กรุงเทพฯ--19 พ.ค.--เจ็ดสิบเจ็ดวันเดอร์
ตื่นตาตื่นใจ ทำเอาหลายคนรอคอยพร้อมกับจับตามองการเปิดตัวของ “โซโห”ศูนย์แฟชั่นค้าส่งแบบครบวงจร 24 ชั่วโมง” เพราะทำเลที่ตั้งริมถนนบำรุงเมือง ใจกลางย่านธุรกิจค้าส่งระดับตำนานในแถบโบ๊เบ๊ ยิ่งทวีความสนใจให้กับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเข้ามาจับจองพื้นที่ ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ที่อยากผันตัวเข้าสู่ธุรกิจค้าส่ง!!! เนื่องจากในย่านนี้มีเหล่าพ่อค้าแม่ค้าจากทั่วประเทศเข้ามาซื้อของคราวละมากๆ ไปขาย โดยสถิติตัวเลขมีผู้เดินทางเข้ามาเฉลี่ย 20,000 คน / วัน มีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า10,000 ล้าน / ปี (ข้อมูลจากรวบรวมในปี 2554 บ.ฮาริสัน จำกัด (มหาชน)) ขณะที่กลุ่มอาคารค้าขายมีเพียง 500-1,000 คูหา แผงลอย 2,000-3,000 ร้านค้า ไม่สอดรับกับสภาวะตลาดค้าส่งที่คึกคัก มีทั้งตลาดเช้า ตลาดกลางวัน ตลาดกลางคืน โดยกลุ่มผู้ซื้อมีทั้ง ตะวันออกกลาง ซึ่งถือเป็นตลาดกลุ่มใหญ่ และแถบเอเชียอย่าง ลาว เขมร เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย จีน และคนไทย ทำให้การเปิดตัวของ “โซโห” ศูนย์แฟชั่นค้าส่งครบวงจร 24 ชั่วโมง ที่รวบรวมเอาซูเปอร์มาร์เก็ต, ศูนย์อาหาร, ธนาคาร, ที่จอดรถกว่า 800 คัน ฯลฯ มาเป็นจุดแข็งนั้น ได้รับความสนใจและน่าจับตามองมากขึ้น!!!!
“โซโห” ถือกำเนิดขึ้นโดย บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทจำกัด เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2531 โดยกลุ่มวิศวกรซึ่งมีประสบการณ์ในด้านวิศวกรรมแขนงต่าง ๆ นำโดย นายเสวก ศรีสุชาต และ นายอำนวย กาญจโนภาศ เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการออกแบบ จัดหา และรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมสำหรับอาคารสำนักงาน อาคารพาณิชย์ ที่อยู่อาศัย โรงแรม โรงพยาบาล ศูนย์การค้า โรงงานอุตสาหกรรมเป็นต้น โดยกลุ่มผู้ก่อตั้งได้เล็งเห็นแนวโน้มการเติบโตของความต้องการงานบริการด้านวิศวกรรม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะรองรับการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศ
บริษัทฯเป็นหนึ่งในบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างอย่างครบวงจร สามารถรับงานทั้งจากภาคเอกชนและภาครัฐ โดยเป็นทั้งผู้รับเหมาโดยตรง (Main Contractor)และเป็นผู้รับเหมาช่วง (Sub-Contractor) จากวิธีการประมูล หรือการเจรจาต่อรอง รวมถึงการร่วมมือกับบริษัทอื่นในลักษณะกิจการร่วมค้า บริการของบริษัทสามารถแบ่งตามลักษณะของงานหลัก แบ่งได้ 5 ประเภท ได้แก่ งานก่อสร้างโยธา และงานติดตั้งระบบไฟฟ้า ระบบสื่อสารโทรคมนาคม ระบบปรับอากาศ ระบบสุขาภิบาลและระบบป้องกันอัคคีภัย ปัจจุบันมีบริษัทย่อยและบริษัทร่วม รวมกว่า 7บริษัทฯ โดย บริษัท บำรุงเมืองพลาซ่า จำกัด ที่บริหารงานโซโห เป็นหนึ่ง ในบริษัทย่อยเหล่านั้น
การเพิ่มไลน์ของธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจใหม่ที่แตกต่างจากธุรกิจเดิมอย่างสิ้นเชิง เป็นเรื่องที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก โดยผู้รับหน้าที่สำคัญในการบริหารงานให้กับ “โซโห” ให้ดำเนินสู่เป้าหมายการเป็นศูนย์กลางค้าส่งครบวงจรที่ป๊อปปูล่าร์มากที่สุดในย่านนี้ เป็นหน้าที่ของ คุณตุ๊ก-ชุติมา อยู่สาธร กรรมการบริหารบ.บำรุงเมือง พลาซ่า จำกัด และ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายบัญชีการเงินบริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด(มหาชน) สาวมือดีจากแวดวงการเงิน-ธุรกิจการค้า ซึ่งศึกษาข้อมูลการตลาดมาอย่างโชกโชนก่อนจะกระโจนเข้ามารับหน้าที่บริหารศูนย์แฟชั่นค้าส่งครบวงจรแห่งนี้อย่างเต็มตัว คุณตุ๊กเผยว่าภารกิจหลังจากะนี้ แบ่งเป็นสองเฟส เฟสแรกคือ ทำอย่างไร ให้ขายพื้นที่ร้านค้าได้ 100 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งให้ธุรกิจริมทาง ย้ายมาอยู่ในห้าง เฟส 2 คือต้องทำให้โซโหเป็นแหล่งช้อปปิ้งในใจของนักช้อป เพื่อให้ร้านค้าที่อยู่ในโครงการ ค้าขายรวยๆๆๆ
ที่มาของการเปิด โซโห ศูนย์แฟชั่นค้าส่งครบวงจร 24 ชั่วโมง?
