กรุงเทพฯ--28 พ.ค.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
การันตีความพร้อมกับบทบาท “พี่เลี้ยง” ผลักดันลูกค้าก้าวสู่ความสำเร็จ
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ฯ เผยสูตรความสำเร็จของธุรกิจบริการบริหารสินทรัพย์ ชี้ 4 ข้อดันนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ก้าวสู่จุดหมายโดยไม่หลงทาง ส่งลูกค้า 2 โครงการ “XVI The Sixteenth สุขุมวิท ซ.16 และเดอะบีช คอนโดเทล ภูเก็ต” ปลื้ม!!ความเชี่ยวชาญแบบมืออาชีพ เข้ามาช่วยตั้งแต่เริ่มต้นจนปิดการขาย
นางสาวสมสกุล หลิมศุทธพรรณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน นักพัฒนามือใหม่หากได้คำแนะนำที่ครบถ้วน 360 องศา จะทำให้มองเห็นการทำงานครบทุกมิติ ตั้งแต่ข้อกำหนดด้านกฎหมาย การออกแบบโครงการ พฤติกรรมลูกค้า การทำการตลาดเชิงรุก และการเพิ่มมูลค่าให้แก่โครงการในระยะยาว โดยพลัสเองได้มุ่งเน้นการทำงานเป็นพันธมิตรกับลูกค้าตั้งแต่เริ่มต้นจนจบโครงการเพื่อให้ผลสำเร็จของยอดขายโครงการเป็นไปตามเป้าหมายที่ลูกค้าวางไว้อันครอบคลุมทั้งการช่วยหาพันธมิตรที่สนับสนุนด้านการเงิน การตลาดเชิงรุกที่ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ การตกแต่งห้องตัวอย่างให้โดนใจกลุ่มเป้าหมาย และการออกบูทขายโครงการในต่างประเทศ เป็นต้น ซึ่งการบริหารการขายที่ให้มากกว่าของพลัส ทำให้ปัจจุบัน พลัส พร็อพเพอร์ตี้ มีลูกค้ากลุ่มนักลงทุนที่เข้ามาใหม่ที่มอบความไว้วางใจให้เป็นพี่เลี้ยงมาแล้วกว่า 50 ราย รวมมูลค่าโครงการที่รับบริหารการขายกว่า 30,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในทุกปีเฉลี่ย 20% ต่อปี ท่ามกลางการเกิดใหม่ของบริษัทที่ปรึกษา ทั้งที่เป็นบริษัทข้ามชาติและบริษัทสัญชาติ ไทย
เผยสูตรความสำเร็จ ข้อแรก มีที่ดินย่านทำเลทอง แถมทุนหนา จะสามารถการันตีความสำเร็จได้หรือไม่?
กล่าวได้ว่าการมีที่ดินในย่านใจกลางความเจริญหรือที่โซนเศรษฐกิจ ถือเป็นกำไรแห่งความสำเร็จประการแรก ที่ทำให้ผู้ลงทุนกลายเป็นนักลงทุนผู้โชคดี เบื้องต้น “เงินทุนในการพัฒนา” ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะเสริมให้ นักลงทุนสามารถเนรมิตรโปรเจ็คท์ได้ตามความพอใจ แต่มีเพียงแค่นี้คงไม่พอ เพราะการมี “ที่และทุน” เป็นเพียงแค่จุดเริ่มแห่งฝัน แต่การจะสร้างฝันให้เป็นจริงหากขาดซึ่งวิสัยทัศน์และประสบการณ์แล้ว นักลงทุน อาจเปลี่ยนจากผู้โชคดีเป็นผู้โชคร้ายในพริบตา
2. บริการบริหารการขาย...พี่เลี้ยงมือหนึ่งของนักลงทุน
ถ้าเราพร้อมเรื่องที่เรื่องทุนแล้ว นักลงทุนควรติดปีกสู่ความสำเร็จด้วยการมองหา “ที่ปรึกษาด้านบริหารการขาย” มาเป็นโค้ชในการลงทุน เพราะประสบการณ์สร้างไม่ได้ในหนึ่งวัน การเข้ามาของที่ปรึกษา ก็เหมือนกับการปูทางลัดสู่ความสำเร็จด้วยความปลอดภัยและเสริมศักยภาพให้เหนือกว่า ปัจจุบันในเมืองไทยก็มีบริษัทที่ให้บริการ ในด้านดังกล่าวอยู่มาก แล้วเราจะเลือกยังไง อันนี้สำคัญ
3. วิธีเลือก “ใช่หรือไม่พี่เลี้ยงตัวจริง”
