กรุงเทพฯ--8 มิ.ย.--โอเอซิส มีเดีย
" มาลี สามพราน " จัดกลุ่มธุรกิจ กำหนด 3 สายธุรกิจหลัก ธุรกิจการเกษตร / ธุรกิจตราข่าวผลิตภัณฑ์ /ธุรกิจการผลิต เสริมความคล่องตัวในองค์กรและสร้างความได้เปรียบเชิงแข่งขันในตลาด เผยผลประกอบการไตรมาส 1 /ปี 2547
นายบรรจง จิตต์แจ้ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มาลีสามพราน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ ได้มีการจัดกลุ่มธุรกิจภายใต้กลุ่มบริษัท มาลีสามพรานฯ เป็น 3 สายธุรกิจหลัก ประกอบด้วย สายธุรกิจการเกษตรและแปรรูป (Agro Business Unit ) สายธุรกิจตราผลิตภัณฑ์ (Branded Business Unit) และสายธุรกิจการผลิต (Manufacturing Business Unit) เพื่อรวมการดำเนินงานภายในองค์กรให้กระชับคล่องตัวและสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน กล่าวคือ มุ่งสนองตอบความต้องการของลูกค้าอย่างรวดเร็ว, พัฒนาและควบคุมต้นทุนในการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ, มีการรับผิดชอบกับสภาพการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจอย่างชัดเจน และแต่ละกลุ่มธุรกิจต้องบรรลุวัตถุประสงค์การดำเนินงานและสร้างผลกำไรให้กับตนเองได้
สำหรับการดำเนินงานของ 3 ธุรกิจหลัก คือ 1) สายธุรกิจการเกษตรและแปรรูป) นั้นมุ่งเน้นการบริหารการเกษตรที่ดี มีมาตรฐานด้านผลผลิตจากไร่ข้าวโพดหวาน สัปปะรด ในการบริหารงานลักษณะ Contract Farming โดยมีเจ้าหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ให้กับเกษตรกรและสมาชิกเพื่อให้ได้วัตถุดิบที่มีมาตรฐานเพื่อการส่งออกผลิตภัณฑ์ระดับสากลต่อไป 2) สายธุรกิจตราผลิตภัณฑ์ เป็นสายงานที่ดูแลการจัดจำหน่ายการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศของผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าตรา "มาลี" ที่มีการสร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพที่หลากหลายจนได้รับรางวัลเกียรติบัตรในความสำเร็จมากมาย และ 3) สายธุรกิจการผลิต ที่จะรับผิดชอบด้านการผลิตสินค้าประเภทเครื่องดื่มให้กับกลุ่มพันธมิตรธุรกิจ ตลอดจนธุรกิจตราผลิตภัณฑ์ ด้วยมาตรฐานคุณภาพโรงงานระดับสากลที่ปัจจุบันรับดำเนินงานให้กับลูกค้าทั้งในและนอกประเทศ
ส่วนของผลประกอบการในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2547 บริษัทฯ มียอดขายรวมเท่ากับ 706 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปี 2546 ที่มียอดขายรวม 752 ล้านบาท โดยสาเหตุที่บริษัทฯมียอดขาย ลดลงเป็นผลมาจากยอดขายจากตลาดภายในประเทศและการส่งออกสินค้ารับจ้างผลิตลดลง ขณะที่กำไรขั้นต้นของไตรมาสที่ 1 ปี 2547 มีอัตราที่ 18% ลดลงจาก 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2546 และมีผลขาดทุนรวม 20 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2546 ที่มีผลขาดทุนสุทธิรวม 11 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในแง่ของสภาพคล่อง บริษัทฯ มีกระแสเงินสดได้มาจากการดำเนินงาน 83 ล้านบาท สูงกว่าปี 2546 จำนวน 27 ล้านบาท
นายบรรจง ให้เหตุผลถึงสถานการณ์ตลาดในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2547 ที่มีผลกระทบด้านการดำเนินธุรกิจจากสถานการณ์ภายนอก โดยภาวะตลาดมีการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น การขาดแคลนวัตถุดิบสำหรับสินค้าเพื่อการส่งออก ตลอดจนการแข็งค่าของอัตราการแลกเปลี่ยนของค่าเงินบาททำให้สินค้าจากประเทศไทยราคาสูงขึ้นอย่างไรก็ดี บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลการดำเนินงานให้ดีขึ้นต่อไป โดยปัจจุบันยอดขายของบริษัทฯ เริ่มเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่วัตถุดิบเริ่มมีจำนวนเพิ่มขึ้นเนื่องจากเข้าสู่ฤดูฝน ประกอบกับค่าเงินบาทเริ่มมีเสถียรภาพที่ดีขึ้น
ข้อมูลเพิ่มเติม
ผลิตภัณฑ์ "มาลี" ได้รับเกียรติบัตรสุดยอดแบรนด์ชั้นนำ หรือ " ซุปเปอร์แบรนด์" จากการสำรวจและวิจัยโดยสถาบันซินโนเวต ที่มีการนำเสนอรายงานการวิเคราะห์อย่างละเอียดเพื่อให้นักการตลาดได้ทราบถึงตำแหน่งของตัวเอง และมีการตรวจสอบแบรนด์ในลักษณะ "Brand Health Audit" ว่าเป็นแบรนด์คุณภาพที่มีความโดดเด่น โดยการจัดงานของ Superbrand International จากประเทศอังกฤษ
และอีกหนึ่งเกียรติบัตรความสำเร็จเป็นปีที่ 2 ของ เครื่องดื่มน้ำผลไม้ "มาลี" ที่ได้รับจากนิตยสาร รีดเดอร์ ไดเจสต์ ที่ได้ร่วมมือกับบริษัทวิเคราะห์ข้อมูล นีลเซน มีเดีย รีเสิร์ช ในการสำรวจเพิ่มเติมจากผู้บริโภคทางโทรศัพท์นอกเหนือจากการสำรวจผ่านการโหวตคะแนนของนิตยสาร รีดเดอร์ ไดเจสต์ว่า เป็นแบรนด์ที่โดดเด่น และได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคในมาตรฐานการผลิต และรสชาติหลากหลายอย่างแท้จริง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ บริษัท โอเอซิส มีเดีย จำกัด
คุณภัทธิรา บุรี หรือ คุณฤดี ธรรมเทียร
โทร. 0-2937-4000 ต่อ 2068 ,0-2937-4735, 0-29374658 โทรสาร 0-29374659
อี-เมล์ : patthira@oasismedia.co.th; ruedee@oasismedia.co.th--จบ--
-นท-