“จุดเริ่มต้นคือบริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด(มหาชน)เป็นบริษัทจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ มีทั้งบริษัทย่อยและบริษัทร่วมรวมกว่า 7 บริษัทฯ หน้าที่หลักของผู้บริหารคือต้องการทำให้ทุกบริษัทฯ มีกำไรมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ประกอบกับ บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ได้พื้นที่ตรง ริมถนนบำรุงเมือง ติดกับ รพ.หัวเฉียว อยู่ในย่านโบ๊เบ๊ เราจึงมีการว่าจ้างบริษัทภายนอกทำวิจัยตลาดและสำรวจความเป็นไปได้ทางธุรกิจ โดยสำรวจกลุ่มธุรกิจคนไทยในแถบโบ๊เบ๊ แบ่งเป็น 3 ลักษณะ ได้แก่ 1.ผู้ประกอบการที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีร้านค้าอยู่แล้วชัดเจน 2. กลุ่มหาบเร่แผงลอย 3. กลุ่มนักลงทุน เช่า ซื้อ พื้นที่ ทั้งหมดต่างยอมรับในศักยภาพของทำเลแถบนี้ ซึ่งพบว่ามีทัศนะหลากหลาย อาทิ “ขายดีอยู่แล้ว วันนึงก็ประมาณ 15,000-30,000 บาท”, “ซื้อพื้นที่มาตั้งแต่แรก 16 ตรม. 4 ล้าน ไม่ถึงปีก็คืนเงิน อีก 2 ปี ขายไป 10 ล้าน เชื่อเถอะพื้นที่แถวนี้มีราคา”, “แถวนี้นะ ขอแค่เนื้อที่ 2-4 ตรม. ก็พอแล้ว ให้ได้โชว์ของ” ฯลฯนอกจากนั้น บริษัทฯ มีการศึกษาถึงช่องว่างทางการตลาดของศูนย์ค้าส่ง รวมทั้งชอบปิ้งมอลล์ ต่างๆ เพื่อวางตำแหน่ง (Brand Positioning)ของ โครงการ และสร้างความแตกต่าง (Differntiation)จนนำมาสู่ความมั่นใจอย่างยิ่งที่จะสร้างโซโห เป็นศูนย์แฟชั่นค้าส่งครบวงจร 24ชั่วโมง แห่งแรก โดยรวบรวมเอาสิ่งที่ Shopping Center , Wholesale Shopping Mall,…….. ฯลฯ ยังไม่มี มาเป็นจุดเด่นภายในโซโหของเรา อาทิ ข้อจำกัดด้านการขายเกี่ยวกับเรื่องเวลา เช่นเปิดขายเก้าโมงเช้า เย็นก็ต้องปิดแล้ว แต่โซโหให้คุณขายได้มากขึ้น ทั้งวันทั้งคืน เพราะเราเปิด 24 ชั่วโมง พร้อมรวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งซูเปอร์มาร์เก็ต, ศูนย์อาหาร, ธนาคาร และที่จอดรถกว่า800 คัน ฯลฯ นอกจากสะดวกสบายแล้ว ยังมั่นใจได้เรื่องของความปลอดภัยด้วย”
รายละเอียดและพื้นที่ขายของ โซโห ศูนย์ค้าส่งครบวงจร 24 ชั่วโมง
