กรุงเทพฯ--24 พ.ค.--กระทรวงวัฒนธรรม
หลังจาก กระทรวงวัฒนธรรม จับมือกับ ภาคีองค์กรชาวพุทธ ยกเอางานวัดมาไว้ ณ สยามพารากอน เพื่อให้คนกรุงได้สัมผัสบรรยากาศอันรื่นเริง พร้อมด้วยสาระความรู้ทางพุทธศาสนา จัดงานที่มีชื่อว่า "มหกรรมลานโพธิ์ ตอนงานวัดลอยฟ้า" มีมีวัยรุ่น และ ประชาชนวัยผู้ใหญ่ คนชรา ผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเข้าร่วมชมมหาศาล
"มหกรรมลานโพธิ์ ตอนงานวัดลอยฟ้า" จัดขึ้นภายใต้แนวคิดของ พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ พระภิกษุชาวอังกฤษที่ครองเพศบรรพชิตอยู่ในเมืองไทยเนิ่นนาน ท่านเสนอแนวคิดให้เป็นเทศกาลพุทธลีลาที่หมายถึง งานเทศกาลที่มีลีลาท่าทีอย่างชาวพุทธ ส่งเสริมผู้ใฝ่รู้และตื่นตัวปฏิบัติเพื่อการบรรลุ ให้เกิดความเบิกบาน สงบ เย็นและเป็นประโยชน์
ในงานมีสุดยอดนิทรรศการที่พลาดไม่ได้คือ พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร? เป็นนิทรรศการที่บอกเล่าถึงหัวใจของพระพุทธศาสนา และชีวประวัติของพระพุทธเจ้าที่สื่อความหมายใหม่ ให้นำไปใช้ไปปฏิบัติตามรอยพระองค์ได้
นายแพทย์บัญชา พงษ์พานิช กรรมการและเลขานุการ หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ บอกว่า เมื่อโลกเปลี่ยนรูปแบบการทำบุญ งานวัดก็ต้องเปลี่ยนตามไปด้วย การจัดงาน "มหกรรมลานโพธิ์ ตอนงานวัดลอยฟ้า" นั้น ต้องการให้คนรุ่นใหม่ได้สัมผัสกับบรรยากาศและรูปแบบงานวัดที่ฉีกจากกรอบเดิมๆ
ก่อนการจัดงาน ทางคณะกรรมการได้มองหาสถานที่ที่จะเหมาะกับงานและต้องมีความทันสมัย ในที่สุดได้เลือกห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ซึ่งถือเป็นใจกลางเมือง เปรียบดังว่าทุกคนสามารถเข้ามาร่วมงานได้
"การจัดงานในพื้นที่ใจกลางเมืองถือได้ว่าสะดวกสบายต่อการเดินทางและทุกคนสามารถเดินทางมาร่วมได้ เมื่อเข้ามาภายในงานเราจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของงานวัดอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน เพราะว่ามาที่เดียวมีครบทุกรูปแบบ มีกิจกรรมให้ร่วมเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติธรรม การฟังเทศน์ รวมไปถึงกิจกรรมแบบงานวัดทั่วไป เช่น การปาเป้า ปาลูกโป่ง บ้านผีสิง สอยดาว มีทั้งความสนุกสนาน และความสงบได้สติ
"พระพุทธเจ้าท่านบอกว่าธรรมะต้องเรียนรู้เอง ต้องสัมผัสเอง จึงจะรู้รสชาติ สำหรับงานนี้เมื่อเข้าไปตอนแรกก็จะสนุก แล้วก็จะเริ่มค่อยๆ ซึมซับธรรมะเข้าไปจนเกิดความสงบ มีทั้งการปฏิบัติจริง และการส่งเสริมการเรียนรู้ นอกจากนี้เมื่อเข้ามายังมีแอพพลิเคชั่นเกี่ยวกับหลักธรรม คำสอนของพระพุทธเจ้า และเรื่องเกี่ยวกับธรรมะให้ดาวน์โหลด ซึ่งสามารถส่งต่อไปให้กับผู้อื่นที่ไม่ได้เข้าร่วมงานได้" นายแพทย์บัญชากล่าว
