กรุงเทพฯ--28 พ.ค.--กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง
กรมบัญชีกลาง เปิดเผยผลการเบิกจ่ายค่าก่อสร้างสนามฟุตซอล จากงบประมาณปี 51 ที่อนุมัติให้ขยายเวลาเบิกจ่ายเงินจนถึงปี 55 จำนวน 402 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 399.27 ล้านบาท สำหรับงบประมาณที่ไม่เพียงพอกับค่าก่อสร้าง กทม. ต้องได้รับอนุมัติงบประมาณก่อนจึงจะเบิกจ่ายได้
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ชี้แจง กรณีการอนุมัติเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งใช้เงินงบประมาณจำนวนมากและแหล่งเงินจากหลายปีงบประมาณ โดยเบื้องต้นใช้เงินงบประมาณปี พ.ศ. 2551 ซึ่งเปลี่ยนแปลงจากรายการโครงการบำบัดน้ำเสียคลองเตย จำนวน 750 ล้านบาท มาเป็นรายการก่อสร้าง Futsal Stadium จำนวน 402 ล้านบาท โดยให้ดำเนินการก่อหนี้ผูกพันให้ทันภายในเดือนมีนาคม 2555 ซึ่ง กทม. ได้ทำสัญญาก่อสร้างเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2555 และได้มีการเบิกจ่ายมาโดยตลอดทุกเดือน จำนวน 4 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 399.27 ล้านบาท คงเหลือ 2.73 ล้านบาท โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2555 จำนวน 80.08 ล้านบาท ซึ่งเป็นการโอนเงินเข้าบัญชีของ กทม. มิได้จ่ายแก่ผู้รับจ้างโดยตรง ซึ่งโดยปกติหน่วยงานจะได้รับเงินภายใน 3 วันทำการ หลังจากนั้นเป็นขั้นตอนของการนำไปใช้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์ภายใต้เงื่อนไขที่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบของทางราชการเรียบร้อยแล้ว และในกรณีของ กทม. ก็ได้ดำเนินการเช่นเดียวกัน จึงไม่น่าจะมีปัญหาใด ๆ
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับงบประมาณเพื่อการก่อสร้างสนามฟุตซอล จำนวนกว่า 1,200 ล้านบาท นั้น กทม. ต้องได้รับเงินงบประมาณก่อนจึงจะเบิกจ่ายได้ และจากการตรวจสอบพบว่า ได้ส่งรายละเอียดเพื่อขอเปลี่ยนแปลงรายการจากหลายโครงการซึ่งเป็นเงินงบประมาณของปี พ.ศ. 2550 2551 2552 และปี 2554 เป็นเงินจำนวน 71.28 ล้านบาท 239.52 ล้านบาท 37.80 ล้านบาท และ1.08 ล้านบาท ตามลำดับ รวมจำนวน 346.68 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2555 นี้เอง ซึ่งน่าจะเป็นรายการที่ทาง กทม.เห็นว่ายังไม่ถึงระยะเวลาที่ต้องเบิกจ่ายในขณะนี้จึงนำมาใช้ในโครงการที่จำเป็นเร่งด่วนก่อน
“สำหรับการพิจารณาอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงรายการหรือการอนุมัติให้ขยายเวลาเบิกจ่ายเงินหรือไม่นั้น กรมบัญชีกลาง เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินของแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ อยู่แล้ว ทั้งด้านกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และการเบิกจ่ายเงินของแผ่นดิน ซึ่งหากหน่วยงานของรัฐมีกรณีที่เป็นปัญหาหรืออุปสรรคใด ๆ ก็พร้อมที่จะหาแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหา อย่างถูกต้อง และโปร่งใส เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน” นายรังสรรค์ กล่าว