โซโห เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองให้แก่ทั้งผู้ประกอบการและลูกค้าที่ต้องการความแปลกใหม่ ความสะดวกสบาย รวมถึงความปลอดภัย ในการมาเลือกซื้อสินค้า เราได้รวบรวมจุดเด่นทั้งหลายมาไว้ในโครงการนี้ และมีการทำโฆษณา ประชาสัมพันธ์เพื่อให้ร้านค้า ผู้ประกอบการ และผู้บริโภคได้ทราบข้อมูลของโครงการอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เปิด ประตูสู่ทำเลทองของมหานครกรุงเทพฯ สร้าง ศักยภาพแห่งการลงทุนที่คุ้มถึงขีดสุด เชื่อม โยงธุรกิจค้าส่งแฟชั่นด้วยกำลังซื้อมหาศาลจากทั่วโลก พร้อมจุดประกาย ความสะดวกสบายเต็มรูปแบบ ด้วยองค์ประกอบครบครัน อาทิ 1. พื้นที่จอดรถมากกว่า 800 คัน 2 มีพื้นที่ขนถ่ายสินค้าทุกชั้น 3. ลิฟท์ขนส่งสินค้า แยกกับลิฟท์โดยสารเพื่อการใช้ประโยชน์สูงสุด 4 บริษัทขนส่งภายใน และต่างประเทศ ภายในศูนย์ 5 พื้นที่เก็บสินค้า เพื่ออำนวยความสะดวก 6 ระบบอินเตอร์เน็ตเพื่อการสื่อสาร เปิดช่องทางการค้าที่มากขึ้น
ในด้านเกี่ยวกับตัวอาคาร เป็นอาคาร สูง 16 ชั้น พื้นที่ขายทั้งสิ้น 15,000ตารางเมตร แบ่งให้บริการดังนี้ ชั้นใต้ดิน B 1 ซูเปอร์มาร์เก็ต 24 ชั่งโมง และศูนย์อาหาร B 2 ร้านค้าแฟชั่น B 3- B5 บริการที่จอดรถ ชั้น 1-2 เสื้อผ้าแฟชั่น กิฟท์ช็อป ชั้น 3 เครื่องหนัง กระเป๋า รองเท้า ธนาคาร ชั้น 4 ไอที สินค้าจากเมืองจีน ของเล่นเด็ก โทรศัพทมือถือ ชั้น 5-7 บริการที่จอดรถ ชั้น ME บริการเก็บของสำหรับร้านค้า และชั้น 8-10 เปิดเป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ จำนวน 180 ห้อง *** โดยบริษัทฯ เริ่มเปิดจองพื้นที่แล้ว ณ. สำนักงานขายโซโห บนถนนบำรุงเมือง (ติด รพ.หัวเฉียว) เบอร์โทรศัพท์ 02 223 2299 และ www.sohothailand.com
เป้าหมายการขาย / เป้าหมายทางการตลาด
บริษัทฯ ตั้งเป้าการขายพื้นที่ให้ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ภายในสามเดือน ภายหลังการเปิดตัว โซโห ศูนย์ค้าส่งครบวงจร 24 ชั่วโมง ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม เนื่องจากเป็นครั้งแรกของเมืองไทยที่ร้านค้าดังในย่านแหล่งค้าส่ง จะขยับขึ้นมาอยู่ในห้างทั้งหมด พร้อมเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยขณะนี้ตามสัดส่วนการขาย ในส่วนที่เป็น Inter Brand เช่น ร้านอาหารดังต่างๆ ซึ่งตั้งเป้าไว้สามสิบเปอร์เซนต์ ขณะนี้จองเข้ามาเต็มหมดแล้ว เหลือในส่วนของ Wholesale shop ที่เราต้องการให้มีความหลากหลายของผู้ค้า ทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น กิฟท์ช็อป เครื่องประดับ เครื่องหนัง รองเท้า ฯลฯ กลุ่มนี้จะมีเข้ามาเรื่อยๆ คาดว่าภายหลังร้านค้าตัวอย่างเสร็จ (ภายในวันที่ 22 มี.ค.) จะกระตุ้นให้มีการจองเพิ่มมากขึ้น”
ความคืบหน้าด้านการก่อสร้างและเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ?
