กรุงเทพฯ--29 พ.ค.--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม มั่นใจ พัฒนาที่ปรึกษาธุรกิจให้รู้ลึกในการดำเนินธุรกิจตลาด AEC พร้อมเข้าช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนไทย รับมือและรุกเปิดตลาด AEC ปี 2558 อย่างแข็งแกร่ง
นายภานุวัฒน์ ตริยางกูรศรี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาหน่วยบริการอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (สพบ.กสอ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กระแสความนิยมสินค้าที่เป็นธรรมชาติ ส่งเสริมสุขภาพ รักษ์สิ่งแวดล้อมและสินค้าที่อิงกับวัฒนธรรม กำลังเป็นที่ต้องการ ดังนั้น เมื่อเปิดตลาด AEC ผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนจะได้รับประโยชน์จากการมีโอกาสส่งสินค้าไปขายในตลาดอาเซียนได้มากขึ้น จากการที่มีประชากรในกลุ่มอาเซียนรวมกว่า 590 ล้านคน รวมถึงมีโอกาสในการขยายช่องทางตลาดไปยัง ASEAN+3 (จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้) และ ASEAN+6 (ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และอินเดีย) รวมไปถึงสามารถใช้ทรัพยากรธรรมชาติ แรงงานและวัตถุดิบการผลิตที่มีความหลากหลายให้เกิดประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจได้ โดยเฉพาะสินค้าที่มีศักยภาพในการส่งออกรวมถึงสินค้าที่ตรงกับความต้องการของตลาดประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้น ผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนหรือผู้ผลิตสินค้า OTOP จึงควรเร่งพัฒนาศักยภาพในการดำเนินธุรกิจและสร้างความน่าเชื่อถือแก่ลูกค้า คู่สัญญา และแหล่งเงินทุน เป็นต้น
สำหรับผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนที่ยังไม่มีความชำนาญ สามารถเข้ามาใช้บริการที่ปรึกษาธุรกิจของสำนักฯ ได้ ซึ่ง สพบ. มั่นใจว่า ที่ปรึกษาธุรกิจที่ได้รับการคัดเลือกและผ่านการอบรมเตรียมความพร้อมรับมือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จะช่วยผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนได้พัฒนาตนเองจากธุรกิจที่ตอบสนองต่อความต้องการระดับท้องถิ่น ให้ยกระดับไปสู่ธุรกิจที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในระดับสากลได้อย่างแข็งแกร่งและมั่นคง
นอกจากนั้น เพื่อให้ผู้ประกอบการธุรกิจและประชาชนทั่วไป เข้าใจถึงบทบาท และประโยชน์ที่จะได้รับจากการใช้ที่ปรึกษาธุรกิจ สำนักพัฒนาหน่วยบริการอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จึงจัดกิจกรรมประกวดวีดีทัศน์แอนิเมชั่นในหัวข้อ “ ที่ปรึกษาธุรกิจคู่คิด SMEs ” ความยาวไม่เกิน 3 นาที เปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษาและประชาชนทั่วไป สามารถสมัครเข้าร่วมประกวดฯ ได้ ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 15 มิถุนายน 2555 และปิดรับผลงาน 20 กรกฎาคมนี้ เพื่อชิงรางวัลเงินสด มูลค่ากว่า 36,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaisp.org และ Facebook/SP VDO Animation Contest
ทั้งนี้ นางนลินี ทองแท้ ที่ปรึกษาตัวอย่างแห่งปี 2554 สาขาวิสาหกิจชุมชน และกรรมการเครือข่ายที่ปรึกษาธุรกิจวิสาหกิจชุมชน สำนักพัฒนาหน่วยบริการอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจชุมชนหรือ OTOP มีแนวโน้มที่จะเติบโตได้มากขึ้นจากการได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง โดยภาครัฐได้มีการให้ความรู้ คำแนะนำและงบประมาณสำหรับการพัฒนาเฉพาะด้านในเชิงลึก พร้อมทั้งยังมีการส่งเสริมในด้านกลยุทธ์และการตลาด รวมทั้งการใช้ที่ปรึกษาธุรกิจที่มีความชำนาญเฉพาะทางในด้านต่างๆ ขณะเดียวกัน จะช่วยให้กลุ่มธุรกิจชุมชนมีการปรับตัว และปรับปรุงผลิตภัณฑ์ เพื่อรับมือกับการแข่งขันได้มากขึ้น ธุรกิจชุมชนหลายรายสามารถเติบโตไปสู่ SMEs ได้รวดเร็วขึ้นกว่าแต่ก่อน
“ ปี 2558 ประเทศไทยจะเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่ปรึกษาธุรกิจจึงต้องนำข้อมูลมาศึกษาในเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง เพื่อชี้แนะให้ผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนได้ตระหนักและเกิดความตื่นตัว ทั้งนี้ ผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนต้องยกระดับและเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์ให้แตกต่างและมีมาตรฐาน ใช้ต้นทุนทางวัฒนธรรม อัตลักษณ์และภูมิปัญญาที่ไม่เหมือนใครอย่างสร้างสรรค์ที่สุด และปกป้องความรู้ที่ตนเองมีอยู่ รวมถึง ศึกษาข้อกำหนดของการเป็นประชาคมอาเซียน อาทิ การที่จะต้องศึกษาลักษณะและวิถีชีวิตต่างๆ ของกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างไปจากเดิม ข้อห้าม ข้อกำหนดของบางประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมาตาฐานการจัดการ วัตถุดิบบางชนิด ”