กรุงเทพฯ--30 พ.ค.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศผลอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาทของ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A+” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนสถานะความเป็นผู้นำในธุรกิจศูนย์การค้า ตลอดจนผลงานในการบริหารศูนย์การค้าให้มีคุณภาพสูง กระแสเงินสดที่สม่ำเสมอจากรายได้ค่าเช่าและค่าบริการ และนโยบายทางการเงินที่มีความระมัดระวัง ทั้งนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงความต้องการเงินลงทุนจำนวนมากเพื่อใช้รองรับแผนการขยายงานในช่วงปี 2555-2557 ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะยังคงรักษาผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของศูนย์การค้าไว้ได้ ทั้งนี้ แม้ว่าบริษัทมีแผนการจะใช้เงินลงทุนจำนวนมากสำหรับการขยายธุรกิจในช่วงปี 2555-2557 แต่ก็คาดว่าบริษัทจะรักษานโยบายทางการเงินที่ระมัดระวังต่อไปโดยการดำรงอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นให้อยู่ในระดับไม่เกิน 1 เท่าในระยะปานกลาง
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทเซ็นทรัลพัฒนาเป็นผู้พัฒนาศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศโดยมีตระกูลจิราธิวัฒน์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 32% รองลงมาคือ บริษัท เซ็นทรัล โฮลดิ้ง จำกัด (27%) ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกของไทย การเป็นบริษัทในเครือเซ็นทรัลทำให้บริษัทเซ็นทรัลพัฒนาได้รับประโยชน์จากการมีห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเป็นร้านค้าหลักภายในศูนย์การค้าของบริษัท ณ เดือนมีนาคม 2555 บริษัทเป็นผู้พัฒนาและบริหารศูนย์การค้าจำนวน 18 แห่งในเขตกรุงเทพฯ และจังหวัดสำคัญโดยมีพื้นที่ค้าปลีกให้เช่ารวม 1,101,150 ตารางเมตร (ตร.ม.) บริษัทเซ็นทรัลพัฒนาคงความเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารศูนย์การค้าในประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเปรียบเทียบพื้นที่ค้าปลีกในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลแล้ว บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาด 22% ณ เดือนมิถุนายน 2554 ซึ่งปรับลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนเนื่องจากศูนย์การค้าที่บริษัทเปิดใหม่ส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัด
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า บริษัทเซ็นทรัลพัฒนามีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งจากการมีอัตราการเช่าพื้นที่ในระดับสูงและรายได้ค่าเช่าของศูนย์การค้าสาขาเดิมที่เติบโตอย่างสม่ำเสมอ บริษัทมีอัตราการเช่าศูนย์การค้าโดยเฉลี่ยที่ระดับ 97.1% ต่อปีในช่วงปี 2550 ถึงไตรมาสแรกของปี 2555 ซึ่งสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 92.5% ในช่วงปี 2550 ถึง 2554 บริษัทเปิดศูนย์การค้าใหม่ 3 แห่งในปี 2554 ซึ่งได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา เชียงราย เซ็นทรัลพลาซา พิษณุโลก และเซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 โดยในไตรมาสแรกของปี 2555 ศูนย์การค้าใหม่ดังกล่าวมีอัตราการเช่าพื้นที่สูงถึง 97%-100% รายได้
ค่าเช่าของศูนย์การค้าสาขาเดิมเติบโต 9% ในปี 2554 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้ค่าเช่าและบริการของบริษัทเพิ่มขึ้น 10% จากปี 2553 เป็น 10,853 ล้านบาทในปี 2554 ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2555 รายได้ค่าเช่าและบริการของบริษัทเพิ่มเป็น 3,577 ล้านบาท เติบโตถึง 36% จาก 2,622 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 2554 ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินงานของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเปิดดำเนินการใหม่ของเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว และการมีศูนย์การค้าแห่งใหม่ที่เริ่มเปิดให้บริการในปี 2554
อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ค่าเช่าและค่าบริการและรายได้จากการขายของบริษัทเซ็นทรัลพัฒนาเพิ่มขึ้นเป็น 53.05% ในไตรมาสแรกของปี 2555 จาก 41%-42% ในช่วงปี 2552-2554 เนื่องจากบริษัทสามารถปรับเพิ่มราคาค่าเช่าพื้นที่ได้ในทุกศูนย์การค้า กระแสเงินสดของบริษัทดีขึ้น โดยอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 4.81% (ยังไม่ได้ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปี) ในไตรมาสแรกของปี 2555 จาก 3.80% (ยังไม่ได้ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปี) ในช่วงเดียวกันของปี 2554 ซึ่งเป็นผลมาจากการกลับมาเปิดให้บริการของศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าวในเดือนสิงหาคม 2554 และจากการมีศูนย์การค้าที่เปิดใหม่ในปี 2554 บริษัทมีภาระหนี้เพิ่มขึ้นจากการกู้ยืมเงินเพื่อใช้ในการขยายธุรกิจ โดยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้นเป็น 55%
ณ เดือนมีนาคม 2555 จากประมาณ 50% ณ สิ้นปี 2553 ในระหว่างปี 2555-2557 บริษัทมีความต้องการใช้เงินลงทุนประมาณ 9,000-13,000 ล้านบาทต่อปีในการขยายธุรกิจ โดยเงินลงทุนดังกล่าวจะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน รวมทั้งจากการกู้ยืม และการให้เช่า/เช่าซื้อสินทรัพย์ให้แก่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทริสเรทติ้งกล่าว
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) (CPN)
อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ A+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
CPN126A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555 คงเดิมที่ A+
CPN135A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 คงเดิมที่ A+
CPN136A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 คงเดิมที่ A+
CPN145A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 คงเดิมที่ A+
CPN164A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 คงเดิมที่ A+
CPN16OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 คงเดิมที่ A+
CPN18OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 คงเดิมที่ A+
CPN21OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 คงเดิมที่ A+
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2560 A+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่)