“ชื่อเสียงและประสบการณ์ความสำเร็จที่ผ่านมา” สิ่งแรกที่นักลงทุนต้องให้ความสำคัญมากกว่า “ราคา ค่าบริการ” หลายคนที่ชอบต่อราคาและชอบของถูกมักตกม้าตายตั้งแต่ยังไม่ได้ออกศึก เราจึงต้องตรวจสอบ ผลงานของบริษัทที่ปรึกษาแบบเจาะลึก เพื่อให้มั่นใจได้เต็ม 100% ว่า พี่เลี้ยงจะช่วยเราจนถึงฝั่งฝันไม่ปล่อยให้ เราร้องไห้อยู่ตามลำพัง เพราะหลายรายที่เอาราคาเป็นเกณฑ์หลักในการคัดเลือกก็ต้องทนร้องไห้ และต้องหาพี่เลี้ยงคนใหม่เข้ามาดูแลต่อแบบกระท่อนกระแท่น เพราะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว
4. บทบาทของพี่เลี้ยงที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ
โครงการอสังหาริมทรัพย์จะขายได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับ 4 ปัจจัยหลักๆ ประกอบด้วย ทำเล ราคา ดีไซน์ และการบริหารการขายโครงการ พี่เลี้ยงที่ดีต้องมีความพร้อมที่จะรู้ว่า “ที่ๆ มีอยู่ควรนำไปทำอะไร ขายใคร หน้าตาต้องออกมาเป็นแบบใด ตั้งราคาเท่าไหร่ กฎหมายเบื้องต้นในการประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และที่สำคัญคือ นานแค่ไหนที่จะขายหมด” หากเราตั้งคำถาม เหล่านี้ไป แต่พี่เลี้ยงตอบได้ไม่ครบ คงต้องลองวิเคราะห์ดูว่า “เรากำลังเลือกพี่เลี้ยงผิดหรือไม่” เพราะพี่เลี้ยงที่ดีย่อมต้องนำประสบการณ์ที่มีมาประยุกต์ใช้เพื่อวางกลยุทธ์ ให้นักลงทุนแบบไร้จุดอ่อน “บริการบริหารการขาย หรือ Sales Management นั้น ปัจจุบันเข้ามามีบทบาทอย่างมากต่อนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีวิสัยทัศน์และไม่ต้องการเผชิญความเสี่ยงที่ควบคุมได้”
กรณีศึกษา 2 โครงการใหม่ที่เชื่อและพร้อมจะเดินไปพร้อมกับพี่เลี้ยงแบบทีมเวิร์ค
นางรัชนี อิทธิวัฒนา ประธานบริหาร บริษัท อัลไพน์ แอสเสทส์ จำกัด ผู้ดำเนินโครงการคอนโดมิเนียม เอ็กซ์ วี ไอ เดอะ ซิกซ์ทีน (XVI The Sixteenth) ซอยสุขุมวิท 16 “ก่อนหน้านี้โครงการที่พัฒนาทั้งหมด จะเป็นหอพักและอพาร์ทเมนต์เป็นหลัก แต่ด้วยศักยภาพที่ดินย่านสุขุมวิทจึงทำให้เราคิดว่ามันน่าจะเป็นได้ มากกว่า จึงสรุปว่าต้องการพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับเรา ดังนั้นการหา ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางกลยุทธ์การตลาดและการขายจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะทำให้เริ่มต้นธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว ได้งานที่เป็นระบบ ได้ความเป็นมืออาชีพ ได้แนวการบริหารที่เพิ่มมุมมองที่กว้างและลึกกว่าดำเนินงานเอง และยังได้รู้จักหุ้นส่วนธุรกิจต่างๆ เพิ่มมากขึ้น หลายคนอาจมองว่าการมีที่ปรึกษาทำให้ทำงานได้ไม่ถนัดไม่อิสระ แต่ควรมองกลับในอีกมุมคือ เป็นการดีที่มีผู้รู้และมีประสบการณ์เชี่ยวชาญคอยดูแลในหลายๆ ด้านคำปรึกษา ต่างๆ นั้น อยู่ที่คนทำธุรกิจเองว่าจะพิจารณานำไปคิดและใช้ต่อไปอย่างไร เรื่องแนวทาง การดำเนินธุรกิจนั้น ก็ควรเลือกที่ปรึกษาที่มีแนวการทำธุรกิจไปในแนวทางใกล้เคียงกัน มีการคุยขอบเขตและแนวทางก่อนทำงาน ร่วมกัน โดยส่วนตัวแล้วที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ในอุดมคตินั้น ต้องมีความหลากหลายของธุรกิจ ที่ให้คำปรึกษา มองหลายๆ มุม และสามารถให้คำปรึกษาภาพใหญ่ก่อนแตกย่อยลงมาเป็นระดับกลาง และช่วยดูแลการทำงานจนถึงระดับปฏิบัติการได้ในที่เดียวกัน ที่สุดแล้วการที่จะประสบผลสำเร็จจริงๆ แล้วนั้นขึ้นอยู่กับการทำงานของเจ้าของนั่นเอง แต่ระหว่างทางที่เดินไปนั้นมีผู้ช่วยชี้แนวให้เดินไปด้วยกัน อย่างสบายใจหรือไม่ ก็คงต้องเลือกคู่ดูใจกันไปก่อนตัดสินใจ”
