กรุงเทพฯ--8 มิ.ย.--กระทรวงพลังงาน
พรหมินทร์ ชง 5 มาตรการสู้ศึกราคาน้ำมันแพง ระบุ ขอความร่วมมือ ปั๊มน้ำมันทั่วประเทศปิดเที่ยงคืนถึงตีห้า ดับไฟป้ายโฆษณา ให้ก.คมนาคมศึกษาถนนที่ดับไฟได้ เตรียมปรับภาษีป้ายรถยนต์ขนาดใหญ่ และลดงบประมาณรายจ่ายด้านน้ำมันหน่วยงานรัฐและวิสาหกิจลง 10 %
นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานได้สรุปความคิดเห็นการบรรเทาปัญหาราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น และมาตรการประหยัดพลังงานภายในประเทศ จากผู้เข้าร่วมประชุมหน่วยงานต่างๆ เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมัน บริษัทน้ำมัน ผู้แทนสมาคมผู้ค้าปลีกน้ำมัน กรมการค้าภายใน สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กรมการขนส่งทางบก การทางพิเศษแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในวันที่ 8 มิ.ย. 47 รวมทั้งสิ้น 5 มาตรการ ได้แก่
1. ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการสถานีจำหน่ายน้ำมันเพื่อปิดสถานีจำหน่ายในระหว่างเวลา 24.00 น. ถึง 05.00 น. เพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้ประชาชนหันมาประยัดพลังงานอย่างจริงจัง และส่งผลในการลดปริมาณการใช้น้ำมันประมาณ 5% ของการใช้ (จากข้อมูลสถิติปี 2523) หรือประมาณ 1,260 ล้านลิตร คิดเป็นมูลค่า 19,000 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าว รถยนต์จะสามารถวิ่งได้ในระยะทางไกล และไม่ทำให้ผู้ใช้รถยนต์เดือนร้อน โดยเฉพาะในเขตเมือง อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้มีจำนวนสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศทั้งสิ้น 18,262 สถานี และหากสถานีบริการใดเข้าร่วมโครงการฯ จะมีป้ายผ้าระบุคำขวัญว่า” ปั๊มนี้ช่วยชาติ ปิดบริการ 24.00 — 05.00 น. 60 ล้านไทย ลดใช้พลังงาน”
2. ให้กระทรวงมหาดไทย ขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบธุรกิจโฆษณาในการปิดไฟป้ายโฆษณา ตั้งแต่เวลา 22.00 เป็นต้นไป
3. ให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน และหน่วยงานบริหารส่วนท้องถิ่นร่วมกัน พิจารณาเลือกปิดไฟบนถนนบางสายหรือบางช่วง โดยไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัย
4. ให้กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลัง พิจารณาปรับเพิ่มอัตราภาษีป้าย วงกลมและภาษีป้ายทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่มีขนาดเกิน 2,500 ซีซี
5. ให้สำนักงบประมาณปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำปี หมวดค่าใช้สอยด้านน้ำมันเชื้อเพลิงของหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจทุกหน่วยงานลง 10% โดยให้ทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ และให้ทุกหน่วยงานรายงานการใช้ไฟฟ้าและน้ำมันให้กระทรวงพลังงานทราบอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกไตรมาส
นอกจากนี้ จะได้เร่งเปิดใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกใช้ระบบขนส่งมวลชนเพิ่มขึ้น และควรขยายโครงข่ายรถขนส่งมวลชนพร้อมทั้งสร้างระบบ ขสมก. ให้มีการเชื่อมโยงกัน นอกจากนี้ควรเพิ่มบริการรถรับส่งบริเวณจุดจอดรับผู้โดยสารตามสถานี และจัดพื้นที่จอดรถให้พอเพียงในบริเวณจุดเชื่อมต่อกับบริการขนส่งมวลชน และขยายการเผยแพร่เอกสารคู่มือการใช้รถยนต์ที่ถูกต้องเพื่อประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และขยายการบริการตรวจสภาพรถยนต์ให้ทั่วถึงทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค--จบ--
-นท-