กรุงเทพฯ--25 พ.ค.--อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ
อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ดันอุตสาหกรรมอีเว้นท์ไทยลุยตลาดอาเซียน เผยไตรมาสแรก โตขึ้นเต็มที่ 100%กวาดรายได้กว่า 865 ล้านบาท พร้อมดันอาคารศาลาไทย ติด 1 ใน 3 พาวิลเลี่ยนยอดฮิต
บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) เผยผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2555 โตขึ้น 100% นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) บริษัทครีเอทีฟอีเว้นท์ อันดับ 7 ของโลก (จัดอันดับโดยนิตยสารชื่อดังของสหรัฐอเมริกา Special Event Magazine) เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาสแรกว่า “ปีนี้ถือว่าเป็นการเริ่มต้นปีที่ดีของอินเด็กซ์ฯ จากปีที่แล้ว 2011 ในไตรมาสแรก มีรายได้อยู่ที่ 433 ล้านบาท ในปีนี้ อินเด็กซ์ฯ เติบโตขึ้นกว่า 100% ทำรายได้อยู่ที่ 865 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่ยังคงมาจากภาคเอกชน 80% และภาครัฐบาล 20% สาเหตุมาจากเนื่องมาจากผลกระทบจากน้ำท่วมในปลายปีที่แล้ว ทำให้บริษัทฯ และองค์กรต่างๆ ทุ่มเงินงบประมาณ เพื่อกระตุ้นยอดขาย และทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการขายมากขึ้น นับเป็นผลดีต่อภาคอุตสาหกรรมธุรกิจอีเว้นท์ของไทย โดยเชื่อว่าสิ้นปีอินเด็กซ์จะสามารถทำรายได้ทะลุเป้าที่ได้ตั้งเอาไว้เกิน 2,000 ล้านอย่างแน่นอน”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกจากนี้ ในไตรมาส 2 ยังคงมีงานอีเวนท์ระดับโลก ที่อินเด็กซ์ฯ รับผิดชอบดูแลในการสร้างสรรค์อาคารศาลาไทย ในงาน International Expo 2012 Yeosu Korea ณ เมืองยอซู ประเทศเกาหลี โดยตั้งแต่เปิดงานในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้รับผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง เรียกได้ว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่เราประสบความสำเร็จอย่างสูงอีกครั้ง โดยมีผู้เข้าชมกว่า 138,344 คน จากผู้เข้าร่วมงานทั้งหมดกว่า 591,947 คน คิดเป็น 1 ใน 4 ของผู้เข้าร่วมงานทั้งหมด จนอาคารศาลาไทย ติด 1 ใน 3 ศาลายอดฮิต นับว่าประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย และสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยบนเวทีระดับโลกอีกครั้ง”
“สำหรับการบุกตลาดต่างประเทศ ดึงประเทศไทยให้เป็น “Hub of Creativity” อันดับ 1 ของภูมิภาคอาเซียนนั้น อินเด็กซ์ฯ เดินหน้าเปิดเกมส์รุกปักธงรบตลาดต่างประเทศ ตามเป้าหมายที่วางไว้คือ ที่ประเทศพม่าและเวียดนาม พร้อมเดินหน้าขยายไปยังประเทศอื่นๆ อาทิ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ในเฟสต่อไป และเตรียมพร้อมเข้าสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC (ASEAN Economic Community) ซึ่งเป็นความท้าทายใหม่ที่เราต้องเตรียมตัวทั้งในเชิงรุกและเชิงรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น” นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน กล่าวทิ้งท้าย