ในงาน "มหกรรมลานโพธิ์ ตอนงานวัดลอยฟ้า" ที่กำลังจัดอยู่นี้ ผู้ร่วมงานจะได้พบกับงานวัดในรูปแบบการผสมผสานของศิลปะและเทคโนโลยี โดยแบ่งออกเป็น 4 โซน
บริเวณโซนที่ 3 ศาลาลอย ประกอบด้วยพื้นที่นิทรรศการ และบูธจากภาคีองค์กรชาวพุทธ นิทรรศการนิทรรศน์ตรัสรู้ ที่รวบรวมเรื่องราว 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ ให้ได้รู้ภายใน 26 นาที บูชาสุดยอดเจดีย์ พุทธปฏิมา บูรพาจารย์ และคาถาธรรมครั้งโบราณจาก 4 ภาคทั่วไทย รวมถึงธรรมสแควร์ เวทีศูนย์กลางแห่งการถกธรรมะ อภิปราย เสวนา จากผู้รู้ที่เดินทางมาจากทุกสารทิศทั่วประเทศ
สำหรับบูธที่น่าสนใจมาก คือ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มีแม่ชีแสงดาวให้ความรู้เรื่องพุทธศาสนา โดย นายคริษฐ์ ขันทอง กองบรรณาธิการบางกอกทูเดย์ ได้รับความรู้เรื่องหลักสูตรการฝึกอบรมคุณธรรมจริยธรรม ฝ่ายบริการฝึกอบรม มจร.มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
แม่ชีแสงดาว สอนว่า เนื้อหาหลักสูตรอบรมคุณธรรมที่เหมาะสมสำหรับนักเรียน นักศึกษาทุกระดับชั้น นอกจากนั้น ยังเหมาะกับกลุ่มพิเศษที่ต้องการข้อเสนอแนะเป็นพิเศษ เหมาะกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อพัฒนาองค์กรให้เป็นองค์กรที่พึงประสงค์ในสังคมไทยและสังคมโลก เนื้อหาในแต่ละหลักสูตรมุ่งเน้นให้ผู้อบรมได้เรียนรู้อย่างเหมาะสมกับตนเอง และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยมีการสอดแทรกธรรมะในรูปแบบกิจกรรมที่ผสมทั้งศาสตร์และศิลป์มีทั้งความสนุก ความเพลิดเพลิน แต่อิงแอบกับกับหลักธรรมะ
ทั้งนี้ หลักสูตรมีมากมาย สามารถติดต่อประสานงานได้ที่ สำนักงานฝ่าบริการฝึกอบรม มจร .วังน้อย หอฉัน ชั้น ๓ มีพระวิทยากร บริการทั้งในและ นอกสถานที่ สำหรับผู้เข้าอบรมทุกระดับ
พระมหาวิชาญ สุวิชาโน หัวหน้าฝ่ายบริการฝึกอบรม มจร. โทร. ๐๘-๗๐๗๓-๕๐๓๕, E-mail: charnb008@gmail.com
มีตำแหน่ง ประธานพระธรรมวิทยากร หัวฝ่ายบริการฝึกอบรม หรือ พระมหาวิชาญ สุวิชาโน มีประสบการณ์การทำงาน: ตำแหน่ง หัวหน้าฝ่ายบริการฝึกอบรม
นอกจากนี้ยังมี หัวหน้าพระธรรมวิทยากร และผู้ประสานงานกลาง ได้แก่ พระมหานพดล ธมฺมานนฺโท
มีประสบการการทำงานเนหัวหน้าพระธรรมวิทยากร ฝ่ายบริการฝึกอบรม ส่วนธรรมนิเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ท่านผู้มีจิตเมตตาสนใจบริจาคสร้างสถานที่จำลองตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าติดต่อได้ที่ แม่ชีแสงดาว 084-705-0444 และ 089-715-8088 โดยขณะนี้มีผู้ใจบุญบริจาคพื้นที่ให้แล้ว แต่ขาดการร่วมมือร่วมใจกันสร้างสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ซึ่งจะมีประโยชน์และเผยแผ่คำสั่งสอนในพระพุทธศาสนาได้อีกยาวนาน