กรุงเทพฯ--22 พ.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า กรมธนารักษ์มีเหรียญกษาปณ์ทุกชนิดราคาที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และสามารถรองรับได้เพียงพอ ต่อความต้องการ
นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะกับดูแลกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ได้สำรองเหรียญกษาปณ์เพื่อใช้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้อย่างเพียงพอ โดยมีเหรียญแต่ละชนิดราคาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ดังนี้
เหรียญ 10 บาท มีหมุนเวียนอยู่ ประมาณ 1,580 ล้านเหรียญ
เหรียญ 5 บาท มีหมุนเวียนอยู่ ประมาณ 2,400 ล้านเหรียญ
เหรียญ 2 บาท มีหมุนเวียนอยู่ ประมาณ 995 ล้านเหรียญ
เหรียญ 1 บาท มีหมุนเวียนอยู่ ประมาณ 12,000 ล้านเหรียญ
เหรียญ 50 สต. มีหมุนเวียนอยู่ ประมาณ 2,040 ล้านเหรียญ
เหรียญ 25 สต. มีหมุนเวียนอยู่ ประมาณ 3,000 ล้านเหรียญ
นายวิรุฬ กล่าวต่อว่า กรมธนารักษ์ยังจ่ายแลกเหรียญเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้เป็นปกติ ซึ่งความต้องการใช้เหรียญแต่ละชนิดราคาเช่น 10 บาท อยู่ที่ 16 ล้านเหรียญต่อเดือน 5 บาท อยู่ที่ 17 ล้านเหรียญต่อเดือน 2 บาท อยู่ที่ 14 ล้านเหรียญต่อเดือน และ 1 บาท อยู่ที่ 70 ล้านเหรียญต่อเดือน 50 สต. อยู่ที่ 10 ล้านเหรียญต่อเดือน และ 25 สต. จ่ายแลกเดือนละ 12 ล้านเหรียญ ซึ่งขณะนี้กรมธนารักษ์มีปริมาณ เหรียญกษาปณ์สำรองเพียงพอที่จะจ่ายแลกให้ประชาชนและห้างร้านต่างๆ ได้จนถึงปี 2556
สำหรับการให้บริการจ่ายแลกเหรียญที่มีการรับโอนภารกิจมาจากกรมบัญชีกลางเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2555 ปัจจุบันกรมธนารักษ์มีศูนย์บริหารจัดการเหรียญกษาปณ์ ในส่วนภูมิภาค 6 แห่ง ที่จังหวัดเชียงใหม่ นครสวรรค์ ขอนแก่น อุบลราชธานี และสงขลาเพื่อให้บริการจ่ายแลกเหรียญแก่ลูกค้ารายใหญ่และรายย่อย และได้ร่วมมือกับธนาคารออมสินในการเป็นหน่วยให้บริการด้านเหรียญกษาปณ์ แก่ประชาชนรายย่อยในทุกจังหวัดทั่วประเทศกว่า 900 สาขา ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2555 เป็นต้นมา นอกเหนือจากนั้น ยังมีการบริหารจัดการด้วยการจับคู่กลุ่มลูกค้ารายใหญ่ เช่น ธนาคารต่างๆ ซึ่งทำให้ มีเหรียญออกสู่ระบบหลากหลายช่องทาง อย่างไรก็ดี ขณะนี้กรมธนารักษ์กำลังดำเนินการและปรับปรุง การให้บริการด้านเหรียญโดยจะจัดจ้างให้เอกชนเข้ามาให้บริการรับแลก จ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ เพื่อเพิ่ม ความสะดวกให้แก่ประชาชน