“อย่างที่ทราบกันดีว่า บริษัท เพาเวอร์ไลน์ จำกัด (มหาชน) คือ ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการออกแบบ และรับเหมาติดตั้งระบบงานวิศวกรรม สำหรับสำนักงาน อาคารพาณิชย์ ที่อยู่อาศัย โรงแรม โรงพยาบาล ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ฯลฯ อยู่แล้ว เมื่อเข้ามารับหน้าที่ในการปรับโฉมให้กับ โซโห ก็ได้ให้ความสนใจทุกด้าน ตั้งแต่เรื่อง การออกแบบ โดยดีไซน์ตัวอาคารในคอนเซปต์ non-stop inspirational style ให้อารมณ์ของแรงบันดาลใจที่ไม่มีวันสิ้นสุด ด้วยการใช้ลวดลายของเส้นที่ต่อโยงกันไปตลอดตัวตึก หรือวัสดุที่มีเรื่องราวต่อเนื่องกันไป รวมถึงการเป็น Urban nature /eco friendly ถือเป็นครั้งแรกของ Wholesales Shopping Mall ที่นำเอาเรื่องราวของธรรมชาติมาสอดแทรกไว้ในการช้อปปิ้ง ทำให้ถนนที่แสนวุ่นวายเป็นวันสบายๆ”
ในส่วนของโครงสร้างและแผนผัง ก็ได้มุ่งตอบโจทย์ความเป็นศูนย์ค้าส่งที่ทันสมัย และคำนึงถึงความสะดวกสบายของทั้งผู้ประกอบการและลูกค้าเป็นหลัก โดยวางแผนผังให้อาคารมีศักยภาพเหมาะกับธุรกิจค้าส่งโดยเฉพาะ กล่าวคือ มีทางเดินเป็นเส้นตรง มองเห็นทุกร้านค้าอย่างเท่าเทียม ทางเดินกว้างขวาง ไม่แออัด สามารถเลือกซื้อสินค้าได้อย่างเต็มที่ พร้อมบันไดเลื่อนทุกจุด นอกจากนี้ในส่วนของลิฟท์ ได้มีการแยกออกจากกันโดยเด็ดขาด ระหว่างลิฟท์โดยสารและลิฟท์ขนของ และเปิดพื้นที่เลนส์พิเศษสำหรับรับ-ส่งของโดยเฉพาะ ไม่ให้กีดขวางทางแก่ลูกค้าที่เข้ามาจับจ่ายสินค้า ด้านพื้นที่จอดรถก็สามารถรองรับได้มากกว่า 800 คัน
โดยขณะนี้อยู่ในขั้นเริ่มปรับโฉม โดยทีม สถาปนิก ,วิศวกร และทีมงานที่เชี่ยวชาญเฉพาะทาง มาเริ่มต้นตั้งแต่พูดคุย -วางแผนการทำงาน ในการปรับแต่งทั้งภายในและภายนอกอาคาร ในแต่ละขั้นตอน การเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ลิฟท์ หรือ บันไดเลื่อน การวางระบบไฟฟ้าในตัวอาคาร เหล่านี้ ต้องใช้เทคนิค การคำนวณน้ำหนักโครงสร้างพื้นที่อาคาร เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของทุกคน โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการปรับแต่ง ประมาณ 6 เดือน จึงจะสมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ และพร้อมเปิดให้บริการแก่เหล่าพ่อค้าแม่ค้าและนักช้อปฯ อย่างเป็นทางการราวเดือนพฤศจิกายน 2555 นี้
กลยุทธิ์ในการทำให้ศูนย์แฟชั่นค้าส่งแห่งนี้ติดตลาด ?
“บริษัทฯ ได้เตรียมงบประมาณกว่า 20 ล้านบาทต่อปี สำหรับทำการสื่อสารการตลาดกับกลุ่มเป้าหมาย ว่า โซโห คืออะไร และมาที่นี่คุณจะได้เจอกับอะไรบ้าง โดยกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน และมีนโยบายจัดกิจกรรมเพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นการขายให้กับร้านค้าต่างๆ ภายในศูนย์ ตลอดทุกเดือน และทุกสามเดือนก็จะจัดกิจกรรมใหญ่ให้เป็นทอล์ค ออฟ เดอะทาวน์ เพื่อปลุกกำลังซื้อและสร้างกระแสตำนานค้าส่งให้กลับคืนมาในย่านโบ๊เบ๊ ส่วนจะเป็นกิจกรรมอะไรบ้างนั้น ต้องรอติดตามในลำดับต่อไป ทั้งนี้บริษัทฯ มองในเรื่องของการลงทุนและซึ่งจะเป็นกิจกรรมอะไรบ้างนั้น ขอพูดในลำดับต่อไปค่ะ”
คงต้องจับตามองว่า “โซโห” จะเป็นอีกหนึ่งตำนานค้าส่งที่เคียงคู่กับย่านประวัติศาสตร์แห่งการค้าขายอย่างโบ๊เบ๊ และครองใจกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าจากทั่วประเทศได้หรือไม่????