กรุงเทพฯ--30 พ.ค.--ทาทา มอเตอร์ส
ทาทา มอเตอร์ส ก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 ดำเนินธุรกิจในไทย เผยตั้งเป้าขยายบริการครอบคลุม หวังเพิ่มดีลเลอร์แตะ 65 แห่ง ขยายฐานรองรับลูกค้าทั่วประเทศในปีนี้ ยันพร้อมดันรถรุ่นใหม่รุกตลาด มั่นใจปีนี้ตลาดโตขึ้น ในงานประชุมผู้จำหน่าย ทาทา มอเตอร์ส ทั่วประเทศ ครั้งที่ 5
บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด จัดประชุมผู้จำหน่ายรถยนต์ทาทาทั่วประเทศ ครั้งที่ 5 พร้อมเผยถึงเป้าหมายในปีงบประมาณ 2555 (เมษายน 2555 ถึง มีนาคม 2556) ซึ่งเป็นการก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 ของ ทาทามอเตอร์สที่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างมั่นคง
นายอจิต เวนคาทารามาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในการประชุมผู้จำหน่ายทาทาครั้งนี้ว่า “ผมมีความรู้สึกยินดีกับการก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 ของ ทาทา มอเตอร์ส ในประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง ที่ผ่านมา การผลิตและประกอบสินค้าในไทย การนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่แตกต่าง การขยายโชว์รูมและศูนย์บริการให้ครอบคลุม ของเรา ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น และตั้งใจจริงของทาทา มอเตอร์ส ที่จะลงหลักปักฐานในการดำเนินธุรกิจในเมืองไทยอย่างจริงจัง และเติบโตอย่างมั่นคงต่อไปในอนาคต”
นอกจากนี้นายอจิตยังได้เปิดเผยถึงเป้าหมายในปีงบประมาณ 2555 เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้จำหน่าย ทาทา มอเตอร์ส และลูกค้าทั่วประเทศ โดยในปีนี้ ทาทา มอเตอร์ส ตั้งใจที่จะขยายบริการให้กับลูกค้าอย่างทั่วถึงครอบคลุมทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะเพิ่มศูนย์บริการเป็น 65 แห่ง ขณะที่ปัจจุบันมีรถเพื่อการพาณิชย์ของทาทาบนถนนมากขึ้นถึงกว่า 14,000 คัน จึงต้องหันมาให้ความสนใจกับการให้บริการลูกค้ามากยิ่งขึ้นเพื่อรองรับกับจำนวนรถที่จำหน่ายออกไปและรองรับฐานลูกค้าที่มีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น “ภายในระยะ เวลาเพียง 4 ปี ปัจจุบัน ทาทา มอเตอร์ส มีศูนย์บริการทั่วประเทศมากถึง 49 แห่ง ซึ่งการขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการของเราเป็นไปตามแผนการรองรับฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ ทั้งนี้ การสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญสูงสุดเสมอมา”
ขณะเดียวกัน เพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้จำหน่ายรถยนต์ทาทาและลูกค้าในประเทศไทย นายอจิตยังเปิดเผยด้วยว่า “ในปีนี้ ทาทา มอเตอร์ส จะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ลงตลาดอย่างแน่นอน เพื่อสร้างช่องทางให้กับผู้จำหน่ายให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสร้างทางเลือกในการใช้งานรถเพื่อการพาณิชย์ของทาทาได้อย่างเหมาะสมกับการใช้งาน และมีความคุ้มค่าคุ้มราคาให้ลูกค้าชาวไทยมากที่สุด และยังถือเป็นการสร้างความแข็งแกร่งและความชัดเจนให้กับแบรนด์ทาทายิ่งขึ้นในตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ และสอดคล้องกับเป้า หมายหลักในการจำหน่ายรถเพื่อการพาณิชย์ของทาทา ที่ต้องการช่วยให้ลูกค้าลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ และสร้างผลกำไรให้ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเราจะเน้นการพัฒนาทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และบริการควบคู่กัน”
ส่วนทางด้าน นายอภิเชต สีตกะลิน รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการลูกค้า บริษัท ทาทา มอ เตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ยังได้พูดถึงแนวโน้มของตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ในปีนี้ว่า “ที่ผ่านมาทาทาเริ่มดำเนินธุรกิจด้วยการเปิดตัวรถกระบะ ทาทา ซีนอน เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร โดยเราเป็นบริษัทแรกในเมืองไทยที่ผลิตและจำหน่ายรถกระบะเครื่องยนต์คอมมอนเรล 2.2 ลิตรในตลาด ซึ่งมีความโดดเด่นในเรื่องประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ทั้งในแง่สมรรถนะและความประหยัดน้ำมัน ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ของทาทาที่เป็นรถซีเอ็นจีก็เป็นที่ยอมรับในตลาดเป็นอย่างสูง แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงระยะหลังนี้ผู้บริโภคได้หันมาให้ความสนใจกับกระบะเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร ของเรามากยิ่งขึ้น เพราะเครื่องยนต์เล็กกว่า ประหยัดกว่า แต่ให้สมรรถนะไม่เป็นรองเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร และด้วยความคุ้มค่าคุ้มราคาและประโยชน์ใช้สอยของกระบะทาทาที่แตกต่างจากรถกระบะอื่นๆ เราจึงมีความมั่นใจว่ารถกระบะดีเซลของทาทา จะเป็นรถที่ตอบโจทย์ให้กับลูกค้าได้มากที่สุด โดยเฉพาะกับผู้ที่ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ ที่การสร้างผลกำไร และลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจถือเป็นหัวใจสำคัญ”
ในส่วนของภาพรวมตลาดรถยนต์ในปีนี้ ทาง ทาทา มอเตอร์ส คาดว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ทุกประเภทในตลาดจะมีแนวโน้มเติบโตขึ้นมากถึงเกือบร้อยละ 40 หรือมียอดจำหน่ายราวๆ 1,100,000 คัน ในปี 2555 นี้ โดยรถกระบะจะยังมีสัดส่วนของการเติบโตสูงสุดเช่นเดิม และคาดว่าตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน จะมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นจากปี 2554 สูงถึงประมาณร้อยละ 30
“อย่างไรก็ตาม แม้คาดว่าตลาดจะมีแนวโน้มที่จะเติบโตมากขึ้น แต่ในการแข่งขันทางการตลาด เรายังเชื่อว่า ด้วยความโดดเด่นของรถกระบะเพื่อการพาณิชย์ของทาทา ซึ่งมีจุดเด่นที่นอกเหนือจากความประหยัดเชื้อ เพลิงแล้ว ยังมีประโยชน์ใช้สอยที่มีมากกว่าจากการใช้กระบะแบบพื้นเรียบ ไม่ติดซุ้มล้อ ที่ช่วยให้ขนสินค้าต่างๆ ได้มากกว่ากระบะทั่วไป ซึ่งช่วยลดต้นทุนในการขนส่ง สร้างความคุ้มค่าคุ้มราคามากกว่า เราจึงคาดว่าในส่วนของตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ของทาทาก็จะมีโอกาสสร้างยอดจำหน่ายได้มากยิ่งขึ้นตามแนวโน้มของตลาดในปีนี้เช่นกัน” นายอภิเชตกล่าว