กรุงเทพฯ--8 มิ.ย.--ธอมสัน พับบลิค รีเลชั่นส์
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ออกกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล ออพพอร์ทูนิตี้ บอนด์ ฟันด์ มุ่งลงทุนพันธบัตรรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจต่างประเทศ เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนระหว่างวันที่ 14-29 มิถุนายนนี้
ดร.พิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในภาวะที่การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศไทยมีความผันผวนสูงจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ ขณะเดียวกันอัตราดอกเบี้ยในประเทศยังอยู่ในระดับต่ำและไม่มีแนวโน้มที่ ชัดเจนในการปรับตัวสูงขึ้น บริษัทฯ ได้ออกกองทุนเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับนักลงทุนคือ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล ออพพอร์ทูนิตี้ บอนด์ ฟันด์ หรือ MGB มูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่มากกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก และมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
"กองทุนนี้จะเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกระหว่างวันที่ 14-29 มิถุนายน 2547 ราคาของหน่วยลงทุนที่เสนอขายครั้งแรก 10 บาท มูลค่าขั้นต่ำของการสั่งซื้อครั้งแรก 10,000 บาท" ดร.พิชิตกล่าว
กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล ออพพอร์ทูนิตี้ บอนด์ ฟันด์ จะลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศใน วงเงินไม่เกิน 91 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลต่างประเทศ หรือพันธบัตร รัฐวิสาหกิจต่างประเทศ และตราสารที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ไทยที่อ้างอิงกับตราสารหนี้รัฐบาลและรัฐวิสาหกิจต่างประเทศ (Credit Linked Note) ที่มีความเสี่ยงต่ำ มีโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนสูง และได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือไม่ต่ำกว่าระดับ Investment Grade โดยสถาบันจัดอันดับที่ได้รับการยอมรับ โดยในช่วงแรกจะเน้นลงทุนในประเทศแถบเอเซียแปซิฟิค เช่น เกาหลีใต้ อังกฤษ มาเลเซีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
"จุดเด่นที่สำคัญคือ กองทุนนี้เน้นเรื่องของโอกาส เราจะเลือกลงทุนในเวลาที่เหมาะสม ประเทศที่เหมาะสม โดยจะเลือกจากประเทศต่างๆ ไม่เจาะจงประเทศหนึ่งประเทศใด เห็นโอกาสตรงไหนดี จะไปลงทุนตรงนั้น เพื่อให้เกิดผลตอบแทนที่คุ้มค่า" ดร.พิชิตกล่าว
จุดเด่นอีกเรื่องคือ จะใช้วิธีการบริหารอัตราแลกเปลี่ยนแบบ มัลติ เคอเรนซี (multi currency) โดยถือเงินตราทุกสกุลของประเทศที่ลงทุน และไม่ได้อิงกับเงินสกุลใดสกุลหนึ่ง ในบางสกุลเงินเมื่อเทียบกับค่าเงินบาทจะได้กำไร ในขณะเดียวกันในเงินสกุลอื่นเมื่อเปรียบเทียบกับค่าเงินบาทจะขาดทุน ดังนั้น กำไรและขาดทุนของเงินสกุลต่างๆเมื่อนำมารวมกันอาจจะทำให้ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนน้อยลงกว่าการอิงอยู่กับเงินตราต่างประเทศเพียงสกุลเดียว
กลุ่มเป้าหมายคือนักลงทุนทั้งที่เป็นสถาบัน และผู้ที่มีเงินออมที่ต้องการกระจายการลงทุนมากกว่าที่จะลงทุนได้เฉพาะภายในประเทศเพียงอย่างเดียว ชาวต่างชาติพำนักอยู่ในประเทศไทยก็สามารถลงทุนในกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล ออพพอร์ทูนิตี้ บอนด์ ฟันด์ เช่นกัน
ดร.พิชิต กล่าวว่า เอ็มเอฟซีได้รับความร่วมมือจาก Nikko Global Asset Management (Singapore) Limited ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนชั้นนำของโลกมาเป็นที่ปรึกษากองทุน ทำหน้าที่ดูแลการลงทุนในต่างประเทศทั้งหมด ธนาคารกสิกรไทย จำกัด มหาชน เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ และ State Street Bank and Trust Company แห่งอเมริกา ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของโลก เป็นผู้รับฝากทรัพย์สิน
Nikko Global Asset Management เป็นบริษัทในเครือของ Nikko Asset Management Group ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่นและมีสาขาอยู่ทั่วโลก ปัจจุบันเป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารตราสารหนี้ทั่วโลก ณ สิ้นปี 2546 มีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารประมาณ 2,258,000 ล้านบาท เป็นมูลค่าทรัพย์สินในส่วนของตราสารหนี้ประมาณ 1,041,000 ล้านบาท
ผู้สนใจขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) และตัวแทนจำหน่ายหน่วยลงทุนได้แก่ ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ บีที จำกัด บริษัทหลักทรัพย์อินเทลวิชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ แอสเซท พลัส จำกัด (มหาชน) บริษัทเงินทุนสินอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาติ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด หรือที่เว็บไซต์ www.mfcfund.com
ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:
สำนักกรรมการผู้จัดการ
โทร.0-2661-9000 ต่อ 704, 706
ธอมสัน พับบลิค รีเลชั่นส์
คุณวงจันทร์ ตั้งทรงศักดิ์
โทร. 0-2260-0820 ต่อ 2193
คุณชณินทร สินวัต
โทร. 0-2662-3299--จบ--
-นท-