ด้านนายก้าน ประชุมพรรณ์ ประธาน บริษัท เดอะบีช ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด เจ้าของโครงการ คอนโดมิเนียม “เดอะบีช คอนโดเทล” จ. ภูเก็ต กล่าวถึงประสบการณ์ในการคัดสรร “พี่เลี้ยงด้าน การลงทุนอสังหาริมทรัพย์” ว่า แม้ว่าบริษัทจะมีประสบการณ์ในการลงทุนด้านอสังหาฯ มาแล้วหลากหลาย ประเภท แต่เมื่อต้องพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมซึ่งถือเป็นครั้งแรกของบริษัทฯ เราก็ต้องการมุมมองของ ผู้เชี่ยวชาญแบบมืออาชีพเข้ามาช่วยตั้งแต่เริ่มต้นจนปิดการขาย ความสำเร็จนอกจากจะเกิดจากวิสัยทัศน์ของ ผู้ประกอบการแล้ว การได้ทีมที่แข็งแกร่งเพื่อวางกลยุทธ์การตลาดและการขายก็สำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นหาก บริษัทที่ปรึกษาสามารถตีโจทย์โครงการแตก รู้จุดขายที่จะนำเสนอสู่มือผู้บริโภคอย่างถูกต้องและรวดเร็วแล้ว รวมทั้งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างทางอย่างสมบูรณ์ และใส่ใจในทุกช่วงเวลาของการขายก็คงไม่ต้องกังวลถึง ความเสี่ยงใดๆ อย่างเช่น โครงการคอนโดมิเนียมเดอะบีช คอนโดเทล ที่เน้นเจาะตลาดคนไทย 80% และต่างชาติ 20% โดยมุ่งไปที่นักลงทุนเป็นหลัก เราก็ต้องหาช่องทางไปถึงกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว ซึ่งที่เป็นประสบการณ์ใหม่ น่าจะเป็นคำแนะนำของบริษัทที่ปรึกษาบริหารการขายที่แนะนำให้จับมือกับที่ปรึกษาในต่างประเทศเพื่อเสนอขายโครงการ และได้รับการตอบรับอย่างดี จึงเป็นอีกตัวอย่างที่ไม่ต้องรอการเข้ามาของลูกค้า แต่ที่ปรึกษาแนะให้เรารู้ว่าเราควรทำอย่างไร ที่จะเข้าไปถึงกลุ่มเป้าหมายต่างชาติเหล่านั้น”
และทั้งหมดนี้ คงตอบคำถามของหลายคนได้แล้วว่า “ทำไมบริษัทที่ปรึกษาด้านบริหารโครงการ จึงจำเป็นไม่แพ้การมีที่ดินและเงินทุน” เพราะทั้ง 3 ปัจจัยต่างต้องเสริมซึ่งกันและกัน จึงจะถึงปลายทาง ความสำเร็จที่วางไว้
บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เริ่มดำเนินกิจการเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2539 ภายใต้ทุนจดทะเบียนปัจจุบันถึง 600 ล้านบาท (ชำระแล้ว) นับเป็นทุนจดทะเบียนของผู้ให้บริการอสังหาริมทรัพย์ที่มากที่สุดในประเทศไทย ด้วยศักยภาพและโครงสร้างขององค์กรที่เข้มแข็ง พลัส ได้ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำด้านบริการอสังหาริมทรัพย์ โดยมีธุรกิจบริการ คือ ตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ และบริหารงานขายโครงการ การบริหารจัดการเพื่อที่พักอาศัย การบริหารจัดการทรัพยากรอาคาร ที่ปรึกษาการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของ พลัส พร็อพเพอร์ตี้: www.plus.co.th