กรุงเทพฯ--29 พ.ค.--กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ปัจจุบันคลินิกศัลยกรรมเสริมความงามกำลังได้รับความนิยมและมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ ดังจะเห็นได้จากข้อมูลของผู้ประกอบการในธุรกิจเสริมความงามที่พบว่าธุรกิจคลินิกเสริมความงามและศัลยกรรมตกแต่ง มีมูลค่าตลาดในปี 2554 สูงถึงประมาณ 14,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณร้อยละ 10 ต่อปี ในขณะที่ข้อมูลการสำรวจความคิดเห็นของคนไทยต่อวงการศัลยกรรมจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 10-25 ปี จำนวน 5,000 คน พบว่าร้อยละ 57.7 สนใจอยากทำศัลยกรรม กลุ่มที่สนใจมากที่สุดอยู่ในช่วงอายุ 18-22 ปี มากถึงร้อยละ 68.88 และเชื่อมั่นในความปลอดภัยต่อการทำศัลยกรรมร้อยละ 59.82 ส่วนจุดที่วัยรุ่นสนใจอยากทำมากที่สุดคือ เสริมจมูก ร้อยละ 59.25 ทำตาสองชั้นร้อยละ 46.82 ผ่าตัดปากร้อยละ10.12 เสริมคางร้อยละ 2.31 ตัดกรามร้อยละ 2.31 และเสริมหน้าอกร้อยละ 1.73 ข้อมูลข้างต้นนี้ชี้ให้เห็นว่าคนไทยที่นิยมทำศัลยกรรมความงามมีอายุน้อยลงและเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
นพ.สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.)กล่าวว่าผู้ที่นิยมทำศัลยกรรมส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับการเสริมความงามเพื่อ ลดปมด้อย ลดความผิดปกติ หรือเสริมสัดส่วนร่างกาย เสริมบุคลิกภาพให้ดูดีขึ้น สวยงามขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเสริมจมูก เสริมคาง เสริมทรวงอก ทำตา ดูดไขมันหน้าท้อง หรือการลบรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า เป็นต้น ในขณะที่กลุ่มอายุของผู้ที่เข้ารับบริการเสริมความงามในปัจจุบันก็ขยายวงขึ้น ไม่ได้จำกัดแต่เพียงกลุ่มคนวัยทำงานหรือผู้ใหญ่เท่านั้น แต่จะมีกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา รวมอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย ส่งผลให้ธุรกิจคลินิกเสริมความงามเกิดการแข่งขันทั้งในด้านของการให้บริการที่ครบวงจร การส่งเสริมการขายด้วยการลดแลกแจกแถมและการโฆษณาชวนเชื่อด้วยวิธีการต่างๆ กลายเป็นช่องว่างที่ทำให้พวกมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาฉกฉวยโอกาสในการหารายได้ จากการให้บริการเสริมความงามในรูปแบบคลินิกเถื่อน ที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย กลุ่มผู้บริโภคที่หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อของการใช้บริการ จนได้รับความเสียหายต่อทรัพย์ ต่อสุขภาพร่างกาย ต่อจิตใจและบางรายอาจถึงขั้นเสียชีวิต จนกลายเป็นกรณีและปัญหาต่างๆตามมามากมาย
นพ.สมชัยกล่าวต่อว่าการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับคลินิกเสริมความงาม ทั้งในรูปแบบของโรงพยาบาลคลินิกศัลยกรรม หรือสปา จะต้องขออนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดย สบส.จะทำหน้าที่ในการตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐานของคลินิกเสริมความงามว่ามีการขอใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ มีแพทย์ให้การรักษาและใช้เครื่องมือแพทย์ทำการรักษาจริงหรือเปล่า พร้อมทั้งให้การส่งเสริม สนับสนุน พัฒนา ควบคุมงานด้านบริการสุขภาพเพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค เช่น การออกแบบด้านอาคารสถานที่ของสถานบริการสุขภาพ การดูแลเรื่องระบบบริการสุขภาพ การบำรุงรักษาเครื่องมือแพทย์ การดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบโรคศิลปะ สถานพยาบาล และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการออกใบอนุญาต ต่อใบอนุญาต ตรวจสอบมาตรฐานสถานบริการสุขภาพตามพระราชบัญญัติ 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ. สถานพยาบาล และ พ.ร.บ. การประกอบอาชีพเวชกรรม ส่วนการบริการเสริมความงามในโรงพยาบาลนั้น กฎหมายบัญญัติให้ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดหาแพทย์ที่มีคุณภาพและถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด คือ ต้องได้รับปริญญาบัตรในการให้บริการตามกฎหมาย และจะมีกฎหมายวิชาชีพเวชกรรมของแพทยสภากำกับดูแลมาตรฐานการรักษาด้วย
“สำหรับผู้ที่อยากสวยและต้องการใช้บริการสถานเสริมความงาม ต้องพิจารณาเลือกสถานประกอบการที่มีใบอนุญาตอย่างถูกต้องจากกระทรวงสาธารณสุข และควรตรวจสอบอย่างละเอียดว่าแพทย์ที่ทำการรักษามีความเชี่ยวชาญ และมีใบอนุญาตที่ถูกต้องหรือไม่ ซึ่งสามารถนำเลขประจำตัวของแพทย์ที่ให้บริการตรวจสอบทางเว็บไซต์กองการประกอบโรคศิลปะ หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่ สายด่วนระบบบริการสุขภาพ หรือ สบส. CALL CENTER โทร. 0-2193-7999 ทาง สบส.จะรีบตรวจสอบและดำเนินการให้ทันที และถ้าเป็นต่างจังหวัดก็สามารถตรวจสอบได้ที่สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.)ทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งในการดูแลควบคุมสถานพยาบาล กองการประกอบโรคศิลปะจะมีการตรวจมาตรฐาน เพื่อพิจารณาให้มีการต่อใบอนุญาตทุกปี”นพ.สมชัย กล่าว