กรุงเทพฯ--21 พ.ค.--IR PLUS
"สุพันธุ์ มงคลสุธี" มั่นใจปีนี้ซินเน็คฯ ปั๊มรายได้เติบโต 15% ได้ตามเป้าแน่ หลังพบอุตสาหกรรมไอทียังเติบโตอย่างต่อเนื่อง แถมกลุ่มสินค้าแทปเล็ตและสมาร์ทโฟนยังขยายตัวได้อย่างโดดเด่น เชื่อQ2/55 ซินเน็คฯ กลับมาทำผลงานเยี่ยม หลังปัญหาสต็อกสินค้าหลังน้ำท่วมคลี่คลาย
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการและซีอีโอ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ ระบบสารสนเทศและอุปกรณ์ไอที รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการในปี 2555 ว่ายังมีทิศทางเติบโตไปตามเป้าหมายที่วางไว้ทั้งรายได้และกำไร เนื่องจากอุตสาหกรรมไอทียังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่กลุ่มสินค้าแทปเล็ตและสมาร์ทโฟนยังเติบโตได้อย่างโดดเด่น จึงมั่นใจว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันให้ซินเน็คฯ เติบโตไปในทิศทางเดียวกันด้วย เนื่องจากบริษัทฯ เตรียมส่งสินค้าใหม่ลงวางตลาดต่อเนื่องตลอดทั้งปี ควบคู่กับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับเจ้าของสินค้า และลูกค้าซึ่งเป็นผู้ประกอบการร้านค้าปลีกสินค้าไอทีทั่วประเทศ
“ถึงแม้ว่าในไตรมาสแรกของปี กำไรจะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะปลายปีที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมทำให้มีสินค้าอยู่ในสต็อกเป็นจำนวนมาก บริษัทฯ จึงจำเป็นต้องเร่งระบายสินค้าออก ส่งผลให้ ผลประกอบการในQ1/2555 บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นลดลง สะท้อนให้กำไรสุทธิลดลงไปในทิศทางเดียวกัน แต่สถานการณ์ได้สิ้นสุดลงแล้ว หลังจากนี้การจัดจำหน่ายสินค้าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แนวโน้มผลประกอบการจึงมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสที่ 2/2555 เป็นต้นไป และมั่นใจว่ายอดขายทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ คือเติบโตประมาณ 15% จากปีก่อนที่ทำได้ประมาณ 20,268 ล้านบาท “นายสุพันธุ์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 1/2555 (มกราคม - มีนาคม 2555) ว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเงิน 571.71 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 12.55 ทำให้มีรายได้รวมทั้งสิ้นเป็นจำนวน 5,125.39 ล้านบาท จากไตรมาส 1/2554 ที่ทำได้ 4,553.68 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของประเทศไทยในไตรมาส 4/2554 ที่ผ่านมาส่งผลให้มีสินค้าคงค้างในคลัง บริษัทฯ จึงต้องลดกำไรขั้นต้นในสินค้าบางประเภทลงเพื่อช่วยในการระบายสินค้าคงค้างให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ส่งผลให้กำไรขั้นต้นลดลงและกำไรสุทธิลดลงตามไปด้วย โดยในงบการเงินรวมบริษัทฯ มีกำไรสุทธิยู่ที่ 82.50 ล้านบาท ลดลง 26 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 23.97 จากไตรมาส 1/2554 ที่ทำได้ 108.50 ล้านบาท