาสทองของผู้ซื้อรถยนต์มือสอง
นายเอกพิทยา เอี่ยมคงเอก กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหการประมูล จำกัด เปิดเผยถึงแนวโน้มตลาดประมูลรถยนต์เดือนพฤษภาคม 2555 ว่า เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเมษายนที่ผ่านมาพบว่า ตลาดรถยนต์นั่งช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมายอดขายจากประมูลปรับตัวลดลง 26% สาเหตุเนื่องจากวันหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่ราคาขายจากการประมูลเฉลี่ยของรถยนต์นั่งเดือนเมษายนที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านี้ สาเหตุที่ราคาประมูลเฉลี่ยปรับตัวดีขึ้นก็เนื่องจากรถประเภท 1600-2000 cc เช่น Camry รุ่น 2 G เข้าประมูลจำนวนมากและราคาจบประมูลอยู่ระหว่าง 600,000-800,000 บาท ขณะที่รถประเภทมากกว่า 2000cc เช่น Benz และ BMW ก็มียอดจบประมูลระหว่าง 1-2 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มตลาดในเดือนพฤษภาคมซึงอยู่ในช่วงใกล้เปิดเทอม สหการประมูลคาดว่าแนวโน้มราคาขายจากประมูลรถยนต์ในเดือนนี้น่าจะอ่อนตัวลง หลังจากที่เดือนเมษายนที่ผ่านมาราคาปรับดีกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากมีรถราคาแพงสามารถขายได้จากการประมูลในช่วงเดือนดังกล่าว ทั้งนี้ สหการประมูลคาดการณ์แนวโน้มราคาประมูลเฉลี่ยรถประเภท 1300-1500 cc เดือนพฤษภาคม 2555 ชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 236,700 — 240,000 บาทต่อคัน และคาดว่าแนวโน้มราคาประมูลเฉลี่ยรถประเภท 1600-2000 cc ชะลอตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 252,300 — 260,000 บาทต่อคัน ซึ่งจะเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ซื้อรถยนต์มือสองทุกประเภท
นายเอกพิทยาเปิดเผยเพิ่มเติมถึงแนวโน้มของตลาดประมูลรถกระบะว่า ยอดขายจากการประมูลรถกระบะเดือนเมษายนที่ผ่านมาปรับตัวลดลง 22% แต่ราคาประมูลเฉลี่ยกลับปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านี้ สาเหตุเนื่องจากราคาขายจากการประมูลเฉลี่ยของกระบะ Single Cab และ Club Cab ปรับตัวดีขึ้น แสดงถึงความต้องการของรถกระบะทั้งสองประเภทในตลาดยังดีอยู่ เพราะเป็นรถกระบะที่ใช้สำหรับบรรทุกพืชผลทางการเกษตร ประกอบกับรถกระบะใหม่แม้ผู้ผลิตรถยนต์จะเริ่มทยอยส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้บ้างแล้ว แต่สถานการณ์การส่งมอบรถยนต์คาดว่าต้องใช้เวลาอีก 2-3 เดือนกว่าการส่งมอบรถยนต์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งในระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนเป็นช่วงที่เกษตรกรเตรียมการเพาะปลูกอีกครั้ง ดังนั้น เงินทุนส่วนหนึ่งจะต้องเตรียมไว้สำหรับเมล็ดพันธุ์และเครื่องมือการเกษตร น่าจะส่งผลให้กำลังซื้อรถกระบะมือสองมีแนวโน้มชะลอตัวลง
ทั้งนี้ สหการประมูลคาดการณ์แนวโน้มรถกระบะมือสองเดือนพฤษภาคมมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยคาดการณ์ราคาประมูลกระบะ Single Cab ที่ระดับ 232,800 — 234,000 บาทต่อคัน รถประเภท Club Cab ที่ระดับ 334,000 — 343,700 บาทต่อคัน และรถประเภท Double Cab ที่ระดับ 400,000 — 410,000 บาทต่อคัน
ส่วนแนวโน้มตลาดประมูลจักรยานยนต์นั้นนายเอกพิทยากล่าวว่า จากยอดขายการประมูลเดือนเมษายนที่ผ่านมาปรับตัวลดลง 47.2% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านี้ ขณะที่ราคาขายจากประมูลก็ปรับตัวลดลง 1.6% ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 4 สาเหตุเนื่องจากค่ายจักรยานยนต์ใหญ่ 2 ค่ายทยอยเปิดตัวรถโมเดลใหม่ออกสู่ตลาดในช่วงต้นปีที่ผ่านมา สหการประมูลคาดการณ์แนวโน้มราคาประมูลเฉลี่ยจักรยานยนต์ยังชะลอตัว เนื่องจากในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้าจะเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ซึ่งถือว่าเป็นช่วง Low Season ของตลาดจักรยานยนต์ ทั้งนี้ คาดว่าราคาประมูลจักรยานยนต์ประเภท Moped เดือนพฤษภาคมที่ระดับ 22,400 — 22,700 บาทต่อคัน และราคาประมูลจักรยานยนต์ Automatic ที่ระดับ 20,000 — 20,400 บาทต่อคัน
สำหรับผู้ที่สนใจรายงานวิจัยตลาดรถยนต์มือสองเพิ่มเติม สามารถติดต่อขอรับข้อมูลงานวิจัยฉบับเต็มได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ 0-2934-7344 หรือที่ www.union-auction.com
สื่อมวลชนสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทร. 0-2934-7344-8